พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,273 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 185/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ตัวผู้กระทำผิดจากพยานหลักฐานที่ไม่น่าเชื่อถือและความเร็วในการขับขี่ที่มีผลต่อการจดจำ
ขณะเกิดเหตุผู้เสียหายกำลังขับรถด้วยความเร็วสูงประมาณ80-90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผู้เสียหายจึงต้องเพ่งมองไปทางข้างหน้าตลอดเวลา โอกาสจะสังเกตจดจำคนร้ายที่ยืนถืออาวุธปืนอยู่ข้างทางจึงมีเพียงน้อยนิด เมื่อคนร้ายยิงมาที่รถบรรทุกน้ำมันที่ผู้เสียหายขับ ผู้เสียหายก็น่าจะตกใจกลัว ต้องเร่ง ความเร็วสูงขึ้นอีกเพื่อหลบหนีให้พ้น โอกาสที่จะสังเกตจดจำใบหน้าคนร้ายแทบจะไม่มีเลยตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผู้เสียหายไม่น่าจะจำได้ว่าคนร้ายที่ยิงรถบรรทุกน้ำมันคือจำเลยที่ 2 พยานโจทก์นอกจากนี้คงมีเพียงคำให้การรับสารภาพของจำเลยที่ 2 ในชั้นสอบสวนและภาพถ่ายการนำชี้ ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพในสำนวนอีกคดีหนึ่งซึ่งโจทก์เคยฟ้องจำเลยที่ 2 ทั้งจำเลยที่ 2 ก็ยังโต้แย้งอยู่ว่าไม่ได้ให้การรับสารภาพด้วยความสมัครใจ พยานหลักฐานโจทก์จึงไม่อาจฟังได้ว่าจำเลยที่ 2เป็นคนร้าย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1620/2535 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความมิใช่สภาพแห่งข้อหา โจทก์ไม่จำเป็นต้องระบุเหตุที่ฟ้องคดีเกิน 1 ปี หากพิสูจน์ได้ว่าฟ้องภายใน 1 ปีนับแต่วันรู้ถึงละเมิดและตัวผู้กระทำ
เรื่องอายุความนั้นหาใช่สภาพแห่งข้อหาไม่ โจทก์ไม่จำเป็นต้องกล่าวมาในฟ้องว่าคดีโจทก์ไม่ขาดอายุความเพราะเหตุใด เมื่อฟ้องของโจทก์ได้ระบุมาโดยชัดแจ้งซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับแล้ว จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์
แม้โจทก์จะฟ้องคดีเมื่อเกิน 1 ปี นับแต่วันที่จำเลยกระทำละเมิดโดยมิได้บรรยายว่าเหตุใดโจทก์จึงมีสิทธิฟ้องคดีเกิน 1 ปีได้ แต่โจทก์ก็ได้นำสืบให้เห็นแล้วว่าโจทก์ฟ้องคดีเมื่อยังไม่พ้น1 ปี นับแต่วันที่โจทก์รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
แม้โจทก์จะฟ้องคดีเมื่อเกิน 1 ปี นับแต่วันที่จำเลยกระทำละเมิดโดยมิได้บรรยายว่าเหตุใดโจทก์จึงมีสิทธิฟ้องคดีเกิน 1 ปีได้ แต่โจทก์ก็ได้นำสืบให้เห็นแล้วว่าโจทก์ฟ้องคดีเมื่อยังไม่พ้น1 ปี นับแต่วันที่โจทก์รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1620/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความมิใช่สภาพแห่งข้อหา โจทก์ไม่จำเป็นต้องระบุเหตุมีสิทธิฟ้องเกิน 1 ปี หากนำสืบพิสูจน์ได้ว่ายังไม่ขาดอายุความ
เรื่องอายุความมิใช่สภาพแห่งข้อหา โจทก์ไม่จำเป็นต้องกล่าวมาในฟ้องว่า คดีของโจทก์ไม่ขาดอายุความเพราะเหตุใดแม้โจทก์จะฟ้องคดีเมื่อเกิน 1 ปี นับแต่วันที่จำเลยทำละเมิดก็ตาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1620/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความไม่ใช่ส่วนประกอบของฟ้อง โจทก์ไม่ต้องระบุเหตุที่ฟ้องคดีเกิน 1 ปี หากพิสูจน์ได้ว่าฟ้องภายในระยะเวลาที่รู้ถึงการละเมิด
เรื่องอายุความหาใช่สภาพแห่งข้อหาไม่ โจทก์ไม่จำเป็นต้องกล่าวมาในฟ้องว่า คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความเพราะเหตุใดเมื่อฟ้องของโจทก์ได้ระบุมาโดยชัดแจ้งซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับแล้ว จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ แม้โจทก์จะฟ้องคดีเมื่อเกิน 1 ปี นับแต่วันที่จำเลยทำละเมิดโดยมิได้บรรยายว่า เหตุใดโจทก์จึงมีสิทธิฟ้องคดีเกิน 1 ปีได้แต่โจทก์ก็ได้นำสืบให้เห็นแล้วว่าโจทก์ฟ้องคดีเมื่อยังไม่พ้น 1 ปีนับแต่วันที่โจทก์รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 160/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต: โจทก์ต้องพิสูจน์การครอบครองและพาอาวุธปืนของจำเลย
จำเลยใช้อาวุธ ปืนแก๊ป ยาวยิงผู้เสียหาย แต่โจทก์ไม่มีอาวุธปืนที่ฟ้องเป็นของกลางแสดงต่อศาลว่าไม่เป็นอาวุธปืนที่จำเลยไม่ได้รับอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองทั้งโจทก์ไม่ได้นำสืบให้เห็นว่า จำเลยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองและพาอาวุธปืน ติดตัวดังนี้ ข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าอาวุธปืนดังกล่าวจำเลยมีไว้ ในครอบครองและพาอาวุธปืนติดตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1489/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ โจทก์ต้องพิสูจน์ตามฟ้อง จำเลยมีสิทธิอุทธรณ์ได้หากพยานหลักฐานไม่พอ
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ โจทก์ย่อมมีหน้าที่นำพยานหลักฐานมาสืบให้ฟังได้ตามฟ้องของโจทก์ จำเลยจึงมีสิทธิที่จะอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นว่าพยานหลักฐานของโจทก์ยังไม่พอให้ฟังได้ตามฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1425/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำเบิกความผู้ร่วมกระทำผิด: การรับฟังพยานหลักฐานประกอบกับพยานหลักฐานอื่นเพื่อพิสูจน์ความผิด
การเบิกความของ ว. พยานโจทก์ซึ่งเป็นผู้ร่วมกระทำผิดด้วยกันกับจำเลยที่ 2 และถูกพิพากษาลงโทษไปแล้วในข้อหาความผิดฐานเดียวกันกับจำเลยที่ 2 ที่ระบุว่า จำเลยที่ 2 ร่วมเป็นคนร้ายลักทรัพย์ หาได้มีเหตุจูงใจที่จะเบิกความเพื่อให้ตนพ้นผิดหรือได้รับประโยชน์จากการเบิกความของตนไม่ จึงไม่ต้องห้ามที่จะรับฟังคำเบิกความของ ว. เสียเลย ส่วนจะรับฟังได้เพียงใดหรือไม่นั้นจะต้องกระทำด้วยความระมัดระวังประกอบกับพยานหลักฐานอื่นของโจทก์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 129/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่การพิสูจน์ในความผิดฐานรับของโจร โจทก์ต้องพิสูจน์จำเลยรู้วัตถุเป็นของผิดกฎหมาย
ในคดีความผิดฐานรับของโจรนั้น โจทก์มีหน้าที่ต้องนำสืบให้ เห็นว่าจำเลยรับทรัพย์ไว้โดยรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำ ความผิดไม่ใช่ว่าเมื่อจำเลยเป็นผู้ครอบครองทรัพย์นั้น จำเลยก็ ต้องนำสืบว่าตนไม่รู้ว่าเป็นของร้าย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1208/2535 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานดำรงชีพจากรายได้หญิงค้าประเวณี: ต้องพิสูจน์ปัจจัยดำรงชีพและอาศัยรายได้ทั้งหมด
ความผิดฐานดำรงชีพจากรายได้ของหญิงซึ่งค้าประเวณีนั้นโจทก์จะต้องนำสืบให้ได้ความว่า จำเลยอายุกว่าสิบหกปี ดำรงชีพอยู่ได้ด้วยการอาศัยปัจจัยทั้งหมดหรือแม้เพียงบางส่วนจากรายได้ของหญิงซึ่งค้าประเวณี หากขาดปัจจัยดังกล่าวแม้เพียงบางส่วนจะดำรงชีพอยู่ไม่ได้ หรือไม่มีปัจจัยอย่างอื่นอันพอเพียงสำหรับดำรงชีพ และปรากฏว่าจำเลยอยู่ร่วมกับหญิงซึ่งค้าประเวณีหรือสมาคมกับหญิงซึ่งค้าประเวณีคนเดียวหรือหลายคนเป็นอาจิณตามคำฟ้องของโจทก์ แต่เมื่อโจทก์นำสืบได้เพียงว่า จำเลยอายุกว่าสิบหกปีเป็นผู้จัดหาหญิงผู้ทำ-การค้าประเวณีเพื่อผู้อื่นเป็นปกติธุระ และได้รับเงินส่วนแบ่งจากรายได้ของหญิงซึ่งค้าประเวณีเท่านั้น จึงลงโทษจำเลยในความผิดนี้ตามฟ้องไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1208/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การดำรงชีพจากรายได้ค้าประเวณี: ต้องพิสูจน์การพึ่งพิงปัจจัยจากรายได้นั้นอย่างชัดเจน
ความผิดตาม ป.อ. มาตรา 286 จะต้องฟังได้ว่า จำเลยอายุกว่าสิบหกปี ดำรงชีพอยู่แม้เพียงบางส่วนจากรายได้ของหญิงซึ่งค้าประเวณี หมายความว่าหากขาดปัจจัยแม้เพียงบางส่วนจากรายได้ของหญิงซึ่งค้าประเวณี จำเลยจะดำรงชีพอยู่ไม่ได้ เมื่อกรณีได้ความแต่เพียงว่า จำเลยอายุกว่าสิบหกปีเป็นผู้จัดหาหญิงผู้ทำการค้าประเวณีเพื่อผู้อื่นเป็นปกติธุระและได้รับเงินส่วนแบ่งจากรายได้ของหญิงซึ่งค้าประเวณี ดังนี้ ฟังไม่ได้ว่าจำเลยดำรงชีพอยู่แม้เพียงบางส่วนจากรายได้ของหญิงซึ่งค้าประเวณี.