พบผลลัพธ์ทั้งหมด 338 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 129/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขยายเวลาไถ่ถอนขายฝากเกินกำหนดตามกฎหมาย มิชอบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 496
ขายฝากที่ดินและสิ่งปลูกสร้างกันถูกต้องตามกฎหมาย กำหนดไถ่ถอนภายใน 1 ปี ในวันครบกำหนดได้ตกลงขยายการไถ่ถอนกันด้วยปากเปล่าต่อไป 1 ปี ครั้นครบกำหนดได้ตกลงทำหนังสือว่ายอมให้ต่อการไถ่ถอนกันไปอีก 1 ปี ต่อมาภายในกำหนดเวลาไถ่ถอนครั้งที่ 2 ผู้ขายฝากไปขอไถ่ถอนดังนี้ ถือว่าข้อตกลงนั้นเป็นการขยายเวลาการไถ่ถอนการขายฝาก ไม่ใช่เป็นเรื่องคำมั่นจะขายทรัพย์ที่ขายฝาก
เมื่อถึงกำหนดไถ่ถอนการขายฝาก จะตกลงขยายเวลาการขายฝากในภายหลังไม่ได้ ขัดต่อ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 496
เมื่อถึงกำหนดไถ่ถอนการขายฝาก จะตกลงขยายเวลาการขายฝากในภายหลังไม่ได้ ขัดต่อ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 496
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1708/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขยายเวลาวางค่าธรรมเนียมอุทธรณ์: ศาลพิจารณาเจตนาจำเลยและประโยชน์แห่งความยุติธรรม
จำเลยอุทธรณ์โดยมิได้วางเงินค่าธรรมเนียมที่ต้องใช้แทนโจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น แต่ศาลชั้นต้นก็ได้รับอุทธรณ์ไว้โดยจำเลยไม่มีเจตนาที่จะไม่วางเงินนั้น และต่อมาก็ได้นำมาวางแล้ว ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์ ศาลฎีกาถือว่าศาลได้ขยายเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมให้แล้วให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1707/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขยายเวลาวางค่าฤชาธรรมเนียม: ศาลมีอำนาจขยายเวลาได้ตาม ป.วิ.แพ่ง ม.23 แม้โจทก์ขอทุเลาการบังคับ
โจทก์ยื่นอุทธรณ์และขอทุเลาการบังคับคดีในเรื่องค่าธรรมเนียมและค่าทนายความที่จะต้องใช้แทนจำเลย ศาลชั้นต้นสั่งรับเป็นฟ้องอุทธรณ์แล้ว ต่อมาอีก 4 เดือนเศษโจทก์จึงนำเงินค่าธรรมเนียมและค่าทนายมาวางศาล เช่นนี้ ศาลอุทธรณ์ไม่ควรยกอุทธรณ์ของโจทก์เสียทีเดียวเพราะตาม ป.วิ.แพ่ง มาตรา 23 ศาลมีอำนาจขยายเวลาวางเงินค่าฤชาธรรมเนียมที่จะต้องใช้แทนอีกฝ่ายหนึ่งได้ และตามพฤติการณ์แห่งคดี ศาลเห็นสมควรขยายเวลาให้ได้ ทั้งโจทก์ก็ได้นำเงินค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายมาวางศาลแล้วด้วย กรณีเช่นนี้ให้ศาลอุทธรณ์รับอุทธรณ์ของโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1707/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขยายเวลาวางค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความ: ศาลมีอำนาจขยายเวลาได้ตามความเหมาะสมของคดี
โจทก์ยื่นอุทธรณ์และขอทุเลาการบังคับคดีในเรื่องค่าธรรมเนียมและค่าทนายความที่จะต้องใช้แทนจำเลย ศาลชั้นต้นสั่งรับเป็นฟ้องอุทธรณ์แล้ว ต่อมาอีก 4 เดือนเศษโจทก์จึงนำเงินค่าธรรมเนียมและค่าทนายมาวางศาล เช่นนี้ ศาลอุทธรณ์ไม่ควรยกอุทธรณ์ของโจทก์เสียทีเดียว เพราะตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 ศาลมีอำนาจขยายเวลาวางเงินค่าฤชาธรรมเนียมที่จะต้องใช้แทนอีกฝ่ายหนึ่งได้ และตามพฤติการณ์แห่งคดี ศาลเห็นสมควรขยายเวลาให้ได้ ทั้งโจทก์ก็ได้นำเงินค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายมาวางศาลแล้วด้วย กรณีเช่นนี้ให้ศาลอุทธรณ์รับอุทธรณ์ของโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1706/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวางค่าฤชาธรรมเนียมในการอุทธรณ์ ศาลมีอำนาจขยายเวลาได้ แม้ผู้ถูกอุทธรณ์มิได้คัดค้าน
การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับฟ้องอุทธรณ์โดยผู้อุทธรณ์มิได้วางค่าฤชาธรรมเนียมที่จะต้องใช้แทนอีกฝ่ายหนึ่งพร้อมฟ้องอุทธรณ์เป็นการไม่ชอบนั้น ถ้าผู้อุทธรณ์ไม่ได้ขัดขืน ศาลอุทธรณ์ก็ชอบที่จะขยายเวลาวางเงินดั่งกล่าวให้ ไม่ควรจะยกอุทธรณ์เสียทีเดียว.
(ประชุมใหญ่)
(ประชุมใหญ่)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1706/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวางค่าฤชาธรรมเนียมในการอุทธรณ์ หากศาลชั้นต้นรับฟ้องโดยมิได้วางค่าธรรมเนียม จำเลยไม่ขัดขืน ศาลอุทธรณ์มีอำนาจขยายเวลาได้
การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับฟ้องอุทธรณ์โดยผู้อุทธรณ์มิได้วางค่าฤชาธรรมเนียมที่จะต้องใช้แทนอีกฝ่ายหนึ่งพร้อมฟ้องอุทธรณ์เป็นการไม่ชอบนั้น ถ้าผู้อุทธรณ์ไม่ได้ขัดขืน ศาลอุทธรณ์ก็ชอบที่จะขยายเวลาวางเงินดังกล่าวให้ ไม่ควรจะยกอุทธรณ์เสียทีเดียว (ประชุมใหญ่)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1190/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความสัญญาซื้อขายที่ดินและการไถ่ถอนจำนอง การลงนามมอบอำนาจไม่ใช่การขยายเวลาไถ่ถอน
เมื่อสัญญาระหว่างโจทก์จำเลยข้อ 3 กล่าวว่า "ฝ่ายที่ 2(คือ จำเลย) สัญญาจะทำการไถ่ถอนจำนองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างโฉนดเลขที่ 597 และโอนกรรสิทธิให้แก่ฝ่ายที่ 1 ให้เป็นกรรมสิทธิให้เป็นการเสร็จสิ้นใน 4 เดือนนับแต่วันทำสัญญานี้" ส่วนข้อความอีกตอนหนึ่งท้ายสัญญามีว่า "และได้ลงนามไว้ในหนังสือมอบอำนาจของหอทะเบียนที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้นก่อนหรือหลังกำหนด 4 เดือนก็ชอบที่จะกระทำได้"
ดังนี้เมื่อจำเลยไม่ไถ่ถอนจำนองที่ดินโฉนดที่ 597 ภายใน 4 เดือนนับแต่วันทำสัญญาจึงเป็นฝ่ายผิดสัญญาแล้วเพราะเห็นได้ว่าก่อนหรือหลัง 4 เดือนก็ชอบที่จะกระทำได้ " นั้นย่อมหมายความแต่เฉพาะเรื่องการลงนามในหนังสือมอบอำนาจเท่านั้น มิได้มุ่งหวังว่าจำเลยจะทำการไถ่ถอนจำนองภายหลัง 4 เดือนนานเท่าใดก็ได้
ส่วนข้อที่โจทก์จำเลยร่วมกันเป็นโจทก์ฟ้องนายวัทธนา ให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากโฉนดที่ 597 ภายหลังกำหนด 4 เดือน นั้นก็เป็นเรื่องที่ร่วมกันฟ้องผู้อื่นโดยเหตุที่มีชื่อถือกรรมสิทธิร่วมกันในโฉนด เป็นคนละเรื่องกับความยินยอมเลื่อนระยะเวลาไถ่ถอนการจำนอง
ดังนี้เมื่อจำเลยไม่ไถ่ถอนจำนองที่ดินโฉนดที่ 597 ภายใน 4 เดือนนับแต่วันทำสัญญาจึงเป็นฝ่ายผิดสัญญาแล้วเพราะเห็นได้ว่าก่อนหรือหลัง 4 เดือนก็ชอบที่จะกระทำได้ " นั้นย่อมหมายความแต่เฉพาะเรื่องการลงนามในหนังสือมอบอำนาจเท่านั้น มิได้มุ่งหวังว่าจำเลยจะทำการไถ่ถอนจำนองภายหลัง 4 เดือนนานเท่าใดก็ได้
ส่วนข้อที่โจทก์จำเลยร่วมกันเป็นโจทก์ฟ้องนายวัทธนา ให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากโฉนดที่ 597 ภายหลังกำหนด 4 เดือน นั้นก็เป็นเรื่องที่ร่วมกันฟ้องผู้อื่นโดยเหตุที่มีชื่อถือกรรมสิทธิร่วมกันในโฉนด เป็นคนละเรื่องกับความยินยอมเลื่อนระยะเวลาไถ่ถอนการจำนอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 42/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลขยายเวลาให้ยื่นคำให้การในกรณีฉุกเฉิน และการพิสูจน์การครอบครองที่ดินโดยอาศัย
เมื่อกรณีมีเหตุสุดวิสัยและฉุกเฉินจำเลยไม่อาจจะไปยื่นคำให้การต่อศาลที่รับประทับฟ้องไว้ทันตามกำหนดและจำเลยได้ยื่นคำร้องขอต่อศาลที่จำเลยมีภูมิลำเนา อยู่เพื่อขออนุญาตขยายกำหนดเวลายื่นคำให้การ ศาลที่จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่นั้นมีอำนาจที่จะสั่งอนุญาตให้ขยายกำหนดเวลายื่นคำให้การได้
โจทก์ฟ้องอ้างการครองครองจำเลยให้การว่า โจทก์อาศัยแต่ไม่แจ้งชัดว่าอาศัยผู้ใด ประเด็นคงมีว่าโจทก์อาศัยหรือไม่นั้น จำเลยมีหน้าที่สืบก่อน คำให้การจำเลยจึงไม่เคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องอ้างการครองครองจำเลยให้การว่า โจทก์อาศัยแต่ไม่แจ้งชัดว่าอาศัยผู้ใด ประเด็นคงมีว่าโจทก์อาศัยหรือไม่นั้น จำเลยมีหน้าที่สืบก่อน คำให้การจำเลยจึงไม่เคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 42/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขยายเวลาการยื่นคำให้การในกรณีฉุกเฉินและอำนาจศาล การพิสูจน์การครอบครองที่ดิน
เมื่อกรณีมีเหตุสุดวิสัยและฉุกเฉินจำเลยไม่อาจจะไปยื่นคำให้การต่อศาลที่รับประทับฟ้องไว้ทันตามกำหนดและจำเลยได้ยื่นคำร้องขอต่อศาลที่จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่เพื่อขออนุญาตขยายกำหนดเวลายื่นคำให้การ ศาลที่จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่นั้นมีอำนาจที่จะสั่งอนุญาตให้ขยายกำหนดเวลายื่นคำให้การได้
โจทก์ฟ้องอ้างการครอบครองจำเลยให้การว่า โจทก์อาศัยแต่ไม่แจ้งชัดว่าอาศัยผู้ใด ประเด็นคงมีว่าโจทก์อาศัยหรือไม่นั้นจำเลยมีหน้าที่สืบก่อนคำให้การจำเลยจึงไม่เคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องอ้างการครอบครองจำเลยให้การว่า โจทก์อาศัยแต่ไม่แจ้งชัดว่าอาศัยผู้ใด ประเด็นคงมีว่าโจทก์อาศัยหรือไม่นั้นจำเลยมีหน้าที่สืบก่อนคำให้การจำเลยจึงไม่เคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 786/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขยายเวลาดำเนินการเมื่อคู่ความถึงแก่ความตายระหว่างพิจารณาคดี
จำเลยฎีกาเมื่อความเพิ่งปรากฏว่าโจทก์ตายก่อนฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และไม่มีผู้ใดขอเข้าเป็นคู่ความแทนโจทก์ ทั้งจำเลยก็ไม่ขอให้เรียกผู้ใดเข้ามาเป็นคู่ความแทนจนเวลาล่วงเลยเกิน 1 ปีแล้วดังนี้ กรณีมีพฤติการณ์พิเศษประกอบด้วยข้อเท็จจริง เพิ่งจะปรากฏขึ้น ณบัดนี้ ศาลฎีกามีอำนาจสั่งขยายระยะเวลาเพื่อจำเลย จัดหาตัวผู้รับมรดกความโจทก์ได้ตามความในมาตรา 23