พบผลลัพธ์ทั้งหมด 411 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 965/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องขอทางภารจำยอม: ความชัดเจนของฟ้องและการนำสืบประโยชน์แห่งทาง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า มีทางสายหนึ่งผ่านที่ดินของจำเลยซึ่งตั้งอยู่ ณ ที่ใดและมีเขตติดต่ออย่างไร โจทก์ใช้ทางมา 33 ปีแล้ว จำเลยปิดทางจึงฟ้องขอให้เปิดโดยมิได้บรรยายว่า เป็นภาระจำยอมเพื่อประโยชน์แก่ที่ดินแปลงใดของโจทก์ ก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะอสังหาริมทรัพย์ของโจทก์อยู่ที่ใด โจทก์ย่อมนำสืบได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 221/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องเคลือบคลุมในคดีเพิกถอนพินัยกรรม: การแสดงข้อหาหลายนัยขัดแย้งกัน
การที่โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนพินัยกรรมโดยกล่าวในฟ้องอ้างว่าลายพิมพ์นิ้วมือในพินัยกรรมไม่ใช่ลายพิมพ์นิ้วมืออันแท้จริงของผู้ทำพินัยกรรม และว่าถึงแม้จำเลยจะพิสูจน์ได้ว่าลายพิมพ์นิ้วมือดังกล่าวเป็นลายพิมพ์นิ้วมืออันแท้จริงของผู้ทำพินัยกรรม ก็เป็นลายพิมพ์นิ้วมือที่พิมพ์ลงในขณะที่ผู้ทำพินัยกรรมถูกกลฉ้อฉล, ข่มขู่, ในขณะเสพสุราจนเมามายไม่สามารถครองสติได้ หรือขณะที่จริตวิกล กล่าวคือสติวิปลาศ ไม่รู้สึกผิดชอบ ความจำฟั่นเฟือนและหลงไหล หรือได้ถูกพิมพ์ลงขณะที่ผู้ทำพินัยกรรมได้ถึงแก่กรรมแล้ว เช่นนี้ เป็นฟ้องที่แสดงข้อหาเป็นหลายนัย ขัดแย้งกันในตัว เป็นฟ้องเคลือบคลุม ศาลต้องยกฟ้อง (อ้างฎีกาที่ 51/2487 และ 493/2495)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 221/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องเคลือบคลุมในคดีเพิกถอนพินัยกรรม: การแสดงข้อหาหลายนัยขัดแย้งกัน ทำให้ศาลต้องยกฟ้อง
การที่โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนพินัยกรรมโดยกล่าวในฟ้องอ้างว่าลายพิมพ์นิ้วมือในพินัยกรรมไม่ใช่ลายพิมพ์นิ้วมืออันแท้จริงของผู้ทำพินัยกรรม และว่าถึงแม้จำเลยจะพิสูจน์ได้ว่าลายพิมพ์นิ้วมือดังกล่าวเป็นลายพิมพ์นิ้วมืออันแท้จริงของผู้ทำพินัยกรรมก็เป็นลายพิมพ์นิ้วมือที่พิมพ์ลงในขณะที่ผู้ทำพินัยกรรมถูกกลฉ้อฉล,ข่มขู่,ในขณะเสพสุราจนเมามายไม่สามารถครองสติได้หรือขณะที่จริตวิกลกล่าวคือสติวิปลาศ ไม่รู้สึกผิดชอบ ความจำฟั่นเฟือนและหลงใหลหรือได้ถูกพิมพ์ลงขณะที่ผู้ทำพินัยกรรมได้ถึงแก่กรรมแล้วเช่นนี้ เป็นฟ้องที่แสดงข้อหาเป็นหลายนัยขัดแย้งกันในตัวเป็นฟ้องเคลือบคลุมศาลต้องยกฟ้อง
(อ้างฎีกาที่ 51/2487 และ493/2495)
(อ้างฎีกาที่ 51/2487 และ493/2495)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1336/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องเคลือบคลุมและการใส่ความละเมิด: ศาลมีอำนาจวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายเบื้องต้นได้
การวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายนั้น ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยได้เมื่อเห็นสมควร โดยไม่ต้องระบุว่าปัญหานั้นเกี่ยวกับข้อกฎหมายใดเกิดขึ้นเป็นคุณแก่ฝ่ายใด
ฟ้องว่าจำเลยไม่พอใจโจทก์หาทางให้โจทก์พ้นจากตำแหน่งโดยนำความเท็จเสนออธิการบดีให้พิจารณาโทษโจทก์หลายครั้งผลเป็นเท็จทุกครั้ง โดยมิได้กล่าวว่าจำเลยนำความเท็จเสนออธิการบดีว่ากระไร เมื่อใด เป็นเท็จอย่างใด ถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหา
ถ้อยคำที่ไม่ถือว่าเป็นการใส่ความอันจะเป็นการละเมิด
ฟ้องว่าจำเลยไม่พอใจโจทก์หาทางให้โจทก์พ้นจากตำแหน่งโดยนำความเท็จเสนออธิการบดีให้พิจารณาโทษโจทก์หลายครั้งผลเป็นเท็จทุกครั้ง โดยมิได้กล่าวว่าจำเลยนำความเท็จเสนออธิการบดีว่ากระไร เมื่อใด เป็นเท็จอย่างใด ถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหา
ถ้อยคำที่ไม่ถือว่าเป็นการใส่ความอันจะเป็นการละเมิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1336/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องเคลือบคลุมและการใส่ความ – ศาลมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นได้
การวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมายนั้น ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยได้เมื่อเห็นสมควร โดยไม่ต้องระบุว่าปัญหานั้นเกี่ยวกับข้อกฎหมายใดเกิดขึ้นเป็นคุณแก่ฝ่ายใด
ฟ้องว่าจำเลยไม่พอใจโจทก์หาทางให้โจทก์พ้นจากตำแหน่งโดยนำความเท็จเสนออธิการบดีให้พิจารณาโทษโจทก์หลายครั้งผลเป็นเท็จทุกครั้ง โดยมิได้กล่าวว่าจำเลยนำความเท็จเสนออธิการบดีว่ากระไร เมื่อใด เป็นเท็จอย่างใด ถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม ไม่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหา
ถ้อยคำที่ไม่ถือว่าเป็นการใส่ความอันจะเป็นการละเมิด
ฟ้องว่าจำเลยไม่พอใจโจทก์หาทางให้โจทก์พ้นจากตำแหน่งโดยนำความเท็จเสนออธิการบดีให้พิจารณาโทษโจทก์หลายครั้งผลเป็นเท็จทุกครั้ง โดยมิได้กล่าวว่าจำเลยนำความเท็จเสนออธิการบดีว่ากระไร เมื่อใด เป็นเท็จอย่างใด ถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม ไม่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหา
ถ้อยคำที่ไม่ถือว่าเป็นการใส่ความอันจะเป็นการละเมิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1169/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องเคลือบคลุม: การระบุความเสียหายทั้งคันเพียงพอต่อการเข้าใจข้อหาและต่อสู้คดีได้
โจทก์กล่าวฟ้องว่าจำเลยทำละเมิด โดยจำเลยขับรถยนต์ชนรถยนต์ของโจทก์เสียหายใช้ไม่ได้ทั้งคัน และเรียกค่าเสียหายเต็มราคารถตามที่เป็นอยู่ในขณะเกิดเหตุเช่นนี้ เป็นฟ้องที่ไม่เคลือบคลุมเพราะจำเลยเข้าใจข้อหาของโจทก์ได้ดีและจำเลยยังได้ต่อสู้ตามสิทธิของตนว่าค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้องนั้นสูงเกินไป เพราะรถของโจทก์อาจซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพเดิมได้ และว่ามิใช่เป็นการเสียหายทั้งคันดังโจทก์ฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1169/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องเคลือบคลุม: การระบุความเสียหายชัดเจนเพียงพอต่อการต่อสู้คดีของจำเลย ไม่ถือเป็นฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์กล่าวฟ้องว่าจำเลยทำละเมิด โดยจำเลยขับรถยนต์ชนรถยนต์ของโจทก์เสียหายใช้ไม่ได้ทั้งคัน และเรียกค่าเสียหายเต็มราคารถตามที่เป็นอยู่ในขณะเกิดเหตุเช่นนี้ เป็นฟ้องที่ไม่เคลือบคลุมเพราะจำเลยเข้าใจข้อหาของโจทก์ได้ดี และจำเลยยังได้ต่อสู้ตามสิทธิของตนว่าค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้องนั้นสูงเกินไป เพราะรถของโจทก์อาจซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพเดิมได้ และว่ามิใช่เป็นการเสียหายทั้งคันดังโจทก์ฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 775/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องอาญาคดีทำร้ายผู้อื่นถึงแก่ความตายหรือบาดเจ็บ ต้องระบุเจตนาและผู้กระทำความผิดเฉพาะเจาะจง หากฟ้องไม่ชัดเจนถือเป็นฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำการพลั้งพลาดไปโดนคนอื่นตายหรือบาดเจ็บ ก็ต้องระบุว่าทำโดยเจตนา ถ้าไม่มีว่าจำเลยทำโดยเจตนา ไม่มีว่าจำเลยทำโดยสมคบกัน และไม่มีบรรยายฟ้องว่า ใครทำให้ใครตายหรือบาดเจ็บ ดั่งนี้ถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม ให้ยกฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 775/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องอาญาต้องระบุเจตนาและผู้กระทำผิด การบรรยายฟ้องที่ไม่ชัดเจนถือเป็นฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำการพลั้งพลาดไปโดนคนอื่นตายหรือบาดเจ็บ ก็ต้องระบุว่าทำโดยเจตนา ถ้าไม่มีว่าจำเลยทำโดยเจตนา ไม่มีว่าจำเลยทำโดยสมคบกัน และไม่มีบรรยายฟ้องว่า ใครทำให้ใครตายหรือบาดเจ็บ ดั่งนี้ ถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม ให้ยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 657/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องเคลือบคลุมหรือไม่? และเจตนาทุจริตในการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเกินอัตรา
ฟ้องว่า จำเลย 4 คน สมคบกันกระทำผิด ไม่จำต้องแยกกล่าวว่าจำเลยคนไหน กระทำอย่างไร ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม