พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,595 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2075/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องลักทรัพย์/รับของโจรบัตรเอทีเอ็ม ต้องระบุชัดเจนถึงทรัพย์สินที่ถูกลักทรัพย์/รับของโจร มิใช่เฉพาะบัตร
เมื่อข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าบัตรเอทีเอ็มที่มีผู้นำไปถอนเงินในบัญชีเงินฝากของผู้เสียหายจากเครื่องเอทีเอ็มเป็นบัตรเอทีเอ็มของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายลักไปและโจทก์ฟ้องว่าจำเลยลักทรัพย์หรือรับของโจรบัตรเอทีเอ็มมิได้ฟ้องว่าจำเลยลักทรัพย์หรือรับของโจรเงินในบัญชีเงินฝากของผู้เสียหายที่ถอนไปดังนั้นหากจำเลยเป็นผู้นำบัตรเอทีเอ็มไปถอนเงินในบัญชีเงินฝากของผู้เสียหายจำเลยก็ยังไม่มีความผิดตามฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 182/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานลักทรัพย์ ปลอมเอกสารใช้เอกสารปลอม จำเลยต้องได้รับการยกประโยชน์แห่งความสงสัยเมื่อโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานยืนยัน
โจทก์ไม่มีพยานที่รู้เห็นว่าจำเลยลักเอาสมุดฝากเงินธนาคารและหนังสือใบสุทธิประจำตัวของผู้เสียหายและปลอมเอกสารใบถอนเงินและหนังสือมอบฉันทะให้รับเงินจากธนาคารไปโดยคำเบิกความของผู้เสียหายที่ว่าจำเลยกระทำความผิดดังกล่าวก็เป็นเพียงการคาดคะเนส่วนพฤติการณ์ที่จำเลยไม่สามารถนำ จ.ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของผู้เสียหายตามที่ได้กล่าวอ้างว่า จ. ได้ไปพบจำเลยโดยนำเอกสารและหลักฐานดังกล่าวของผู้เสียหายไปให้จำเลยช่วยถอนเงินให้โดยบอกว่าผู้เสียหายป่วยหรือหลังจากจำเลยเบิกเงินแล้วไม่รีบนำเงินไปมอบให้ผู้เสียหายทันทีและเมื่อถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดมารดาบุญธรรมจำเลยก็ยินยอมคืนเงินให้ผู้เสียหายโดยดีก็จะถือเป็นข้อพิรุธและฟังเป็นผลร้ายหาได้ไม่จึงมีเหตุสงสัยตามควรว่าจำเลยกระทำความผิดหรือไม่ต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1610/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ศาลฎีกามีอำนาจลงโทษฐานรับของโจร แม้ศาลล่างพิพากษายกฟ้องในความผิดฐานใช้ให้ผู้อื่นลักทรัพย์
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษฐานใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ยกฟ้องฐานรับของโจรจำเลยอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นเมื่อศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยมิได้เป็นผู้ใช้ให้นาย ว. กระทำความผิดฐานลักทรัพย์แต่การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานรับของโจรศาลฎีกามีอำนาจลงโทษจำเลยในความผิดฐานรับของโจรได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา192วรรคสาม(วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1554/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลักทรัพย์พระพุทธรูปในวัด ไม่เข้าข่ายทรัพย์อันเป็นที่สักการะบูชาประชาชน ความผิดตามมาตรา 335 ทวิ วรรคหนึ่ง
พระพุทธรูปของกลางทั้ง7องค์ที่ถูกลักไปนั้นเป็นพระพุทธรูปขนาดเล็กเก็บรักษาอยู่ในตู้ของวัดแต่ไม่ปรากฏว่าเอาไว้ทำอะไรพระพุทธรูปของกลางจึงเป็นพระพุทธรูปธรรมดาเช่นพระพุทธรูปบูชาทั่วไปถือไม่ได้ว่าเป็นทรัพย์อันเป็นที่สักการะบูชาของประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา335ทวิวรรคหนึ่งเมื่อพระราชบัญญัติของกลางมิใช่ทรัพย์อันเป็นที่สักการะบูชาของประชาชนแม้จำเลยที่4กับพวกจะลักพระพุทธรูปของกลางในวัดการกระทำของจำเลยที่4กับพวกก็ไม่เป็นความผิดตามมาตรา335วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7373/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลักทรัพย์ในเคหสถานของผู้กระทำเอง ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 335(8) ตัวการร่วมจึงไม่มีความผิด
นาง ส. เพียงคนเดียวเข้าไปลักโฉนดที่ดินในบ้านผู้เสียหายซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของนาง ส. ด้วย ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335 (8) ดังนั้นจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นตัวการร่วมกระทำผิดกับนาง ส.จึงไม่มีความผิดตามมาตราดังกล่าวด้วยเช่นเดียวกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7373/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวการร่วมลักทรัพย์: การพิจารณาความผิดของตัวการร่วมเมื่อตัวการคนหนึ่งไม่มีความผิดตามบทบัญญัติเฉพาะ
จำเลยที่1ได้สมคบกับส. ภริยาโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรสของผู้เสียหายโดยส. เป็นคนเข้าไปในบ้านผู้เสียหายลักเอาโฉนดที่ดินของผู้เสียหายมาให้จำเลยที่1กับพวกนำไปกู้ยืมเงินจากผู้มีชื่อจำเลยที่1กับส. จึงเป็นตัวการร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา335(7)แต่ส.เข้าไปลักโฉนดที่ดินของผู้เสียหายจากในบ้านเพียงคนเดียวซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของส. ด้วยการกระทำของส. จึงไม่เป็นความผิดตามมาตรา335(8)เมื่อการกระทำของส. ซึ่งเป็นตัวการคนหนึ่งไม่เป็นความผิดดังนั้นจำเลยที่1ซึ่งเป็นตัวการร่วมกระทำผิดกับส. จึงไม่มีความผิดตามมาตรา335(8)ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 684/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายจากการบุกรุกและลักทรัพย์: จำเลยไม่ต้องรับผิดชอบค่าสินไหมทดแทน
ผู้ตายเจาะกำแพงอิฐบล๊อกแล้วมุดเข้าไปในโรงงานเพื่อลักทรัพย์ของจำเลยแต่ผู้ตายไปเหยียบแผ่นไม้สี่เหลี่ยมที่มีกระแสไฟฟ้าผ่านเส้นลวดจนถูกช๊อตจนถึงแก่ความตายถือว่าจำเลยได้กระทำการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายย่อมได้รับนิรโทษกรรมไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา449วรรคหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6825/2538 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์โดยมีเหตุอันสมควรและการเข้าถึงเคหสถานโดยได้รับอนุญาตโดยปริยาย
จำเลยได้ยินเสียง ย.ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดจำเลยจึงเข้าไปในห้องผู้เสียหายและทำการช่วยเหลือ ถือได้ว่าจำเลยเข้าไปโดยมีเหตุอันควรและได้รับอนุญาตให้เข้าไปได้โดยปริยายแม้ ย. จะมิใช่เจ้าของห้อง แต่เป็นมารดาของผู้เสียหาย ย่อมมีอำนาจที่จะอนุญาตให้บุคคลใดเข้าไปในห้องได้ตามสมควร การที่จำเลยพบเห็นเงินอยู่ในลิ้นชักตู้เสื้อผ้า จึงถือโอกาสเอาไปเสีย จำเลยจึงมีความผิดฐานลักทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(1)วรรคแรก แต่ไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหสถานตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335(8)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6825/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์โดยมีเหตุอันควรเข้าเคหสถานและการเข้าถือเอาทรัพย์สินโดยไม่มีเจตนาลักทรัพย์
จำเลยได้ยินเสียง ย. ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดจำเลยจึงเข้าไปในห้องผู้เสียหายและทำการช่วยเหลือถือได้ว่าจำเลยเข้าไปโดยมีเหตุอันควรและได้รับอนุญาตให้เข้าไปได้โดยปริยายแม้ ย. จะมิใช่เจ้าของห้องแต่เป็นมารดาของผู้เสียหายย่อมมีอำนาจที่จะอนุญาตให้บุคคลใดเข้าไปในห้องได้ตามสมควรการที่จำเลยพบเห็นเงินอยู่ในลิ้นชักตู้เสื้อผ้าจึงถือโอกาสเอาไปเสียจำเลยจึงมีความผิดฐานลักทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา335(1)วรรคแรกแต่ไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหสถานตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา335(8)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6825/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์ที่เกิดจากการเข้าไปในบ้านโดยมีเหตุอันควรและการเข้าข่ายความผิดฐานลักทรัพย์ธรรมดา
จำเลยได้ยินเสียง ย. ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดจำเลยจึงเข้าไปในห้องผู้เสียหายและทำการช่วยเหลือถือได้ว่าจำเลยเข้าไปโดยมีเหตุอันควรและได้รับอนุญาตให้เข้าไปได้โดยปริยายแม้ ย. จะมิใช่เจ้าของห้องแต่เป็นมารดาของผู้เสียหายย่อมมีอำนาจที่จะอนุญาตให้บุคคลใดเข้าไปในห้องได้ตามสมควรการที่จำเลยพบเห็นเงินอยู่ในลิ้นชักตู้เสื้อผ้าจึงถือโอกาสเอาไปเสียจำเลยจึงมีความผิดฐานลักทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา335(1)วรรคแรกแต่ไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหสถานตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา335(8)