พบผลลัพธ์ทั้งหมด 365 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 474/2486 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับโทษต่อจากคดีอื่นเป็นไปไม่ได้หากไม่ได้ระบุในคำพิพากษาเดิม และไม่สามารถแก้ไขคำพิพากษาได้
ไนคดีที่สาลลงโทสจำคุกจำเลยไปมิไห้กำหนดไห้นับโทสต่อจากคดี+นั้น ไห้นับโทสต่อแต่วันคุมขังเป็นต้นไป
ไนคดีอาญาที่มีคำพิพากสาถึงสุดแล้ว โจทจะมาร้องขอไห้+โทสต่อจากคดีอื่นหาได้ไม่เพราะเปนการแก้ไขคำพิพากสา
ไนคดีอาญาที่มีคำพิพากสาถึงสุดแล้ว โจทจะมาร้องขอไห้+โทสต่อจากคดีอื่นหาได้ไม่เพราะเปนการแก้ไขคำพิพากสา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 362/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานแจ้งความเท็จ, ใช้หนังสือราชการ, และการแก้ไขคำพิพากษา โดยความผิดรวมอยู่ในฐานเดียว
แบบ ส.ด. 9 ที่พัสดีออกให้แก่ผู้ที่ขอลงทะเบียนทหารกองเกินเป็นหนังสือราชการ ไม่ใช่หนังสือสำคัญในทางราชการ.
ให้เจ้าพนักงานจดข้อความเท็จลงในทะเบียนทหารกองเกินและออกใบสำคัญให้แล้วใช้ใบสำคัญนั้นเป็นความผิดรวมอยู่ในฐานบอกให้เจ้าพนักงาน+ข้อความเท็จซึ่งเป็นบทหนักอย่างเดียว ไม่เป็นผิดฐานแจ้งความเท็จและฐานใช้หนังสือปลอมอีก
ในคดีที่โจทก์อุทธรณ์ฝ่ายเดียวโดยจำเลยมิได้อุทธรณ์ เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยไม่ควรมีความผิด ก็มีอำนาจแก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ให้ลงโทษจำเลยได้.
ให้เจ้าพนักงานจดข้อความเท็จลงในทะเบียนทหารกองเกินและออกใบสำคัญให้แล้วใช้ใบสำคัญนั้นเป็นความผิดรวมอยู่ในฐานบอกให้เจ้าพนักงาน+ข้อความเท็จซึ่งเป็นบทหนักอย่างเดียว ไม่เป็นผิดฐานแจ้งความเท็จและฐานใช้หนังสือปลอมอีก
ในคดีที่โจทก์อุทธรณ์ฝ่ายเดียวโดยจำเลยมิได้อุทธรณ์ เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยไม่ควรมีความผิด ก็มีอำนาจแก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ให้ลงโทษจำเลยได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 950/2484
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำขอให้ประกาศคำพิพากษาต้องยื่นก่อนศาลพิพากษา การร้องภายหลังเป็นการแก้ไขคำพิพากษา
ขอให้ศาลประกาศคำพิพากษาในข้อที่จำเลยหมิ่นประมาทโจทก์ ต้องขอเสียก่อนศาลพิพากษา จะร้องภายหลังไม่ได้เพราะจะเป็นการแก้ไขคำพิพากษา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1011/2484
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขรก.กระทำผิดนอกเขตอำนาจ – การแก้ไขคำพิพากษานับโทษต้องห้าม
ตำรวจสวมเครื่องแบบไปขู่บังคับเอาเงินเขาในเวลาออกยามนอกสถานที่ และนอกเขตต์ท้องที่ ๆ ประจำอยู่ไม่เป็นผิดกฎหมายอาญามาตรา 136 หลังจากอ่านคำพิพากษาแล้ว ศาลมีคำสั่งให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีอื่น ดังนี้เป็นการแก้ไขคำพิพากษาที่ได้อ่านแล้ว ต้องห้ามตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 190 +คำพิพากษาไม่ได้กล่าวให้นับโทษแต่เมื่อใดให้นับแต่วันต้องคุมขัง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 603/2483
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขคำพิพากษาเล็กน้อยในคดีลักทรัพย์: การพิพากษาแก้เฉพาะจำนวนทรัพย์สินที่ลักไป ไม่ถือว่าเป็นการแก้ไขข้อเท็จจริงที่สำคัญ
ศาลเดิมพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยคนละ 3 ปี ฐานลักโค 4 ตัว ตามกฎหมายอาญามาตรา 296 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยลักโคไปเพียง 2 ตัวเท่านั้น จึงลงโทษจำคุกจำเลยคนละ 1 ปี ตามกฎหมายอาญามาตรา 294 ดังนี้ ถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นแต่เพียงเล็กน้อยโจทก์ ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงมิได้ ต้องห้ามตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา ม. 218
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 428/2483
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยินยอมไม่สืบพยาน: ผลต่อการพิจารณาคดีและการแก้ไขคำพิพากษา
พฤตติการณ์ที่ถือว่าจำเลยให้การรับสารภาพและคู่ความไม่ติดใจสืบพะยาน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 296/2483
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขการนับโทษหลังมีคำพิพากษา: ไม่อาจขอแก้ไขได้หากศาลตัดสินตามคำขอเดิมแล้ว
จะร้องขอให้ศาลเปลี่ยนเลขคดีที่ศาลให้นับโทษภายหลังที่ศาลพิพากษาคดีแล้วไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 669/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฎีกาในข้อเท็จจริงหลังศาลอุทธรณ์แก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นเหตุให้คู่ความต้องห้ามฎีกา
ศาลชั้นต้นปรับจำเลย 400 บาท ตาม พ.ร.บ.ภาษีชั้นในศาลอุทธรณ์แก้ให้ปรับ 40 บาทโจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงมิได้ต้องห้ามตามกฎหมายข้างต้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 432/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขคำพิพากษาเรื่องโทษกักกัน: ศาลฎีกาแก้ไขศาลอุทธรณ์ให้กลับไปใช้โทษกักกันตามศาลชั้นต้น
ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลย 9 เดือน แล้วส่งตัวไปกักกัน 4 ปี ศาลอุทธรณ์แก้เป็นว่าไม่ต้องส่งตัวไปกักกัน นอกนั้นยืนตาม ดังนี้ โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงในเรื่องโทษกักกันได้ เพราะศาลล่างทั้ง 2 ตัดสินกลับกันมา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1151/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขบทลงโทษโดยศาลฎีกา แม้จำเลยบางส่วนไม่ฎีกา คดีสมคบกันลักทรัพย์
โจทก์ฝ่ายเดียวฎีกาในข้อเท็จจริงขอให้ลงโทษจำเลยบางคนที่ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงพิพากษายกฟ้องปล่อยตัวไป แม้ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงยืนตามศาลอุทธรณ์ แต่ในส่วนจำเลยที่ไม่มีฎีกาขึ้นมานั้นเมื่อศาลฎีกาพิจารณาเห็นในลักษณคดีว่าศาลวางบทผิดมา ศาลฎีกาก็มีอำนาจแก้วางบทที่ถูกต้องได้.