พบผลลัพธ์ทั้งหมด 361 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 744/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำความผิดเดิม: โจทก์ฟ้องคดีซ้ำหลังจากศาลพิพากษาคดีเดิมเสร็จเด็ดขาดแล้ว ถือเป็นการฟ้องซ้ำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปลอมหนังสือ ศาลได้พิพากษายกฟ้อง โดยเห็นว่าฟ้องเคลือบคลุม โจทก์จึงฟ้องจำเลยหาว่า ปลอมหนังสืออันเป็นความผิดเรื่องเดียวกันในคดีก่อน ศาลสอบถามโจทก์ถึงข้อที่จำเลยคัดค้านเรื่องฟ้องเคลือบคลุมไม่ชัดแจ้ง โจทก์กลับยืนยันว่า ได้บรรยายฟ้องเพียงพอที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว เท่ากับโจทก์ยืนยันขอให้วินิจฉัยคดีว่า จำเลยจะมีความผิดตามคำกล่าวในฟ้องของโจทก์หรือไม่ ศาลก็ได้วินิจฉัยข้อหาตามที่โจทก์กล่าวในฟ้องเสร็จเด็ดขาดไปแล้ว โจทก์จะรื้อฟื้นความผิดของจำเลยที่ได้ฟ้องจำเลยแล้วมาฟ้องอีกไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 633/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาคดีกู้ยืมเงินและทองรูปพรรณตามพยานหลักฐานและข้อตกลงร่วม
คู่ความตกลงกันสืบพะยานร่วมคนเดียว แล้วให้ศาลพิพากษาไป เมื่อสืบพะยานร่วมเสร็จ คู่ความก็ขอให้ศาลนัดตัดสิน ดังนี้ เมื่อคำเบิกความของพะยานฟังเป็นแน่นอนไม่ได้ ก็ไม่สมควรที่จะให้มีการพิจารณากันใหม่ แต่ต้องกลับไปพิจารณาถึงประเด็นแห่งคดี คือ จำเลยให้การฟ้องแย้งว่าได้มอบทองไว้แก่โจทก์หนัก 4 บาท 2 สลึง โจทก์ให้การว่า ทองที่มอบไว้มีน้ำหนักเพียงบาทเดียว เมื่อจำเลยไม่มีพะยานสนับสนุนคำกล่าวอ้าง ก็ต้องฟังตามคำรับของโจทก์ว่า มีน้ำหนักเพียงบาทเดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 503/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบข้าวสารลักลอบออกนอกราชอาณาจักร แม้จำเลยจะขายไปแล้ว ศาลยังสามารถพิพากษาให้ริบราคาแทนได้
จำเลยมีผิดฐานลักลอบนำข้าวสาร 14 กระสอบ ราคา 1,680 บาทออกไปนอกราชอาณาจักร และข้าวรายนี้กำลังอยู่ในความรักษาของเจ้าหน้าที่ในเมืองต่างประเทศ ดังนี้ ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 29ศาลย่อมพิพากษาให้ริบข้าวสาร 14 กระสอบได้ ถ้าจำเลยส่งข้าวสารไม่ได้ ก็ต้องใช้ราคาข้าวแทน
(ดูฎีกาที่ 742/2491)
(ดูฎีกาที่ 742/2491)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 235/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาคดีอาญาต้องมีข้อเท็จจริงสนับสนุน หากข้อเท็จจริงไม่ตรงกับฟ้อง ศาลต้องยกฟ้องและคืนของกลาง
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยสมคบกันเล่นการพะนันจับยี่กี ทางพิจารณาฟังไม่ได้ว่าจำเลยเล่นจับยี่กี ศาลต้องยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยทุกคนตามฟ้อง จำเลยบางคนฎีกา เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณา ฟังไม่ได้ว่าเป็นการเล่นจับยี่กี ดังฟ้อง ต้องยกฟ้องตลอดไปถึงจำเลยที่มิได้ฎีกาด้วย เพราะเป็นเหตุในลักษณะคดี
เมื่อศาลพิพากษาว่า จำเลยมิได้กระทำผิดดังฟ้อง ของกลางที่จับได้ มิใช่เป็นสิ่งที่มีไว้ผิดกฎหมาย ต้องคืนให้เจ้าของไป.
ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยทุกคนตามฟ้อง จำเลยบางคนฎีกา เมื่อศาลฎีกาเห็นว่าข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณา ฟังไม่ได้ว่าเป็นการเล่นจับยี่กี ดังฟ้อง ต้องยกฟ้องตลอดไปถึงจำเลยที่มิได้ฎีกาด้วย เพราะเป็นเหตุในลักษณะคดี
เมื่อศาลพิพากษาว่า จำเลยมิได้กระทำผิดดังฟ้อง ของกลางที่จับได้ มิใช่เป็นสิ่งที่มีไว้ผิดกฎหมาย ต้องคืนให้เจ้าของไป.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 235/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาคดีพนัน: ข้อเท็จจริงไม่ตรงกับฟ้อง ย่อมยกฟ้อง แม้ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษ
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยสมคบกันเล่นการพนันจับยี่กีทางพิจารณาฟังไม่ได้ว่าจำเลยเล่นจับยี่กี ศาลต้องยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยทุกคนตามฟ้อง จำเลยบางคนฎีกาเมื่อศาลฎีกาเห็นว่าข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาฟังไม่ได้ว่าเป็นการเล่นจับยี่กี ดังฟ้อง ต้องยกฟ้องตลอดไปถึงจำเลยที่มิได้ฎีกาด้วยเพราะเป็นเหตุในลักษณะคดี
เมื่อศาลพิพากษาว่า จำเลยมิได้กระทำผิดดังฟ้องของกลางที่จับได้ มิใช่เป็นสิ่งที่มีไว้ผิดกฎหมายต้องคืนให้เจ้าของไป
ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยทุกคนตามฟ้อง จำเลยบางคนฎีกาเมื่อศาลฎีกาเห็นว่าข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาฟังไม่ได้ว่าเป็นการเล่นจับยี่กี ดังฟ้อง ต้องยกฟ้องตลอดไปถึงจำเลยที่มิได้ฎีกาด้วยเพราะเป็นเหตุในลักษณะคดี
เมื่อศาลพิพากษาว่า จำเลยมิได้กระทำผิดดังฟ้องของกลางที่จับได้ มิใช่เป็นสิ่งที่มีไว้ผิดกฎหมายต้องคืนให้เจ้าของไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1732/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาความผิดฐานลักทรัพย์จากการตัดกล้วย จำเลยนำไปหรือไม่เป็นสาระสำคัญ
ฟ้องที่บรรยายว่า จำเลยใช้มีดลักตัดกล้วยของเจ้าทรัพย์ไป เจ้าทรัพย์ไปพบจำเลยในขณะทำผิดเป็นฟ้องที่ครบองค์ความผิดฐานลักทรัพย์ ต่างกับฎีกาที่ 233/2486
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1725/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำเพื่อช่วยเหลือตนเองไม่เป็นความผิดฐานทำลายพยาน, และการพิพากษาคดีธนบัตรปลอม
การทำลายสักขีพะยานเพื่อช่วยตัวเอง ไม่ได้ช่วยผู้อื่น ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 154.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1725/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำเพื่อช่วยตนเองไม่เป็นความผิดฐานทำลายสักขีพยาน และการพิพากษาเรื่องธนบัตรปลอม
การทำลายสักขีพยานเพื่อช่วยตัวเอง ไม่ได้ช่วยผู้อื่น ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 154
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1590/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตคำขอในคดีแสดงกรรมสิทธิ์ การพิพากษาต้องเป็นไปตามที่โจทก์ขอเท่านั้น แม้มีส่วนที่รุกล้ำ
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่าที่ดินหมายเลข 2 ตามแผนที่ท้ายฟ้องเป็นของโจทก์ ทางพิจารณาได้ความว่า ที่ๆ โจทก์ขอตามฟ้องเป็นของโจทก์ และปรากฎว่าโจทก์ปลูกห้องแถวรุกล้ำเข้าไปในที่ของจำเลย 2 ศอก ศาลก็ควรพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีตามที่โจทก์ขอมาเท่านั้น ที่ 2 ศอก ที่เกินมานี้ไม่มีประเด็นขึ้นมาในคดี ศาลหาควรวินิจฉัยถึงไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1588/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษจำเลยที่ศาลชั้นต้นและอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลย 1 ปี 6 เดือน แม้จะลงโทษต่างรูปแบบ
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ลงโทษจำเลย 1 ปี 6 เดือน แม้ศาลหนึ่งจะลงโทษเป็นกระทง อีกศาลหนึ่งลงโทษเป็นบท ก็ไม่เป็นการแก้ไขมาก คดีต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218