คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เลื่อนคดี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 341 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2141/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุเลื่อนคดี – ความเจ็บป่วยทนาย – การแถลงไม่สืบพยาน – ศาลมีดุลพินิจ – เหตุสมควรเลื่อนคดี
ในวันนัดสืบพยานโจก์คดีอาญา โจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อน อ้างเหตุว่าทนายป่วย ศาลพิจารณาใบรับรองแพทย์ที่โจทก์ยื่นประกอบคำร้องแล้ว ไม่อนุญาตให้เลื่อนการพิจารณา แล้วสั่งให้โจทก์นำพยานเข้าสืบ โจทก์แถลงว่า "เมื่อทนายโจทก์ไม่มาศาลวันนี้ โจทก์ก็ไม่สืบพยาน" ข้อความดังนี้มีความหมายว่าในวันนั้นเมื่อทนายโจทก์ไม่มา โจทก์ก็ไม่สืบพยาน มิใช่หมายความว่าโจทก์ไม่ติดใจสืบพยานทั้งคดี ถ้าศาลอุทธรณ์เห็นว่าโจทก์ขอเลื่อนคดีโดยมีเหตุผลเพียงพอ ย่อมพิพากษาให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1813/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นบัญชีระบุพยาน: วันเริ่มต้นสืบพยานสำคัญกว่าวันนัด
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 บัญญัติให้ยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาลก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า 3 วัน นั้นหมายถึงก่อนวันที่ศาลเริ่มต้นทำการสืบพยานจริง ๆ ไม่ใช่หมายถึงวันนัดสืบพยานครั้งแรก
ศาลชั้นต้นนัดสืบพยานจำเลยตามที่จำเลยแถลงรับนำสืบก่อนในวันที่ 6 สิงหาคม 2513 ครั้นถึงวันนัด จำเลยยื่นคำร้องขอระบุพยานเพิ่มเติม และในวันเดียวกันนั้น ศาลชั้นต้นเห็นควรให้เลื่อนคดีไปจึงให้เลื่อนคดีไปสืบพยานจำเลยในวันที่ 20 สิงหาคม 2513 โดยยังมิได้สั่งว่ารับหรือไม่รับบัญชีระบุพยานฉบับลงวันที่ 6 สิงหาคม 2513ของจำเลย ครั้นวันที่ 17 สิงหาคม 2513 จำเลยยื่นคำร้องระบุพยานโดยอ้างว่าพลั้งเผลอไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันสืบพยาน 3 วันขอให้รับบัญชีระบุพยานจำเลยไว้ ดังนี้ การที่จำเลยยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาลในวันที่ 6 สิงหาคม 2513 นั้น แม้จำเลยจะยื่นคำร้องว่าเป็นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมก็ตาม แท้จริงเป็นการระบุพยานครั้งแรกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรคแรก นั่นเองซึ่งจำเลยมีสิทธิยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาลโดยไม่ต้องทำเป็นคำร้องเพราะวันนั้นศาลไม่ได้เริ่มต้นทำการสืบพยานจริง ๆ ส่วนการที่จำเลยยื่นบัญชีระบุพยานฉบับลงวันที่17 สิงหาคม 2513 โดยทำเป็นคำร้องนั้น แท้จริงก็เป็นการยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรค2 นั่นเองซึ่งจำเลยมีสิทธิยื่นได้โดยไม่ต้องทำเป็นคำร้อง ฉะนั้น บัญชีระบุพยานจำเลยฉบับลงวันที่ 17 สิงหาคม 2513 จึงเป็นบัญชีระบุพยานที่ได้ยื่นต่อศาลไว้โดยชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1813/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นบัญชีระบุพยาน: วันเริ่มต้นสืบพยานสำคัญกว่าวันนัด
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 บัญญัติให้ยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาลก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า 3 วันนั้นหมายถึงก่อนวันที่ศาลเริ่มต้นทำการสืบพยานจริง ๆ ไม่ใช่หมายถึงวันนัดสืบพยานครั้งแรก
ศาลชั้นต้นนัดสืบพยานจำเลยตามที่จำเลยแถลงรับนำสืบก่อนในวันที่ 6 สิงหาคม 2513 ครั้นถึงวันนัด จำเลยยื่นคำร้องขอระบุพยานเพิ่มเติม และในวันเดียวกันนั้นศาลชั้นต้นเห็นควรให้เลื่อนคดีไปจึงให้เลื่อนคดีไปสืบพยานจำเลยในวันที่ 20 สิงหาคม 2513 โดยยังมิได้สั่งว่ารับหรือไม่รับบัญชีระบุพยานฉบับลงวันที่ 6 สิงหาคม 2513 ของจำเลย ครั้นวันที่ 17 สิงหาคม 2513 จำเลยยื่นคำร้องระบุพยานโดยอ้างว่าพลั้งเผลอไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันสืบพยาน 3 วันขอให้รับบัญชีระบุพยานจำเลยไว้ ดังนี้ การที่จำเลยยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาลในวันที่ 6 สิงหาคม 2513 นั้น แม้จำเลยจะยื่นคำร้องว่าเป็นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมก็ตาม แท้จริงเป็นการระบุพยานครั้งแรกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรคแรก นั่นเองซึ่งจำเลยมีสิทธิยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาลโดยไม่ต้องทำเป็นคำร้องเพราะวันนั้นศาลไม่ได้เริ่มต้นทำการสืบพยานจริง ๆ ส่วนการที่จำเลยยื่นบัญชีระบุพยานฉบับลงวันที่17 สิงหาคม 2513 โดยทำเป็นคำร้องนั้น แท้จริงก็เป็นการยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรคสองนั่นเองซึ่งจำเลยมีสิทธิยื่นได้โดยไม่ต้องทำเป็นคำร้อง ฉะนั้น บัญชีระบุพยานจำเลยฉบับลงวันที่ 17 สิงหาคม 2513 จึงเป็นบัญชีระบุพยานที่ได้ยื่นต่อศาลไว้โดยชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 51/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดุลพินิจศาลอนุญาตเลื่อนคดีเด็กและเยาวชน: เหตุผลสมควรและหน้าที่โจทก์ระบุพยาน
แม้ข้อความในตอนต้นของมาตรา 44 แห่งพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีเด็กและเยาวชน พ.ศ. 2494 จะได้บัญญัติไว้ว่า การพิจารณาของศาลที่มีอำนาจพิจารณาคดีเด็กและเยาวชน ให้พยายามทำโดยไม่ต้องดำเนินการตามกฎหมายวิธีพิจารณาโดยเคร่งครัดก็ตาม แต่การที่ศาลจะอนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีไปได้หรือไม่ อยู่ในดุลพินิจของศาลที่จะพึงสั่งตามพฤติการณ์ที่เห็นสมควรเป็นราย ๆ ไป เมื่อพฤติการณ์ที่โจทก์แสดงมาไม่มีเหตุสมควรที่จะให้เลื่อนคดีไป ศาลก็ชอบที่จะสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 51/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดุลพินิจศาลในการอนุญาตเลื่อนคดีเด็กและเยาวชน: เหตุผลสมควรและความบกพร่องของโจทก์
แม้ข้อความในตอนต้นของมาตรา 44 แห่งพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีเด็กและเยาวชน พ.ศ. 2494 จะได้บัญญัติไว้ว่า การพิจารณาของศาลที่มีอำนาจพิจารณาคดีเด็กและเยาวชนให้พยายามทำโดยไม่ต้องดำเนินการตามกฎหมายวิธีพิจารณาโดยเคร่งครัดก็ตาม แต่การที่ศาลจะอนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีไปได้หรือไม่ อยู่ในดุลพินิจของศาลที่จะพึงสั่งตามพฤติการณ์ที่เห็นสมควรเป็นราย ๆ ไป เมื่อพฤติการณ์ที่โจทก์แสดงมาไม่มีเหตุสมควรที่จะให้เลื่อนคดีไป ศาลก็ชอบที่จะสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 411/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนคดีเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม: เหตุผลและความจำเป็นในการพิจารณาคดีต่อเนื่อง
การที่โจทก์มิได้เตรียมพยานมาศาลในวันนัดสืบพยานเพราะโจทก์ประสงค์จะมาขอถอนฟ้อง ครั้นเมื่อศาลไม่อนุญาตให้ถอนฟ้องก็เกิดความจำเป็นต้องสืบพยานในวันนั้น เช่นนี้แม้ว่าทนายโจทก์จะลืมยื่นบัญชีระบุพยาน แต่เมื่อมิได้มีพฤติการณ์แสดงว่าโจทก์เจตนาจงใจและมิได้ทำให้จำเลยเสียเปรียบ สมควรที่จะอนุญาตให้เลื่อนคดีได้
คดีเสร็จการพิจารณาและอยู่ระหว่างนัดฟังคำพิพากษา โจทก์ขอดำเนินคดีต่อไปและขอถอนทนายเพราะมีความเห็นในการดำเนินคดีไม่ตรงกัน ประกอบทั้งโจทก์ป่วยไม่ทราบการดำเนินคดีซึ่งบกพร่องของทนายมาก่อน เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมย่อมเป็นการสมควรที่จะให้เลื่อนการพิจารณาคดีต่อไปอีกได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 411/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนคดีเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม แม้ทนายโจทก์ละเลยหน้าที่และโจทก์ถอนทนาย
การที่โจทก์มิได้เตรียมพยานมาศาลในวันนัดสืบพยานเพราะโจทก์ประสงค์จะมาขอถอนฟ้อง ครั้นเมื่อศาลไม่อนุญาตให้ถอนฟ้องก็เกิดความจำเป็นต้องสืบพยานในวันนั้น เช่นนี้แม้ว่าทนายโจทก์จะลืมยื่นบัญชีระบุพยาน แต่เมื่อมิได้มีพฤติการณ์แสดงว่าโจทก์เจตนาจงใจและมิได้ทำให้จำเลยเสียเปรียบ สมควรที่จะอนุญาตให้เลื่อนคดีได้
คดีเสร็จการพิจารณาและอยู่ระหว่างนัดฟังคำพิพากษาโจทก์ขอดำเนินคดีต่อไปและขอถอนทนายเพราะมีความเห็นในการดำเนินคดีไม่ตรงกัน ประกอบทั้งโจทก์ป่วยไม่ทราบการดำเนินคดีซึ่งบกพร่องของทนายมาก่อน เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมย่อมเป็นการสมควรที่จะให้เลื่อนการพิจารณาคดีต่อไปอีกได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2222/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอนุญาตเลื่อนคดี: พิจารณาเหตุผลสมควร, ยื่นคำร้องก่อนวันนัด, และประโยชน์แห่งความยุติธรรม
ทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนการสืบพยานโจทก์ก่อนวันกำหนดนัด 3 วัน อ้างเหตุติดว่าความคดีอื่นในวันเดียวกันนั้น ศาลชั้นต้นสั่ง "สำเนาให้จำเลยสั่งในวันนัด" ครั้นวันนัดโจทก์ ทนายโจทก์ และพยานไม่ไปศาล ทนายโจทก์มอบฉันทะให้เสมียนทนายไปฟังคำสั่งศาลและกำหนดวันนัดแทน ดังนี้ เป็นเรื่องทนายโจทก์ขอเลื่อนคดีเป็นครั้งแรกทั้งยื่นไว้ก่อนวันนัดหลายวันมีเหตุสมควร และเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมที่จะอนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2222/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอนุญาตเลื่อนคดี: เหตุสมควรและประโยชน์แห่งความยุติธรรม
ทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนการสืบพยานโจทก์ก่อนวันกำหนดนัด3 วัน อ้างเหตุติดว่าความคดีอื่นในวันเดียวกันนั้น ศาลชั้นต้นสั่ง " สำเนาให้จำเลยสั่งในวันนัด " ครั้นวันนัดโจทก์ ทนายโจทก์ และพยานไม่ไปศาล ทนายโจทก์มอบฉันทะให้เสมียนทนายไปฟังคำสั่งศาลและกำหนดวันนัดแทน ดังนี้ เป็นเรื่องทนายโจทก์ขอเลื่อนคดีเป็นครั้งแรกทั้งยื่นไว้ก่อนวันนัดหลายวัน มีเหตุสมควร และเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมที่จะอนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1520/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนการพิจารณาคดีอาญาเนื่องจากทนายจำเลยติดว่าความคดีอื่น ศาลต้องอนุญาตหากมีเหตุสมควร
ทนายจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนการพิจารณาโดยอ้างว่าในวันนัดนั้น ทนายจำเลยติดว่าความที่ศาลอื่น ข้ออ้างของทนายจำเลยเป็นความจริงทั้งเป็นกรณีที่มีเหตุอันสมควร ชอบที่ศาลชั้นต้นจะอนุญาตให้เลื่อนการพิจารณาสืบพยานโจทก์ไปได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 175 วรรค 2 แต่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีและทำการพิจารณาพิพากษาไปเลย จึงเป็นการปฏิบัติไม่ถูกต้องตามกระบวนพิจารณาศาลฎีกาจึงให้ศาลชั้นต้นทำการพิจารณาพิพากษาใหม่ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 208(2)
of 35