พบผลลัพธ์ทั้งหมด 869 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3579/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยิงเพื่อขู่ มิใช่เจตนาฆ่า ไม่เป็นความผิดฐานพยายามฆ่า
เจ้าพนักงานตำรวจวิ่งไล่ตามจับจำเลยซึ่งวิ่งหนีไปในระยะห่างกันประมาณ 50 เมตร จำเลยหันกลับมาแล้วใช้ปืนยิงมาที่เจ้าพนักงานตำรวจซึ่งวิ่งนำหน้า 1 นัด เมื่อพฤติการณ์ที่จำเลยยิงดังกล่าวฟังไม่ได้ว่าเป็นการยิงในลักษณะมุ่งเล็งต่อเป้าหมาย ทั้งตามบันทึกการจับกุมก็ระบุแต่เพียงว่าจำเลยยิงสกัดกั้นการติดตามของเจ้าพนักงานตำรวจ แสดงว่าจำเลยมิได้มีเจตนาที่จะยิงเจ้าพนักงานตำรวจคนหนึ่งคนใด หากเป็นเพียงการยิงขู่เพื่อมิให้เจ้าพนักงานติดตามจับกุมเท่านั้น จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติการตามหน้าที่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3579/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนายิงเพื่อขู่ ไม่ใช่เจตนาฆ่า ไม่เป็นความผิดฐานพยายามฆ่า
เจ้าพนักงานตำรวจวิ่งไล่ตามจับจำเลยซึ่งวิ่งหนีไปในระยะห่างกันประมาณ 50 เมตร จำเลยหันกลับมาแล้วใช้ปืนยิงมาที่เจ้าพนักงานตำรวจซึ่งวิ่งนำหน้า 1 นัด เมื่อพฤติการณ์ที่จำเลยยิงดังกล่าวฟังไม่ได้ว่าเป็นการยิงในลักษณะมุ่งเล็งต่อเป้าหมาย ทั้งตามบันทึกการจับกุมก็ระบุแต่เพียงว่าจำเลยยิงสกัดกั้นการติดตามของเจ้าพนักงานตำรวจ แสดงว่าจำเลยมิได้มีเจตนาที่จะยิงเจ้าพนักงานตำรวจคนหนึ่งคนใด หากเป็นเพียงการยิงขู่เพื่อมิให้เจ้าพนักงานติดตามจับกุมเท่านั้น จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติการตามหน้าที่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3380/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนายิงโดยตรง, พยายามฆ่า, และการชิงทรัพย์: การพิเคราะห์หลักฐานและการร่วมกระทำผิด
การที่จำเลยที่ 1 เล็งอาวุธปืนไปทางผู้เสียหาย ขณะเดียวกันได้พูดว่ามึงตายเสียเถอะ ประกอบกับภายในอาวุธปืนของจำเลยที่ 1ก็มีปลอกกระสุนปืนที่ยิงแล้ว 4 ปลอก และคำให้การของจำเลยที่ 1ในชั้นสอบสวนระบุว่าได้เล็งอาวุธปืนไปทางผู้เสียหายแล้วยิง 1 นัดแต่กระสุนปืนไม่ลั่น เมื่อผู้เสียหายวิ่งหนีได้ยิงอีก 4 นัดกระสุนปืนลั่น ทั้งจำเลยที่ 1 แสดงท่าไล่ยิงเล็งอาวุธปืนตรงไปทางผู้เสียหายให้ถ่ายรูปประกอบคำรับสารภาพไว้ ดังนี้ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยที่ 1 ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายโดยมีเจตนาฆ่าแต่ผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตายเพราะกระสุนปืนไม่ถูกอวัยวะสำคัญจำเลยที่ 1 จึงมีความผิดฐานพยายามฆ่า จำเลยทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน ภูมิลำเนาอยู่จังหวัดกาญจนบุรีได้ไป จังหวัดสมุทรสงครามด้วยกัน จำเลยทั้งสองว่าจ้างผู้เสียหายขับรถจักรยานยนต์ไปส่ง ผู้เสียหายคิดราคา 80 บาท จำเลยที่ 1ต่อราคาเพราะมีเงินเพียง 100 บาทผู้เสียหายไม่ลดราคา จำเลยที่ 1คิดไม่จ่ายค่าจ้างและชิงเอารถจักรยานยนต์ จึงลวงให้ผู้เสียหายให้ขับรถจักรยานยนต์ไปส่งอีก ตลอดระยะเวลาดังกล่าวจำเลยที่ 2ได้อยู่ใกล้ชิดกับผู้เสียหาย ไม่มีโอกาสที่จะสมคบกับจำเลยที่ 1 ได้การที่จำเลยที่ 2 หลบหนีไปกับจำเลยที่ 1 ด้วยรถจักรยานยนต์คันเดียวนั้นก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จำเลยที่ 2 จะต้องไปพร้อมกับจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นสามี ดังนี้ ข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่า จำเลยที่ 2ร่วมกับจำเลยที่ 1 กระทำผิดฐานชิงทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3365/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทำร้าย vs. พยายามฆ่า: การพิจารณาจากลักษณะบาดแผลและเหตุการณ์
จำเลยใช้มีดฟันผู้เสียหายมีบาดแผลหลังศีรษะ 2 แผล เป็นแผลยาว 5 เซนติเมตร ลึก 2 เซนติเมตร และแผลยาว 3 เซนติเมตร ลึก 0.5 เซนติเมตร แผลที่หน้าอกซ้ายยาว 6 เซนติเมตรไม่ลึก แผลฉีกขาดที่หน้าผากด้านซ้ายยาว 4 เซนติเมตร กว้าง 1 เซนติเมตรใช้เวลารักษาบาดแผลไม่เกิน 14 วัน รอยแผลที่ศีรษะ 2 แผลไม่ใช่แผลฉกรรจ์ ส่วนแผลที่อื่นเกิดจากการปล้ำกัน ขณะเกิดเหตุผู้เสียหายหันหลังให้จำเลย ถ้าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย จำเลยมีโอกาสใช้กำลังแรงเข้าโถมฟันผู้เสียหายได้ บาดแผลน่าจะฉกรรจ์มากกว่านี้ ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย คงมีเจตนาทำร้ายผู้เสียหายเท่านั้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3365/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทำร้าย vs. พยายามฆ่า: การพิจารณาบาดแผลและพฤติการณ์เพื่อประเมินเจตนาของผู้กระทำผิด
จำเลยใช้มีดฟันผู้เสียหายมีบาดแผลหลังศีรษะ 2 แผล เป็นแผลยาว5 เซนติเมตร ลึก 2 เซนติเมตร และแผลยาว 3 เซนติเมตร ลึก0.5 เซนติเมตร แผลที่หน้าอกซ้ายยาว 6 เซนติเมตร ไม่ลึก แผลฉีกขาดที่หน้าผากด้านซ้ายยาว 4 เซนติเมตร กว้าง 1 เซนติเมตร ใช้เวลารักษาบาดแผลไม่เกิน 14 วัน รอยแผลที่ศีรษะ 2 แผลไม่ใช่แผลฉกรรจ์ส่วนแผลที่อื่นเกิดจากการปล้ำกัน ขณะเกิดเหตุผู้เสียหายหันหลังให้จำเลย ถ้าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย จำเลยมีโอกาสใช้กำลังแรงเข้าโถมฟันผู้เสียหายได้ บาดแผลน่าจะฉกรรจ์มากกว่านี้ ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย คงมีเจตนาทำร้ายผู้เสียหายเท่านั้น จำเลยกระทำความผิดฐานมีเฮโรอีนก่อนวันที่ 5 ธันวาคม 2530และได้พ้นโทษไปแล้วก่อนพระราชบัญญัติล้างมลทินในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระชนมพรรษา 60 พรรษาพ.ศ. 2530 ใช้บังคับ จึงเพิ่มโทษจำเลยตามที่โจทก์ขอไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3365/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทำร้าย vs. พยายามฆ่า: การพิจารณาบาดแผลและพยานหลักฐานประกอบการตัดสินคดีอาญา
จำเลยใช้มีดฟันผู้เสียหายมีบาดแผลหลังศีรษะ 2 แผล เป็นแผลยาว 5 เซนติเมตร ลึก 2 เซนติเมตร และแผลยาว 3 เซนติเมตร ลึก0.5 เซนติเมตรแผลที่หน้าอกซ้ายยาว 6 เซนติเมตรไม่ลึก แผลฉีกขาดที่หน้าผากด้านซ้ายยาว 4 เซนติเมตร กว้าง 1 เซนติเมตรใช้เวลารักษาบาดแผลไม่เกิน 14 วัน รอยแผลที่ศีรษะ 2 แผลไม่ใช่แผลฉกรรจ์ ส่วนแผลที่อื่นเกิดจากการปล้ำกัน ขณะเกิดเหตุผู้เสียหายหันหลังให้จำเลย ถ้าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย จำเลยมีโอกาสใช้กำลังแรงเข้าโถมฟันผู้เสียหายได้ บาดแผลน่าจะฉกรรจ์มากกว่านี้ ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย คงมีเจตนาทำร้ายผู้เสียหายเท่านั้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3307/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายด้วยมีด แต่บาดแผลเล็กน้อย ศาลลดโทษฐานทำร้ายผู้อื่น ไม่ถึงขั้นพยายามฆ่า
จำเลยใช้มีดแทงผู้เสียหาย 1 ที ผู้เสียหายใช้มือรับไว้มีดบาดง่ามมือบาดแผลเพียงเล็กน้อยใช้เวลารักษา 7 - 10 วันแสดงว่าจำเลยมิได้แทงโดยแรงเช่นกริยาของคนที่ต้องการจะฆ่ากัน ทั้งสาเหตุที่แทงก็เกิดจากการที่จำเลยอ้างว่าผู้เสียหายเล่นไพ่โกง มีการพูดปรับความเข้าใจกันแล้วเกิดทำร้ายกันขึ้น ซึ่งไม่ใช่สาเหตุร้ายแรง จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3307/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่า - พยายามฆ่า - ทำร้ายร่างกาย - พฤติการณ์การทำร้าย - การลงโทษ
จำเลยใช้มีดแทงผู้เสียหาย 1 ที ผู้เสียหายใช้มือรับไว้มีดบาดง่ามมือบาดแผลเพียงเล็กน้อยใช้เวลารักษา 7-10 วันแสดงว่าจำเลยมิได้แทงโดยแรงเช่นกิริยาของคนที่ต้องการจะฆ่ากันทั้งสาเหตุที่แทงก็เกิดจากการที่จำเลยอ้างว่าผู้เสียหายเล่นไพ่โกงมีการพูดปรับความเข้าใจกันแล้วเกิดทำร้ายกันขึ้น ซึ่งไม่ใช่สาเหตุร้ายแรง จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3232/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามฆ่าและการลดโทษจากบันดาลโทสะที่ไม่สมเหตุผล
ก่อนเกิดเหตุ ก. และบุตรกับจำเลยทั้งสองทะเลาะวิวาทและชกต่อยทำร้ายร่างกายกันอันเป็นการสมัครใจวิวาท แล้ว ก.ใช้ปืนไล่ยิงจำเลยที่ 1 แต่ไม่ถูก ซึ่งเป็นเหตุที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกัน จำเลยทั้งสองกลับบ้านเอาปืนไปยิงเข้าไปในร้านของก. ถูก ว. ได้รับบาดเจ็บ จำเลยทั้งสองจะอ้างว่าถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมจึงกระทำไปโดยบันดาลโทสะหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3129/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทำร้ายร่างกายสาหัส ไม่ถึงเจตนาฆ่า ศาลลดโทษจากพยายามฆ่าเป็นทำร้ายร่างกาย
จำเลยที่ 1 ใช้มีดดาบปลายแหลมยาวประมาณ 1 แขนฟันศีรษะโจทก์ร่วม 2 ที โจทก์ร่วมยกแขนซ้ายขึ้นรับ คมมีดไม่ถูกศีรษะแต่ถูกหลังมือซ้ายระหว่างนิ้วหัวแม่มือกับโคนนิ้วกลางทำให้เอ็น ขาด และถูกแขนซ้ายท่อนบนมีบาดแผลกว้างครึ่งเซนติเมตร ยาว 2 เซนติเมตร เมื่อโจทก์ร่วมวิ่งหนีแล้วสะดุดล้มลง จำเลยทั้งสองวิ่งตามมา โจทก์ร่วมถูกฟันที่ศีรษะอีก 1 ที มีบาดแผลกว้างครึ่งเซนติเมตร ยาว 2 เซนติเมตรเมื่อ ส. จะเข้าช่วยก็ถูกจำเลยที่ 2 ผลักล้มคว่ำลง แล้วใช้ขวานหน้ากว้างประมาณ 3 นิ้ว ด้ามยาวประมาณ 1 ฟุต ฟันที่กกหูด้านซ้ายมีบาดแผลที่เหนือใบหู 1 แผล กว้าง 3 เซนติเมตร ยาว 8เซนติเมตร และที่หลังใบหูมีบาดแผลกว้าง 1 เซนติเมตร ยาว 3เซนติเมตร แม้มีดดาบของจำเลยที่ 1 กับขวานของจำเลยที่ 2 อาจใช้ทำร้ายบุคคลให้ถึงแก่ความตายได้ แต่ไม่ปรากฏว่าบาดแผลทุกแผลของโจทก์ร่วมกับ ส. ลึกเท่าใด กะโหลกศีรษะของบุคคลทั้งสองแตกหรือไม่เนื้อสมองได้รับอันตรายหรือไม่ โจทก์ร่วมรับการรักษาที่โรงพยาบาล 20 กว่าวันแล้วกลับไปรักษาตัวที่บ้านไม่ปรากฏว่ารักษานานเท่าใดส่วน ส. รับการรักษาที่โรงพยาบาล 4 วันแล้วกลับบ้านแต่ต้องมาทำแผลอีก 1 เดือนเศษ พิจารณาถึงบาดแผลของโจทก์ร่วมกับ ส. ทุกแผลแล้วเห็นได้ว่าจำเลยทั้งสองมิได้ฟันโจทก์ร่วมกับ ส. อย่างแรงนอกจากนี้เมื่อโจทก์ร่วมวิ่งหนีแล้วสะดุดล้มลงและถูกจำเลยคนหนึ่งฟันที่ศีรษะอีก 1 ที แล้วก็ไม่ฟันซ้ำอีกทั้งที่มีโอกาสจะฟันซ้ำได้พฤติการณ์เหล่านี้ฟังไม่ได้ว่าจำเลยทั้งสองมีเจตนาฆ่าโจทก์ร่วมกับ ส. คงมีเจตนาทำร้ายบุคคลทั้งสองเท่านั้น เมื่อโจทก์ร่วมกับ ส. ต้องป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่ายี่สิบวัน จำเลยทั้งสองจึงมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส.