พบผลลัพธ์ทั้งหมด 312 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1035/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดินชายตลิ่งสาธารณสมบัติ vs. การรอนสิทธิการใช้ประโยชน์ที่ดิน
โจทก์ซื้อที่ดิน(ที่มือเปล่า)จากผู้อื่น ด้านยาวทิศใต้จดถนนหลวงด้านกว้างทิศตะวันออกจดคลอง แล้วให้จำเลยเช่าโดยระบุว่า เช่าเพื่อปลูกอาศัย จำเลยใช้ที่ของโจทก์ทำคอกเป็ดและเลี้ยงเป็ด แต่ปลูกโรงเรือนอยู่ในที่ดินต่อกับเขตที่ของโจทก์ออกไปทางทิศตะวันออก เป็นที่ซึ่งน้ำในลำคลองท่วมถึงเป็นปกติเกือบตลอดปี ที่ซึ่งจำเลยปลูกโรงเรือนนี้ย่อมเป็นที่ชายตลิ่งสาธารณสมบัติของแผ่นดินตามมาตรา 1304 ไม่ใช่ที่งอกริมตลิ่งตามมาตรา 1308 แม้โจทก์จะได้ครอบครองที่รายนี้มา 10 ปีเศษแล้ว แต่เมื่อตรงที่จำเลยปลูกโรงเรือนเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินโจทก์ก็จะอ้างสิทธิครอบครองว่าเป็นของตนหาได้ไม่
แม้โรงเรือนของจำเลยจะไม่บังที่ดินของโจทก์ด้านถนนหลวง แต่ก็ปลูกอยู่ในที่ชายตลิ่งด้านที่ที่ดินโจทก์ติดริมคลอง เป็นที่กีดขวางระหว่างที่ดินของโจทก์กับคลองทำให้ที่ดินของโจทก์ด้านนั้นถูกริดรอนความสะดวกไปบ้างโจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะฟ้องจำเลยให้รื้อถอนโรงเรือนไปเสียได้ตามมาตรา 1337
โจทก์มุ่งหมายเรียกค่าเสียหายเฉพาะที่ขาดประโยชน์ที่ควรได้จากการเช่า เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยรื้อโรงเรือนอย่าให้ปิดบังกีดขวางหน้าที่ดินของโจทก์ โดยมิใช่เหตุเพราะผิดสัญญาเช่า ศาลก็ไม่บังคับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายด้วย
แม้โรงเรือนของจำเลยจะไม่บังที่ดินของโจทก์ด้านถนนหลวง แต่ก็ปลูกอยู่ในที่ชายตลิ่งด้านที่ที่ดินโจทก์ติดริมคลอง เป็นที่กีดขวางระหว่างที่ดินของโจทก์กับคลองทำให้ที่ดินของโจทก์ด้านนั้นถูกริดรอนความสะดวกไปบ้างโจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะฟ้องจำเลยให้รื้อถอนโรงเรือนไปเสียได้ตามมาตรา 1337
โจทก์มุ่งหมายเรียกค่าเสียหายเฉพาะที่ขาดประโยชน์ที่ควรได้จากการเช่า เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยรื้อโรงเรือนอย่าให้ปิดบังกีดขวางหน้าที่ดินของโจทก์ โดยมิใช่เหตุเพราะผิดสัญญาเช่า ศาลก็ไม่บังคับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1118/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่หลวงหวงห้ามเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน แม้สภาพเปลี่ยนไปก็ยังโอนหรือยกอายุความไม่ได้
กำแพงเมืองและคูเมืองซึ่งทางราชการทำขึ้น เพื่อประโยชน์ของบ้านเมืองและแสดงการหวงห้ามเป็นที่หลวงตลอดมา มิได้ปล่อยให้กลายสภาพเป็นที่รกร้างว่างเปล่า แม้ต่อมาที่นั้นจะกลายสภาพไม่เป็นกำแพงเมือง หรือคูเมือง แต่เมื่อทางราชการยังคงถือว่าเป็นที่หลวงหวงห้ามตลอดมานั้น ที่นั้นก็ยังคงเป็นที่หลวงหวงห้ามอยู่ ที่นั้นจึงเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินซึ่งจะโอนแก่กันไม่ได้ และจะยกอายุความขึ้นต่อสู้แผ่นดินไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1305, 1306 (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 18/2505)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1118/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินสาธารณสมบัติของแผ่นดิน: แม้สภาพเปลี่ยนไปแต่ยังคงเป็นที่หลวงหวงห้าม โอน/อ้างอายุความไม่ได้
กำแพงเมืองและคูเมืองซึ่งทางราชการทำขึ้นเพื่อประโยชน์ของบ้านเมืองและแสดงการหวงห้ามเป็นที่หลวงตลอดมา มิได้ปล่อยให้กลายสภาพเป็นที่ร้างว่างเปล่า แม้ต่อมาที่นั้นจะกลายสภาพไม่เป็นกำแพงเมืองหรือคูเมือง แต่เมื่อทางราชการยังคงถือว่าเป็นที่หลวงหวงห้ามตลอดมานั้น ที่นั้นก็ยังคงเป็นที่หลวงหวงห้ามอยู่ ที่นั้นจึงเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินซึ่งจะโอนแก่กันไม่ได้ และจะยกอายุความขึ้นต่อสู้แผ่นดินไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1305,1306 (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 18/2505)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1035/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่สาธารณประโยชน์: การขัดคำสั่งเจ้าพนักงานเมื่อบุกรุกและอ้างสิทธิในที่ดินสาธารณะ
ที่สาธารณประโยชน์นั้น ไม่จำเป็นที่ทางราชการต้องสงวนไว้เพื่อประโยชน์ร่วมกัน ก็เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินอยู่ตามสภาพ
นายอำเภอสั่งให้จำเลยออกจากที่ซึ่งจำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นที่สาธารณประโยชน์ จำเลยไม่ยอมออกโดยอ้างว่าเป็นที่ของจำเลยนั้น ไม่ใช่เหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควรตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368
นายอำเภอสั่งให้จำเลยออกจากที่ซึ่งจำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นที่สาธารณประโยชน์ จำเลยไม่ยอมออกโดยอ้างว่าเป็นที่ของจำเลยนั้น ไม่ใช่เหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควรตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 449/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้สิทธิโดยไม่สุจริตกีดขวางการใช้ประโยชน์จากสาธารณสมบัติของแผ่นดิน
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้สิทธิโดยไม่สุจริต โดยแกล้งเอาหินมากองไว้ และเอาไม้ปักเป็นหลักกันไม่ให้โจทก์เอาเรือเข้าจอดในลำแม่น้ำระนองอันเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินซึ่งโจทก์ได้ใช้สอยมานาน ทำให้โจทก์เสียหาย หากเป็นจริงตามฟ้อง โจทก์ก็เป็นผู้ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษ ย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 449/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้สิทธิโดยไม่สุจริตกระทบสิทธิการใช้ประโยชน์จากสาธารณสมบัติของแผ่นดิน
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้สิทธิโดยไม่สุจริตโดยแกล้งเอาหินมากองไว้และเอาไม้ปักเป็นหลักกันไม่ให้โจทก์เอาเรือเข้าจอดในลำแม่น้ำระนองอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินซึ่งโจทก์ได้ใช้สอยมานานทำให้โจทก์เสียหายหากเป็นจริงตามฟ้องโจทก์ก็เป็นผู้ได้รับความเสียหายเป็นพิเศษย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 492/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สาธารณสมบัติของแผ่นดินไม่ต้องขึ้นทะเบียน สิทธิครอบครองอ้างอายุความไม่ได้
การที่จะเป็นหนองสาธารณสมบัติของแผ่นดินหรือไม่นั้น กฎหมายไม่ได้บังคับว่าจะต้องขึ้นทะเบียนไว้ เพราะจะเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินหรือไม่ เป็นไปตามสภาพของที่นั้นเองว่าเป็นทรัพย์สินใช้เพื่อสาธารณประโยชน์หรือสงวนไว้เพื่อประโยชน์ร่วมกันหรือไม่
เมื่อที่พิพาทที่จำเลยเข้าทำนาเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน แม้จำเลยจะครอบครองมานานเท่าใดก็อ้างอายุความมายันหาได้ไม่
เมื่อที่พิพาทที่จำเลยเข้าทำนาเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน แม้จำเลยจะครอบครองมานานเท่าใดก็อ้างอายุความมายันหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 492/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สาธารณสมบัติของแผ่นดินไม่จำเป็นต้องขึ้นทะเบียน สิทธิครอบครองแม้เนิ่นนานก็ใช้ไม่ได้
การที่จะเป็นหนองสาธารณสมบัติของแผ่นดินหรือไม่นั้นกฎหมายไม่ได้บังคับว่าจะต้องขึ้นทะเบียนไว้ เพราะจะเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินหรือไม่เป็นไปตามสภาพของที่นั้นเองว่าเป็นทรัพย์สินใช้เพื่อสาธารณะประโยชน์หรือสงวนไว้เพื่อประโยชน์ร่วมกันหรือไม่
เมื่อที่พิพาทที่จำเลยเข้าทำนาเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินแม้จำเลยจะครอบครองมานานเท่าใดก็อ้างอายุความมายันหาได้ไม่
เมื่อที่พิพาทที่จำเลยเข้าทำนาเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินแม้จำเลยจะครอบครองมานานเท่าใดก็อ้างอายุความมายันหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 924/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่งอกริมตลิ่งตามธรรมชาติ แตกต่างจากที่ดินถมในสาธารณสมบัติ
ที่งอกริมตลิ่งตามความหมายของมาตรา 1308 แห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ คือที่งอกตามธรรมชาติ ไม่ใช่เป็นที่ดินซึ่งได้ถมขึ้นในที่สาธารณะสมบัติของแผ่นดิน(อ้างฎีกาที่ 534/2485)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 676/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สาธารณสมบัติของแผ่นดิน: สิทธิเหนือที่ดินและผลของการเช่าจากหน่วยงานรัฐ
คูที่ใช้เป็นที่จอดเรืออันเป็นประโยชน์ของประชาชนใช้กันมาเป็นเวลานานนั้น แม้จะตื้นเขินไม่มีสภาพเป็นคูต่อไปแล้ว ก็ถือว่าเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน
สาธารณสมบัติของแผ่นดินจะโอนแก่กันมิได้ เว้นแต่อาศัยอำนาจแห่งบทบัญญัติแห่งกฎหมายหรือพระราชกฤษฎีกา
การที่เอาที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินไปให้เช่านั้น ผู้ให้เช่าย่อมหมดสิทธิฟ้องขับไล่ผู้เช่าหรือฟ้องเรียกค่าเช่าจากผู้เช่า นับแต่ผู้เช่าได้ไปทำสัญญาเช่ากับอำเภอแล้ว
สาธารณสมบัติของแผ่นดินจะโอนแก่กันมิได้ เว้นแต่อาศัยอำนาจแห่งบทบัญญัติแห่งกฎหมายหรือพระราชกฤษฎีกา
การที่เอาที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินไปให้เช่านั้น ผู้ให้เช่าย่อมหมดสิทธิฟ้องขับไล่ผู้เช่าหรือฟ้องเรียกค่าเช่าจากผู้เช่า นับแต่ผู้เช่าได้ไปทำสัญญาเช่ากับอำเภอแล้ว