คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
นิติบุคคล

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 439 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 371/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการเช่าที่ดิน, การเปลี่ยนแปลงนิติบุคคลของหน่วยงานรัฐ, และการประวิงคดี
การที่จำเลยเช่าที่ดินบริเวณสวนลุมพินีกับเทศบาลนครกรุงเทพโจทก์คราวละ 1 ปีนั้น เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบที่กระทรวงมหาดไทยกำหนดไว้ หากเช่าเกินกว่า 1 ปี ต้องได้รับอนุมัติจากกระทรวงมหาดไทยก่อน เช่นนี้ เป็นการแสดงอยู่ในตัวแล้วว่ากระทรวงมหาดไทยให้โจทก์มีอำนาจให้เช่าที่พิพาทได้คราวละ 1 ปี โจทก์จึงมีสิทธิให้จำเลยเช่าที่พิพาทได้ เมื่อโจทก์มีสิทธิให้เช่าแล้ว โจทก์ก็มีอำนาจฟ้องขับไล่ผู้เช่าตามสัญญาได้
เดิมเทศบาลนครกรุงเทพเป็นโจทก์ฟ้องจำเลย แต่ในระหว่างพิจารณาคดีของศาลชั้นต้นได้มีประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 25 ลงวันที่ 21 ธันวาคม 2514 ให้รวมเทศบาลนครกรุงเทพและเทศบาลนครธนบุรี จัดตั้งเป็นเทศบาลนครหลวงประกาศของคณะปฏิวัติมีสภาพเป็นกฎหมายและตามประกาศฉบับนี้ ข้อ 6 ให้เทศบาลนครหลวงมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับเทศบาลตามกฎหมายว่าด้วยเทศบาล และข้อ 13 ให้นำบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยเทศบาล กฎกระทรวง ระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่งเกี่ยวกับเทศบาลมาใช้บังคับแก่เทศบาลนครหลวงโดยอนุโลมเท่าที่ไม่ขัดแย้งกับประกาศของคณะปฏิวัติฉบับนี้ และคำว่าเทศบาลในกฎหมายดังกล่าวให้หมายรวมถึงเทศบาลนครหลวงด้วย เช่นนี้ตามข้อบัญญัติแห่งประกาศของคณะปฏิวัติดังกล่าวย่อมแปลได้ว่าเทศบาลนครหลวงเป็นนิติบุคคลตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 เมื่อรวมเทศบาลนครกรุงเทพ เทศบาลนครธนบุรี เป็นเทศบาลนครหลวงแล้วสิทธิและหน้าที่ของเทศบาลนครกรุงเทพที่ได้ทำไว้แต่เดิมจึงเปลี่ยนมาเป็นของเทศบาลนครหลวงเทศบาลนครหลวงจึงมีสิทธิดำเนินคดีต่อจากเทศบาลนครกรุงเทพได้ อนึ่ง ปรากฏต่อมาว่าขณะที่คดีนี้ยังอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ เทศบาลนครหลวงได้ถูกยุบยกเลิกไปโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 335 ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2515 โดยได้มีการจัดระเบียบบริหารใหม่ให้เป็นกรุงเทพมหานคร และให้ถือเป็นจังหวัดตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 218 ลงวันที่ 29 กันยายน 2515 ข้อ 48 มีฐานะเป็นนิติบุคคล โดยให้โอนกิจการ ทรัพย์สิน หนี้ฯลฯ ของเทศบาลนครหลวงไปเป็นของกรุงเทพมหานครซึ่งมีผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นผู้รับผิดชอบในการบริหารตามนโยบายของรัฐบาล ฯลฯ จึงถือได้ว่ากรุงเทพมหานครเป็นนิติบุคคล กรุงเทพมหานครโดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจึงมีสิทธิดำเนินคดีต่อจากเทศบาลนครหลวงได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 321/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้โรงเรือนของนิติบุคคลเป็นสำนักงานและสถานที่ส่วนตัว ไม่ถือเป็นที่ประกอบการค้าหรืออุตสาหกรรม จึงได้รับการยกเว้นภาษีโรงเรือน
สมาคมพาณิชย์อินเดียหรือหอการค้าอินเดีย โจทก์ เป็นนิติบุคคลแม้การเข้าอยู่ในโรงเรือนของนิติบุคคลไม่อาจพึงเป็นได้เช่นบุคคลธรรมดาแต่การที่โจทก์มีคณะกรรมการบริหารดำเนินกิจการแทน และโจทก์ได้ใช้โรงเรือนเป็นสำนักงานและให้คนเฝ้ารักษาย่อมอยู่ในความหมายของคำว่า เจ้าของอยู่เองหรือให้ผู้แทนเฝ้ารักษา ตามมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ.2475 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2475 มาตรา 3 แล้ว ส่วนข้อที่ว่าโจทก์ได้ใช้โรงเรือนดังกล่าวขายอาหาร เครื่องดื่ม แก่สมาชิก และมีโต๊ะบิลเลียดให้สมาชิกเล่นนั้น ก็ปรากฏว่ามีระเบียบห้ามบุคคลภายนอกเข้าไปเล่น และที่ว่าโจทก์ได้ให้เช่าสนามเล่นแบดมินตันด้วย ก็ยังฟังแน่นอนไม่ได้พฤติการณ์ดังกล่าวหาพอที่จะถือว่าโรงเรือนใช้เป็นที่ไว้สินค้าหรือประกอบการอุตสาหกรรมตามมาตรา 10 แห่ง พระราชบัญญัติดังกล่าวข้างต้นไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2451-2452/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของนิติบุคคลและการมอบอำนาจดำเนินคดีตามข้อบังคับสหกรณ์
โจทก์ที่ 1 เป็นสหกรณ์จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล มีคณะกรรมการดำเนินงานเป็นผู้ดำเนินกิจการและเป็นผู้แทนเมื่อคณะกรรมการดำเนินงานได้มีมติตามข้อบังคับของโจทก์ที่ 1มอบหมายให้กรรมการ 2 นายเป็นผู้ดำเนินคดีกับจำเลยแทนโจทก์ที่ 1 แล้ว โจทก์ที่ 1 โดยกรรมการ 2 นายนั้นก็ฟ้องจำเลยได้ หาเป็นการขัดกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 801(5) ไม่
โจทก์ที่ 1 มอบอำนาจให้จำเลยที่ 1 จัดซื้อข้าวโพดคนเดียวจำเลยที่ 2 เข้าไปร่วมซื้อข้าวโพดกับจำเลยที่ 1 เองโดยไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับโจทก์ที่ 1 ในเรื่องที่ขอรับเงินทดรองไปซื้อข้าวโพดส่งไปเหมือนกับจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 จึงไม่มีอำนาจฟ้องเรียกเงินค่าซื้อข้าวโพดส่งไปจากโจทก์ที่ 1

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 172/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจดำเนินคดีของนิติบุคคลยังคงมีอยู่แม้ผู้แทนเสียชีวิต และการซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดต้องเป็นไปตามเงื่อนไข
นิติบุคคลเป็นโจทก์มีผู้แทนนิติบุคคลเป็นผู้ลงนามแต่งตั้งทนายความให้ดำเนินคดีแทนโจทก์ไว้แล้วในนามนิติบุคคล หาใช่แต่งตั้งเป็นส่วนตัว แม้ต่อมาผู้แทนนั้นถึงแก่อสัญกรรมไปแล้วการแต่งตั้งทนายเป็นผู้ดำเนินคดีแทนหาได้สิ้นสุดไปไม่ ทนายโจทก์ยังคงมีอำนาจดำเนินคดีต่อไปได้ (ตามนัยฎีกาที่ 480/2502)
การที่จำเลยซื้อเรือนได้จากการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลประกาศขายทอดตลาดมีเงื่อนไขอยู่ว่า ผู้ใดซื้อได้ให้รื้อไป จำเลยจะอ้างว่าโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินให้เช่าปลูกได้ต่อไปโดยมิได้มีหลักฐานการเช่าเป็นหนังสือหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2510/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีละเมิด: ห้างหุ้นส่วนสามัญก่อนจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล สิทธิเรียกร้องเป็นของหุ้นส่วน
ในขณะที่เกิดเหตุละเมิดขึ้นนั้นห้างหุ้นส่วนจำกัดสหมิตรหล่อยางยังมิได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ตามกฎหมายถือว่าเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญ โจทก์ในฐานะผู้เป็นหุ้นส่วนของห้างหุ้นส่วนดังกล่าว ย่อมมีอำนาจฟ้องร้องจำเลยที่ 2 และที่ 3 ให้ร่วมรับผิดในผลแห่งการละเมิดซึ่งลูกจ้างของจำเลยที่ 2 ที่ 3 ได้กระทำต่อทรัพย์สินของห้างหุ้นส่วนนั้นได้ และอำนาจฟ้องหรือสิทธิเรียกร้องของโจทก์ที่มีต่อผู้กระทำละเมิดต่อทรัพย์นั้นเป็นบุคคลสิทธิ มิใช่ทรัพย์สิทธิที่ติดตามไปกับตัวทรัพย์ เมื่อสิทธิดังกล่าวได้เกิดมีขึ้นแล้ว แม้ต่อมาห้างหุ้นส่วนจำกัดสหมิตรหล่อยางได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลต่างหากจากผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหลายซึ่งรวมเข้ากันเป็นห้างหุ้นส่วนนั้นก็ตาม อำนาจฟ้องหรือสิทธิเรียกร้องดังกล่าวก็หาโอนไปยังห้างหุ้นส่วนจำกัดสหมิตรหล่อยางด้วยไม่ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องคดีนี้ได้
รถยนต์ของจำเลยที่ชนรถโจทก์ได้ประกันไว้กับบริษัทประกันภัย เมื่อเกิดเหตุแล้วตัวแทนบริษัทประกันภัยไปตรวจ เห็นว่ารถฝ่ายจำเลยผิด จึงได้รับรถโจทก์ไปซ่อมให้ ได้มีการไปทำบันทึกกันที่สถานีตำรวจมีข้อความตอนหนึ่งว่า ส่วนค่าเสียหายนอกจากการซ่อมซึ่งบริษัทประกันภัยรับผิดชอบ ตัวแทนของโจทก์จะไปเจรจาตกลงกันเองกับจำเลยที่ 2 ผู้เป็นเจ้าของรถคันที่เป็นฝ่ายชนต่อไป บันทึกนี้เป็นเพียงบันทึกระหว่างตัวแทนโจทก์กับตัวแทนบริษัทประกันภัยเท่านั้น โจทก์หามีหน้าที่แจ้งให้จำเลยทราบไม่
(วรรคแรกวินิจฉัยโดยมติที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 24/2516)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1925/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องเปลี่ยนแปลงตามผู้มีอำนาจของนิติบุคคล ต้องยึดทะเบียนนิติบุคคลเป็นหลัก
แม้ในขณะยื่นฟ้อง กรรมการผู้จัดการบริษัทโจทก์มีอำนาจจัดการแทนโจทก์ได้ แต่ต่อมาผู้ที่มีอำนาจกระทำการเป็นผู้แทนของโจทก์เปลี่ยนแปลงไปเป็นของบุคคลอื่นแล้ว สิทธิที่จะจัดการแทนโจทก์ของกรรมการผู้จัดการคนเดิมย่อมสิ้นสุดลง
การพิจารณาถึงตัวผู้ที่มีอำนาจจัดการแทนบริษัทโจทก์ในปัจจุบันย่อมต้องถือเอาข้อความในทะเบียนนิติบุคคลของหอทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทเป็นหลักฐาน แม้กรรมการผู้จัดการคนเดิมจะคัดค้านว่า การแก้ไขข้อบังคับของบริษัทได้กระทำไปโดยมติที่ไม่ชอบด้วยหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทก็เป็นเรื่องที่ต้องไปว่ากล่าวกันเป็นอีกส่วนหนึ่งต่างหาก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1849/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของหน่วยงานรัฐต่อหนี้สินของกิจการที่จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือข้าราชการ แต่เป็นนิติบุคคลแยกต่างหาก
กรมไปรษณีย์โทรเลขเป็นกรมในรัฐบาลและเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายมีหน้าที่เกี่ยวกับการจัดการสื่อสาร การไปรษณีย์โทรเลข วิทยุ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนมิได้มีวัตถุประสงค์ในการประกอบการค้า ส่วนร้านค้าขององค์การสงเคราะห์ข้าราชการกรมไปรษณีย์โทรเลข หรือ อ.ส.ค. ตั้งขึ้นโดยคำแนะนำของคณะรัฐมนตรีอธิบดีกรมไปรษณีย์โทรเลขเป็นผู้แต่งตั้งประธานกรรมการขึ้นเป็นผู้ดำเนินงานพร้อมด้วยคณะกรรมการ และจัดตั้งร้านค้า อ.ส.ค. ขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือข้าราชการในกรมไปรษณีย์โทรเลข และประธานกรรมการแต่งตั้งผู้รักษาการแทนในตำแหน่งผู้จัดการ แต่มิได้ใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน และเป็นกิจการต่างหากมิได้อยู่ในวัตถุประสงค์และหน้าที่ของกรมไปรษณีย์โทรเลข เมื่อร้านค้า อ.ส.ค. มิใช่ราชการของกรมไปรษณีย์โทรเลข กรมไปรษณีย์โทรเลขจึงไม่ต้องร่วมรับผิดในหนี้สินของร้านค้า อ.ส.ค.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 610/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หุ้นส่วนจำกัดไม่มีอำนาจร้องทุกข์แทน นิติบุคคล หากไม่ได้มอบอำนาจชัดเจน
หุ้นส่วนที่ไม่ใช่ผู้จัดการหรือผู้แทนของห้างหุ้นส่วนจำกัด นิติบุคคล ย่อมไม่มีอำนาจร้องทุกข์แทน นิติบุคคลนั้นซึ่งเป็นผู้เสียหาย
คำร้องทุกข์ที่ไม่มีข้อความแสดงให้เห็นว่าร้องทุกข์แทนนิติบุคคลหรือได้รับมอบอำนาจมาให้ร้องทุกข์แทน ต้องถือว่าร้องทุกข์ในฐานะส่วนตัว
ใบมอบอำนาจซึ่งมีข้อความชัดแจ้งว่ามอบอำนาจให้ดำเนินการแทน เฉพาะการฟ้องร้องคดีต่อศาลย่อมไม่รวมถึงการมอบอำนาจให้ร้องทุกข์ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1401-1402/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความภาษีเงินได้นิติบุคคล เริ่มนับจากวันครบกำหนดชำระภาษีตามรอบระยะเวลาบัญชี ไม่ใช่จากวันที่เจ้าพนักงานประเมินแจ้งเรียกเก็บ
บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลต้องยื่นรายการซึ่งจำต้อง ใช้ในการคำนวณภาษีเงินได้ตามแบบต่อเจ้าพนักงานประเมินพร้อมกับชำระภาษีภายใน 150 วันนับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีถ้าแบบที่ยื่นไว้แสดงรายการไม่ถูกต้อง ตามความจริงหรือไม่บริบูรณ์ทำให้จำนวนภาษีเงินได้ขาดไปก็ต้องถือว่าหนี้ค่าภาษีจำนวนที่ขาดไปนี้ถึงกำหนดชำระ ตั้งแต่วันที่ผู้เสียภาษีเงินได้มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามที่บัญญัติไว้ในประมวลรัษฎากร มิใช่ถึงกำหนดชำระเมื่อเจ้าพนักงานประเมินแจ้งให้ผู้เสียภาษีเงินได้ชำระค่าภาษี
อายุความเรียกร้องให้ชำระภาษีเงินได้ดังกล่าวเริ่มนับตั้งแต่วันที่ผู้เสียภาษียื่นรายการและชำระค่าภาษี ถ้ามิใช่ สิทธิเรียกร้องให้ชำระภายใน 10 ปีขาดอายุความ(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 31/2514)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 990/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกเลิกการล้มละลายทำให้ห้างหุ้นส่วนกลับมีสภาพเป็นนิติบุคคลเดิมและมีอำนาจฟ้องได้
ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ซึ่งถูกศาลพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลายแม้จะมีกฎหมายบัญญัติให้เลิกกันเพราะเหตุล้มละลาย แต่เมื่อภายหลังศาลได้มีคำสั่งยกเลิกการล้มละลายนั้นเสียแล้ว ก็ย่อมกลับมีสภาพเป็นนิติบุคคลดังเดิมมีอำนาจฟ้องได้
of 44