คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
มอบอำนาจ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 648 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 686/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบอำนาจลงนามในเช็คไม่ถือเป็นตัวการร่วม หากไม่มีส่วนร่วมในการออกเช็ค
บริษัทจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ในฐานะกรรมการทำหนังสือมอบอำนาจทั่วไปให้จำเลยที่ 5 ลงนามแทนในธุรกิจหลายอย่าง รวมทั้งลงนามในเช็คสั่งจ่ายเงินและฝากเงินตามระบบบัญชีเดินสะพัดของบริษัท ไม่ใช่เจาะจงเฉพาะเช็คพิพาท ฉะนั้นการที่จำเลยที่ 5 ออกเช็คพิพาทแทนจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ไม่มีส่วนร่วมออกเช็คด้วย จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ได้ร่วมกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คกับจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 5

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 686/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบอำนาจลงนามในเช็ค ไม่ถือเป็นตัวการร่วมในความผิดฐานออกเช็คเด้ง หากไม่มีส่วนร่วมในการออกเช็คโดยตรง
บริษัทจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ในฐานะกรรมการทำหนังสือมอบอำนาจทั่วไปให้จำเลยที่ 5 ลงนามแทนในธุรกิจหลายอย่างรวมทั้งลงนามในเช็คสั่งจ่ายเงินและฝากเงินตามระบบบัญชีเดินสะพัดของบริษัท ไม่ใช่เจาะจงเฉพาะเช็คพิพาท ฉะนั้นการที่จำเลยที่ 5ออกเช็คพิพาทแทนจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ไม่มีส่วนร่วมออกเช็คด้วย จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ได้ร่วมกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คกับจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 5

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 686/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความรับผิดกรรมการร่วมออกเช็ค – มอบอำนาจทั่วไป
บริษัทจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ในฐานะกรรมการทำหนังสือมอบอำนาจทั่วไปให้จำเลยที่ 5 ลงนามแทนในธุรกิจหลายอย่างรวมทั้งลงนามในเช็คสั่งจ่ายเงินและฝากเงินตามระบบบัญชีเดินสะพัดของบริษัท ไม่ใช่เจาะจงเฉพาะเช็คพิพาท ฉะนั้นการที่จำเลยที่ 5 ออกเช็คพิพาทแทนจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 ที่ 3ที่ 4 ไม่มีส่วนร่วมออกเช็คด้วย จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2ที่ 3 ที่ 4 ได้ร่วมกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คกับจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 5.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 68/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีจากการมอบอำนาจช่วงและการมอบอำนาจต่อเนื่อง: ความสมบูรณ์ของอำนาจฟ้อง
ย.มอบอำนาจช่วงให้ส.ฟ้องคดีแทนโจทก์ต่อมาย.ได้รับมอบอำนาจจากโจทก์โดยมีอำนาจดำเนินคดีทางศาลแทนโจทก์และมีอำนาจมอบอำนาจช่วงได้ หลังจากนั้น ย.และส.ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงแก้ไขใบมอบอำนาจเดิมหรือทำใบมอบอำนาจขึ้นใหม่ ดังนี้แสดงว่า ย.และส.มีเจตนาให้ใช้ใบมอบอำนาจเดิมนั่นเอง ใบมอบอำนาจเดิมระหว่างย.และส.จึงสมบูรณ์ส.มีอำนาจฟ้องคดีแทนโจทก์ได้ตั้งแต่วันที่โจทก์มอบอำนาจให้ ย.ดำเนินคดีดังกล่าว
จำเลยให้การว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะโจทก์ไม่ได้รับมอบอำนาจให้ฟ้องคดีจากองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพโดยถูกต้องตามกฎหมาย คำให้การดังกล่าวไม่ได้ระบุว่าไม่ถูกต้องตามกฎหมายใดหรือเพราะเหตุใด จึงเป็นคำให้การที่ไม่ได้อ้างเหตุแห่งการปฏิเสธตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสอง ข้ออ้างดังกล่าวจึงไม่มีประเด็น แต่ฎีกาของจำเลยที่ว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่เป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนเมื่อศาลฎีกาเห็นสมควรย่อมยกขึ้นวินิจฉัยได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6487-6488/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องอุทธรณ์อย่างคนอนาถาต้องกระทำด้วยตนเอง ห้ามมอบอำนาจให้ผู้อื่นสาบานตัวแทน
ผู้ที่จะฟ้องอุทธรณ์อย่างคนอนาถาจะต้องสาบานตัวด้วยตันเองจะมอบให้ผู้อื่นสาบานตัวแทนไม่ได้ เพราะการสาบานเป็นเรื่องเฉพาะตัวที่จะต้องกระทำด้วยตนเอง การที่ ส.ผู้รับมอบอำนาจสาบานตัวให้คำชี้แจงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แทนจำเลยทั้งสามจึงเป็นการไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5850/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีโดยการมอบอำนาจ: ผู้รับมอบอำนาจมีอำนาจเป็นโจทก์ได้หรือไม่ และขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 60 หรือไม่
หนังสือมอบอำนาจของโจทก์ระบุว่า บริษัทผู้เสียหายขอมอบอำนาจให้ อ. กระทำการแทนโจทก์ในกิจการต่าง ๆ ตามที่ระบุไว้ รวมทั้งให้มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีได้ด้วย ดังนี้ อ. จึงมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีได้ หาเป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 60 ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4206/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของผู้รับมอบอำนาจ แม้ไม่มีการรับรองเอกสารจากสถานทูต หากไม่มีการโต้แย้งและพิสูจน์ลายมือชื่อ
โจทก์มีภูมิลำเนาอยู่ประเทศเยอรมนีมอบอำนาจให้ว.ฟ้องคดี แม้หนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดีของโจทก์จะไม่มีเจ้าหน้าที่สถานทูตไทยในประเทศเยอรมนีรับรองมา แต่ศาลชั้นต้นก็มิได้สอบสวนและจำเลยก็ไม่ร้องขอให้ศาลสอบสวนถึงอำนาจฟ้องของผู้รับมอบอำนาจถือว่าศาลและจำเลยมิได้สงสัยอำนาจฟ้องของผู้รับมอบอำนาจ เมื่อจำเลยไม่มีหลักฐานมาสืบหักล้างว่า ลายมือชื่อผู้มอบอำนาจไม่ใช่ของโจทก์ก็ฟังได้ว่าโจทก์มอบอำนาจให้ผู้รับมอบอำนาจฟ้องคดีโดยถูกต้องแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2646/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีล้มละลายของตัวแทนซื้อขายหลักทรัพย์ และการมอบอำนาจฟ้องคดีที่ไม่ต้องขออนุญาต
ปัญหาที่ว่าการมอบอำนาจให้ฟ้องคดีโดยไม่ขออนุญาตต่อธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นโมฆะหรือไม่ และโจทก์ซึ่งเป็นตัวแทนประกอบการงานของจำเลยจะฟ้องจำเลยให้ล้มละลายในการกระทำที่จัดการงานให้จำเลยได้หรือไม่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับอำนาจฟ้อง จึงเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้เป็นข้อที่ไม่ได้ว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ จำเลยก็มีอำนาจยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกาได้
ตามบทบัญญัติ มาตรา 44 วรรคแรก แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุนธุรกิจหลักทรัพย์และเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ.2522 ที่กำหนดให้การตั้งบุคคลใดเป็นตัวแทนหรือนายหน้าของบริษัทหลักทรัพย์ต้องได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยก่อน นั้น หมายความเฉพาะการตั้งตัวแทนหรือนายหน้าเพื่อให้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์เท่านั้น ส่วนการมอบอำนาจให้ฟ้องคดี แม้จะถือว่าเป็นการตั้งตัวแทน ก็ไม่ต้องขออนุญาตต่อธนาคารแห่งประเทศไทย เพราะเป็นอำนาจทั่วไปที่บุคคลมีอยู่ตามกฎหมาย
โจทก์ฟ้องให้จำเลยล้มละลาย ในจำนวนหนี้ซึ่งเกิดจากการซื้อขายหลักทรัพย์ เมื่อจำเลยเป็นหนี้โจทก์เนื่องจากการเป็นตัวแทนซื้อขายหลักทรัพย์ตามข้อตกลง โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องให้จำเลยล้มละลายอันเนื่องมาจากหนี้สินที่มีอยู่นั้นได้บทบัญญัติมาตรา 175(4) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 เป็นเรื่องความรับผิดทางอาญาของตัวแทนในกิจการที่ได้กระทำในขณะที่เป็นผู้ประกอบการงานของลูกหนี้ จำเลยจะนำมากล่าวอ้างเพื่อหลีกเลี่ยงความรับผิดดังกล่าวหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2646/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีล้มละลายของตัวแทนซื้อขายหลักทรัพย์ และการมอบอำนาจฟ้องคดีที่ไม่ต้องขออนุญาต
ปัญหาที่ว่าการมอบอำนาจให้ฟ้องคดีโดยไม่ขออนุญาตต่อธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นโมฆะหรือไม่ และโจทก์ซึ่งเป็นตัวแทนประกอบการงานของจำเลยจะฟ้องจำเลยให้ล้มละลายในการกระทำที่จัดการงานให้จำเลยได้หรือไม่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับอำนาจฟ้อง จึงเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้เป็นข้อที่ไม่ได้ว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ จำเลยก็มีอำนาจยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกาได้
ตามบทบัญญัติ มาตรา 44 วรรคแรก แห่งพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุนธุรกิจหลักทรัพย์และเครดิตฟองซิเอร์ พ.ศ.2522 ที่กำหนดให้การตั้งบุคคลใดเป็นตัวแทนหรือนายหน้าของบริษัทหลักทรัพย์ต้องได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยก่อน นั้น หมายความเฉพาะการตั้งตัวแทนหรือนายหน้าเพื่อให้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์เท่านั้น ส่วนการมอบอำนาจให้ฟ้องคดี แม้จะถือว่าเป็นการตั้งตัวแทน ก็ไม่ต้องขออนุญาตต่อธนาคารแห่งประเทศไทย เพราะเป็นอำนาจทั่วไปที่บุคคลมีอยู่ตามกฎหมาย
โจทก์ฟ้องให้จำเลยล้มละลาย ในจำนวนหนี้ซึ่งเกิดจากการซื้อขายหลักทรัพย์ เมื่อจำเลยเป็นหนี้โจทก์เนื่องจากการเป็นตัวแทนซื้อขายหลักทรัพย์ตามข้อตกลง โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องให้จำเลยล้มละลายอันเนื่องมาจากหนี้สินที่มีอยู่นั้นได้บทบัญญัติมาตรา 175(4) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 เป็นเรื่องความรับผิดทางอาญาของตัวแทนในกิจการที่ได้กระทำในขณะที่เป็นผู้ประกอบการงานของลูกหนี้ จำเลยจะนำมากล่าวอ้างเพื่อหลีกเลี่ยงความรับผิดดังกล่าวหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2347/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจการจัดสรรที่ดินและการทำสัญญาเช่าซื้อ: สัญญาเช่าซื้อสมบูรณ์เมื่อได้รับมอบอำนาจจากเจ้าของที่ดิน
จำเลยได้รับมอบอำนาจจากเจ้าของที่ดินให้ดำเนินการจัดสรรจำหน่ายที่ดิน จำเลยจึงมีอำนาจนำที่ดินดังกล่าวออกให้เช่าซื้อและมีอำนาจลงนามในสัญญาเช่าซื้อได้ โจทก์ทำสัญญาเช่าซื้อที่ดินจากจำเลยสัญญาย่อมมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมาย เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยผิดสัญญาเช่าซื้อ โจทก์จะมาฟ้องขอเรียกเงินค่าเช่าซื้อที่ชำระไปแล้วคืนโดยอ้างเหตุว่าจำเลยมิใช่เจ้าของที่ดินตามสัญญาหาได้ไม่
of 65