พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,640 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 657/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้อง: ศาลมีอำนาจวินิจฉัยเบื้องต้น แม้จำเลยมิได้ยกข้อกล่าวอ้างเรื่องอำนาจฟ้อง
โจทก์จะมีอำนาจฟ้องเพียงใดหรือไม่นั้น ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยในเบื้องต้นได้ แม้จำเลยจะไม่ได้กล่าวความข้อนั้นไว้ในคำให้การก็ตาม
โจทก์ฟ้องในฐานะเป็นกรรมการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยว่า กรรมการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ มีอำนาจฟ้องคดีหรือไม่.
โจทก์ฟ้องในฐานะเป็นกรรมการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยว่า กรรมการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ มีอำนาจฟ้องคดีหรือไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 630/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่า vs. การอาศัย: ศาลปรับข้อเท็จจริงเข้าบทกฎหมายได้ แม้ใช้คำไม่ตรง
การเช่าและการอ าศัยอยู่ในลักษณะเดียวกัน ผิดกันแต่ว่า การเช่าต้องเสียค่าเช่า การอาศัยไม่ต้องเสียค่าเช่า
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยโดยกล่าวว่า จำเลยได้อาศียโดยเสียค่าน้ำค่าไฟซึ่งเป็นการบรรยายข้อเท็จจริงของการปฏิบัติระหว่างโจทก์จำเลยว่าเป็นเช่นไร เพื่อขอให้ศาลปรับเข้ากับตัวกฎหมายแล้วขับไล่จำเลยเมื่อคดีได้ความว่าเป็นการเช่าศาลก็ได้ตัดสินได้ ไม่เป็นการเกินหรือ นอกคำฟ้อง.
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยโดยกล่าวว่า จำเลยได้อาศียโดยเสียค่าน้ำค่าไฟซึ่งเป็นการบรรยายข้อเท็จจริงของการปฏิบัติระหว่างโจทก์จำเลยว่าเป็นเช่นไร เพื่อขอให้ศาลปรับเข้ากับตัวกฎหมายแล้วขับไล่จำเลยเมื่อคดีได้ความว่าเป็นการเช่าศาลก็ได้ตัดสินได้ ไม่เป็นการเกินหรือ นอกคำฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 626/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงระหว่างคู่ความยืดเวลาบังคับคดี: ศาลต้องผูกพันตามตกลงนั้น
จำเลยอุทธรณ์และฎีกาคำพิพากษาชั้นบังคับคดีว่า จำเลยไม่ควรต้องรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างจากที่ดินตามคำพิพากษาเพราะได้ทำสัญญาเช่าจากผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินแล้วทั้งหมดนอกจากนายชัยวัฒน์ โจทก์+แต่ในระหว่างอุทธร์ จำเลย+และนายชัยวัฒน์โจทก์ ได้มา+ศาลทำความตกลงกันยืดเวลาเพื่อให้จำเลยรื้อถอนภายในเวลา 3 เดือน ถ้ารื้อไม่เสร็จจำเลยยอมเสียค่าเสียหายวันละ 100 บาท ดังนี้ ต้องถือตามข้อตกลงนั้น มูลเดิมที่จำเลยอุทธรณ์เป็นอันหมดไป ไม่มีมูลที่จำเลยจะฎีกาอีก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 626/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงยืดเวลาบังคับคดี: ศาลยึดตามข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลย แม้คดีถึงที่สุดแล้ว
จำเลยอุทธรณ์และฎีกาคำสั่งชั้นบังคับคดีว่า จำเลยไม่ควรต้องรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างจากที่ดินตามคำพิพากษา เพราะได้ทำสัญญาเช่าจากผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินแล้วทั้งหมดนอกจากนายชัยวัฒน์โจทก์ แต่ในระหว่างอุทธรณ์ จำเลยและนายชัยวัฒน์โจทก์ ได้มาศาลทำความตกลงกันยืดเวลาให้จำเลยรื้อถอนภายใน 3 เดือน ถ้ารื้อไม่เสร็จจำเลยยอมเสียค่าเสียหายวันละ 100 บาท ดังนี้ ต้องถือตามข้อตกลงนั้น มูลเดิมที่จำเลยอุทธรณ์เป็นอันหมดไป ไม่มีมูลที่จำเลยจะฎีกาอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 568/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนฎีกาและการคืนค่าใช้จ่ายศาล ศาลอนุญาตให้ถอนฎีกาได้และคืนค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง
ในกรณีที่ผู้ฎีกาขอถอนฎีกานั้น ศาลสั่งให้คืนค่าตัดสินค่าคำบังคับโดยไม่คืนค่าขึ้นศาลก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 568/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนฎีกาและการคืนค่าธรรมเนียมศาล
ในกรณีที่ผู้ฎีกาขอถอนฎีกานั้น ศาลจะสั่งให้คืนค่าตัดสินค่าคำบังคับโดยไม่คืนค่าขึ้นศาลก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 504/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาพยานหลักฐานในคดีอาญา: วัตถุพยานไม่จำเป็นต้องส่งศาลเสมอไป
ป.วิ.อาญามาตรา 241 มิได้เป็นบทบัญญัติบังคับให้จำต้องนำวัตถุพยานมาส่งศาลเสมอไป ฉะนั้นเมื่อศาลล่างทั้ง 2 ได้พิจารณาพยานบุคคล ประกอบด้วยพยานเอกสารแล้ว ฟังข้อเท็จจริงต้องกันมาว่าของกลางเป็นฝิ่นแล้ว คู่ความจะฎีกาคัดค้านไม่ได้ ในเมื่อคดีต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 437/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องอ้างข้อกฎหมายชัดเจน การยกเหตุผลลอยๆ ไม่เป็นเหตุให้ศาลฎีกาพิจารณา
การฎีกาปัญหาข้อกฎหมายนั้น ผู้ฎีกาจะต้องอ้างอิงยกข้อกฎหมายขึ้นกล่าวด้วยว่า ไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างใดเพียงแต่กล่าวว่า ไม่ชอบด้วยกฎหมายและเหตุผลเฉยๆ เท่านั้นไม่เป็นข้อกฎหมายอันศาลฎีกาจะพึงวินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 434/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการรับมรดกของผู้ร้องสอดที่ถูกละเลย: ศาลต้องคุ้มครองก่อนพิพากษาคดี
ผู้ร้องยื่นคำร้องเข้ามาเพื่อขอให้ได้รับความคุ้มครองสิทธิในการรับมฤดกของผู้ร้องตาม ป.วิ.แพ่งมาตรา 57 (1) ซึ่งบัญญัติให้บุคคลที่ 3 ไดรับความคุ้มครองสิทธิของตนที่มีอยู่โดยทันที ไม่จำต้องฟ้องคดีหลายเรื่อง และไม่จักต้องได้รับความยินยอมจากคู่ความ เช่นอนุมาตรา 2 แม้+จะคัดค้านศาลก็สั่งอนุญาตได้
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้จากจำเลยในฐานะส่วนตัวและในฐานะผู้จัดการมฤดกและผู้รับมฤดกของภริยาผู้วายชนม์ ผู้ร้องสอด ผู้เป็นมารดาผู้ตายร้องสอดว่า โจทก์จำเลยสมยอมสร้างหนี้สินขึ้นโดยไม่เป็นความจริง ทำให้ผู้ร้องสอดเสียหาย เนื่องจากผู้ร้องสอดกำลังฟ้องจำเลยเรียกทรัพย์มฤดกรายนี้อยู่ ศาลชั้นต้นยกคำร้องของผู้ร้องสอดเสีย แล้วดำเนินคดีไปพิพากษาให้จำเลยในส่วนตัวและในฐานะผู้จัดการและรับมฤดกนางเลี๊ยบ ใช้ต้นเงินและดอกเบี้ย+โจทก์ตามฟ้องดังนี้ เมื่อผู้ร้องสอดอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นขึ้นมา ศาลสูง+อำนาจยกคำสั่งและคำพิพากษาศาลล่าง ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการกระบวนพิจารณาและพิพากษาใหม่ตามรูปความได้ ตาม ป.วิ.แพ่งมาตรา 243(1).
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้จากจำเลยในฐานะส่วนตัวและในฐานะผู้จัดการมฤดกและผู้รับมฤดกของภริยาผู้วายชนม์ ผู้ร้องสอด ผู้เป็นมารดาผู้ตายร้องสอดว่า โจทก์จำเลยสมยอมสร้างหนี้สินขึ้นโดยไม่เป็นความจริง ทำให้ผู้ร้องสอดเสียหาย เนื่องจากผู้ร้องสอดกำลังฟ้องจำเลยเรียกทรัพย์มฤดกรายนี้อยู่ ศาลชั้นต้นยกคำร้องของผู้ร้องสอดเสีย แล้วดำเนินคดีไปพิพากษาให้จำเลยในส่วนตัวและในฐานะผู้จัดการและรับมฤดกนางเลี๊ยบ ใช้ต้นเงินและดอกเบี้ย+โจทก์ตามฟ้องดังนี้ เมื่อผู้ร้องสอดอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นขึ้นมา ศาลสูง+อำนาจยกคำสั่งและคำพิพากษาศาลล่าง ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการกระบวนพิจารณาและพิพากษาใหม่ตามรูปความได้ ตาม ป.วิ.แพ่งมาตรา 243(1).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 424/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีไม่ตรงกับข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในศาล ถือเป็นการสืบไม่สมฟ้อง
โจทก์รับโคของจำเลยที่+ของฝ่ายตนทำให้บาดเจ็บไว้รักษา แล้วมอบโคของตนให้จำเลยไปใช้งานแทนก่อนชั่วคราวเมื่อรักษาแผลโคหายแล้วต่างจะเปลี่ยนโคกันตามเดิม ครั้นโคที่เจ็บตายแล้ว โจทก์ส่งคืนจำเลย ปรากฏว่าโคที่โจทก์มอบให้จำเลยไปใช้นั้นตายเสียแล้ว ดังนี้โจทก์ควรจะฟ้องเรียกโคของโจทก์กลับคืนหรือเรียกค่าเสียหายฐานยืมใช้คงรูป.
ถ้าโจทก์มาฟ้องว่าได้ตกลงแลกเปลี่ยนโคกับจำเลย โดยจำเลยรับมอบโคจากโจทก์แล้ว ส่วนโคของจำเลยซึ่งจะต้องมอบให้โจทก์นั้น จำเลยมิได้นำมามอบตามสัญญาแลกเปลี่ยน โจทก์จึงฟ้องให้จำเลยมอบโคของจำเลยหรือใช้ราคาดังนี้ ถือว่าประเด็นที่โจทก์ฟ้องรูปเรื่องต่างกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณา ฉะนั้นที่โจทก์ฟ้องผิดรูปเรื่องมาดังนี้เป็นการแสดงว่าโจทก์นำสืบไม่สมฟ้อง ศาลต้องยกฟ้อง.
ถ้าโจทก์มาฟ้องว่าได้ตกลงแลกเปลี่ยนโคกับจำเลย โดยจำเลยรับมอบโคจากโจทก์แล้ว ส่วนโคของจำเลยซึ่งจะต้องมอบให้โจทก์นั้น จำเลยมิได้นำมามอบตามสัญญาแลกเปลี่ยน โจทก์จึงฟ้องให้จำเลยมอบโคของจำเลยหรือใช้ราคาดังนี้ ถือว่าประเด็นที่โจทก์ฟ้องรูปเรื่องต่างกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณา ฉะนั้นที่โจทก์ฟ้องผิดรูปเรื่องมาดังนี้เป็นการแสดงว่าโจทก์นำสืบไม่สมฟ้อง ศาลต้องยกฟ้อง.