พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,483 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1750/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกกล่าวให้ชำระค่าเช่าและการยกข้อกฎหมายใหม่ในอุทธรณ์ฎีกา
การบอกกล่าวให้ผู้เช่าให้ชำระค่าเช่าที่ค้างก่อนตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 560 นั้นไม่ใช่เป็นกรณี เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ฉะนั้นเมื่อไม่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันในศาลชั้นต้นแล้ว จะมายกขึ้นอุทธรณ์ฎีกาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1750/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกกล่าวค่าเช่าค้างชำระ: ไม่ใช่ประเด็นความสงบเรียบร้อย, อุทธรณ์ฎีกาไม่ได้
การบอกกล่าวให้ผู้เช่าให้ชำระค่าเช่าที่ค้างก่อนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 560 นั้น ไม่ใช่เป็นกรณีเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ฉะนั้นเมื่อไม่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันในศาลชั้นต้นแล้ว จะมายกขึ้นอุทธรณ์ฎีกาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1541/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีมีทุนทรัพย์เกินอำนาจศาลแขวง แม้จำเลยมิได้อุทธรณ์ ศาลสูงมีอำนาจยกคำพิพากษาและพิพากษายกฟ้องได้
ฟ้องขอให้โอนที่ดินให้ตามสัญญาจะซื้อขายนั้น เป็นคดีมีทุนทรัพย์ ( อ้างคำสั่งคำร้องที่ 12/2493 และ ฎีกาที่ 1065/2493 )
โจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลแขวงจำเลยต่อสู้ว่าเป็นคดีมีทุนทรัพย์เกินอำนาจศาลแขวง แต่เมื่อศาลแขวงสั่งว่าคดีอยู่ในอำนาจศาลแขวง แล้วพิจารณาคดีต่อไปนั้น แม้จำเลยมิได้อุทธรณ์ในทันที และมิได้โต้แย้งคำสั่งไว้ จนศาลพิพากษาแล้ว จึงมาอุทธรณ์เรื่องอำนาจศาลอีก ดังนี้ก็ตาม ก็เป็นเรื่องอำนาจศาลเป็นข้อ ก.ม.อันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลย่อมยกขึ้นวินิจฉัยได้ตามป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 142 (5) และเมื่อเห็นว่าคดีเกินอำนาจศาลแขวง ศาลสูงก็ย่อมมีอำนาจให้ยกคำพิพากษาแขวงแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์ได้
โจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลแขวงจำเลยต่อสู้ว่าเป็นคดีมีทุนทรัพย์เกินอำนาจศาลแขวง แต่เมื่อศาลแขวงสั่งว่าคดีอยู่ในอำนาจศาลแขวง แล้วพิจารณาคดีต่อไปนั้น แม้จำเลยมิได้อุทธรณ์ในทันที และมิได้โต้แย้งคำสั่งไว้ จนศาลพิพากษาแล้ว จึงมาอุทธรณ์เรื่องอำนาจศาลอีก ดังนี้ก็ตาม ก็เป็นเรื่องอำนาจศาลเป็นข้อ ก.ม.อันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลย่อมยกขึ้นวินิจฉัยได้ตามป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 142 (5) และเมื่อเห็นว่าคดีเกินอำนาจศาลแขวง ศาลสูงก็ย่อมมีอำนาจให้ยกคำพิพากษาแขวงแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1229/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิอุทธรณ์คำสั่งปรับนายประกันหลังจำเลยถูกพิพากษาโทษ: การสั่งปรับตามสัญญาประกัน
ศาลสั่งปรับนายประกันนายประกันมิได้อุทธรณ์ คงชำระเงินค่าปรับเป็นงวดๆจนครบถ้วนแล้ว ภายหลังตามตัวจำเลยมาส่งศาล จนศาลพิพากษาลงโทษจำเลยไปตามความผิดแล้วนายประกันจึงร้องขอลดค่าปรับที่ศาลสั่งปรับตามสัญญาประกันนั้น เมื่อศาลชั้นต้นเห็นไม่ควรลดค่าปรับสั่งยกคำร้องก็ถือได้ว่าเป็นการสั่งตามมาตรา 119 นั่นเอง นายประกันย่อมมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1032-1033/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งไม่รับวินิจฉัยชี้ขาดข้อกฎหมายระหว่างพิจารณาคดี ไม่อุทธรณ์ฎีกาได้โดยตรง
คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับวินิจฉัยชี้ขาดข้อกฎหมายให้คู่ความฝ่ายหนึ่งตามที่คู่ความฝ่ายนั้นร้องขอตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 24 นั้นเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา จะอุทธรณ์ฎีกามาโดยเฉพาะมิได้(อ้างฎีกาที่ 271/2481)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 91/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีมโนสาเร่และขอบเขตการวินิจฉัยข้อเท็จจริงของศาลอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
คดีมโนสาเร่ที่ต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง และไม่เข้าข้อยกเว้นนั้นหากศาลชั้นต้นไม่รับรองให้อุทธรณ์ในข้อเท็จจริงแล้วศาลอุทธรณ์จะรับวินิจฉัยข้อเท็จจริงไม่ได้ต้องสั่งยก เมื่อเป็นอุทธรณ์ในข้อกฎหมายศาลอุทธรณ์จะต้องฟังข้อเท็จจริงตามศาลชั้นต้น นอกจากศาลชั้นต้นวินิจฉัยข้อเท็จจริงผิดกฎหมาย
หากศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงกลับศาลชั้นต้นแล้วขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 238 ศาลฎีกาให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาใหม่ตามรูปเรื่อง
หากศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงกลับศาลชั้นต้นแล้วขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 238 ศาลฎีกาให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาใหม่ตามรูปเรื่อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 621/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยืดอายุอุทธรณ์ในคดีอาญาที่มีโทษประหารชีวิต ศาลต้องรับฟังคำแถลงการณ์ของผู้ต้องหา และไม่ตัดสิทธิในการฎีกา
เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชีวิตจำเลยแล้ว แม้การที่ศาลชั้นต้นยืดอายุเวลาอุทธรณ์ให้จำเลยนั้น จะยืดได้หรือไม่ก็แล้วแต่ อย่างน้อยก็ฟังคำอุทธรณ์เป็นคำแถลงการณ์ของจำเลยในชั้นอุทธรณ์ได้ และไม่ตัดสิทธิจำเลยที่จะฎีกาต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 481/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทนายความไม่อำนาจมอบหมายให้ผู้อื่นยื่นอุทธรณ์แทนอีกทอดหนึ่ง
ทนายความจะแต่งตั้งให้บุคคลอื่นยื่นคำฟ้องอุทธรณ์แทนทนายความ อีกทอดหนึ่งไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 455/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งศาลเกี่ยวกับอายุความคดีอาญา: การอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณาต้องห้ามตามกฎหมาย
คดีอาญาที่จำเลยให้การต่อสู้ว่าไม่ได้กระทำผิดและศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีของโจทก์นั้นไม่ขาดอายุความแล้วดำเนินการพิจารณาต่อไป ดังนี้จำเลยจะอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นดังกล่าวนั้นไม่ได้โดยถือว่าเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 196
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 455/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งระหว่างพิจารณาคดีอาญา: การอุทธรณ์ข้ออายุความและการห้ามอุทธรณ์ตามมาตรา 196
คดีอาญาที่จำเลยให้การต่อสู้ว่าไม่ได้กระทำผิด และศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีของโจทก์นั้นไม่ขาดอายุความแล้วดำเนินการพิจารณาต่อไป ดังนี้ จำเลยจะอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นดังกล่าวนั้นไม่ได้ โดยถือว่าเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 196