พบผลลัพธ์ทั้งหมด 468 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 563/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบของกลางในความผิด พ.ร.บ.ควบคุมโภคภัณฑ์ ต้องเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด
ความผิดฐานไม่ปิดป้ายหรือแสดงราคาโภคภัณฑ์ที่วางขายนั้น ตัวโภคภัณฑ์ที่วางขายไม่เกี่ยวเนื่องกับความผิด จึงริบไม่ได้
หมายเหตุ คดีนี้ตัดสินอย่างเดียวกับคำพิพากษาฎีกาที่ 495/2500 ระหว่างอัยการมีนบุรี โจทก์ นายสุรินทร์ โชคพิพัฒน์ จำเลย.
หมายเหตุ คดีนี้ตัดสินอย่างเดียวกับคำพิพากษาฎีกาที่ 495/2500 ระหว่างอัยการมีนบุรี โจทก์ นายสุรินทร์ โชคพิพัฒน์ จำเลย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1622/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่นำสืบพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจของผู้ร้องในคดีริบของกลาง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36
ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 36 หน้าที่นำสืบพิสูจน์ย่อมตกอยู่แก่ผู้ร้องซึ่งเป็นฝ่ายกล่าวอ้างว่าตนมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 989/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบอาวุธปืนที่มีใบอนุญาต: ดุลพินิจศาลในการสั่งริบวัตถุแห่งการกระทำผิด
อาวุธปืนของกลาง เป็นปืนที่มีใบอนุญาตแล้วจึงมิใช่วัตถุที่ผิดกฎหมายอันจะต้องริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32 การที่จำเลยพาอาวุธปืนไปในที่ชุมนุมชน ไม่ทำให้ปืนที่มีใบอนุญาตกลางเป็นปืนที่ผิดกฎหมายไปด้วย แต่เป็นวัตถุแห่งการกระทำผิดต้องอยู่ในดุลพินิจของศาลที่จะสั่งริบหรือไม่ แล้วแต่คดีเป็นเรื่อง ๆ ไป.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบของกลางคือโทษ, ห้ามฎีกาข้อเท็จจริงเมื่อศาลอุทธรณ์แก้ให้คืนของกลาง
ศาลชั้นต้นพิพากษาปรับจำเลยเพียงคนละไม่เกินหนึ่งพันบาท และให้ริบของกลางบางส่วน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นให้คืนของกลางทั้งหมดนั้น การริบของกลางก็จัดเป็นโทษชนิดหนึ่ง จึงต้องห้ามฎีกาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบของกลางคือโทษทางอาญา ห้ามฎีกาข้อเท็จจริงตามมาตรา 220
ศาลชั้นต้นพิพากษาปรับจำเลยเพียงคนละไม่เกินหนึ่งพันบาทและให้ริบของกลางบางส่วนศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นให้คืนของกลางทั้งหมด นั้น การริบของกลางก็จัดเป็นโทษชนิดหนึ่ง จึงต้องห้ามฎีกาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 348/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประกอบอาชีพตัดผมของคนต่างด้าว: ความผิดตามกฎหมายเฉพาะและการริบของกลาง
ตามพระราบัญญัติช่วยอาชีพและวิชาชีพ พ.ศ.2484 ประกอบกับพระราชกฤษฎีกากำหนดอาชีพและวิชาชีพ พ.ศ.2492 นั้น จำเลยซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าวไม่มีสิทธิที่จะประกอบอาชีพตัดผมโดยเด็ดขาด และไม่มีทางที่จะได้รับอนุญาตเพราะทางการได้สงวนให้เป็นอาชีพเฉพาะคนไทยเท่านั้น การที่คนต่างด้าวประกอบอาชีพตัดผม จึงถือได้ว่าเป็นการกระทำความผิดเพราะฝ่ายฝืนบทกฎมายที่ได้กำหนดไว้ในตัว ไม่ใช่เป็นการกระทำเพราะไม่ได้รับอนุญาต ของกลาง(เครื่องมือ เครื่องใช้ และธนบัตร) จึงจำเป็นของที่จำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิด และได้มาโดยได้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 จึงให้ริบ
(อ้างนัยฎีกาที่ 456/2505)
(อ้างนัยฎีกาที่ 456/2505)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 348/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประกอบอาชีพตัดผมของคนต่างด้าวผิดกฎหมายเฉพาะ การริบของกลางที่เป็นเครื่องมือ
ตามพระราชบัญญัติช่วยอาชีพและวิชาชีพ พ.ศ.2484 ประกอบกับพระราชกฤษฎีกากำหนดอาชีพและวิชาชีพฯ พ.ศ.2492 นั้น จำเลยซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าว ไม่มีสิทธิที่จะประกอบอาชีพตัดผมโดยเด็ดขาด และไม่มีทางที่จะได้รับอนุญาตเพราะทางการได้สงวนให้เป็นอาชีพเฉพาะคนไทยเท่านั้น การที่คนต่างด้าวประกอบอาชีพตัดผม จึงถือได้ว่าเป็นการกระทำความผิด เพราะฝ่าฝืนบทกฎหมายที่ได้กำหนดไว้ในตัว ไม่ใช่เป็นการกระทำเพราะไม่ได้รับอนุญาต ของกลาง (เครื่องมือ เครื่องใช้และธนบัตร) จึงเป็นของที่จำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิดและได้มาโดยได้กระทำความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 จึงให้ริบ (อ้างนัยฎีกาที่ 456/2505)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 751/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบของกลางแม้ไม่มีความผิดฐานพนัน: ศาลสั่งริบโพยสลากที่ใช้ในการกระทำผิดได้ แม้จำเลยพ้นผิด
ฟ้องว่า จำเลยเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้และจำหน่ายสลากกินรวบโดยไม่รับอนุญาต เมื่อศาลพิพากษายกฟ้องเพราะข้อเท็จจริงไม่พอฟังลงโทษ แต่โพยสลากกินรวบของกลางฟังได้ว่าเป็นโพยที่จำเลยอื่นซึ่งถูกศาลพิพากษาลงโทษไปแล้วใช้ในการเล่นสลากกินรวบรายนี้กัน ดังนี้ ศาลก็ย่อมสั่งริบเสียได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 15/2507)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 258/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบเรือและน้ำมันในคดีไม้หวงห้าม: พิจารณาการใช้เป็นอุปกรณ์ในการกระทำผิด
จำเลยมีไม้สักแปรรูปเป็นกระดานแล้วจำนวน 29 แผ่น ปริมาตราเนื้อไม้ 2.65 เมตรลูกบาศก์ อันเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. ไว้ในความครอบครองเกินกว่า 0.20 เมตรลูกบาศก์ ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้จังหวัดกำแพงเพชรและจังหวัดนครสวรรค์โดยจำเลยได้นำไม้ดังกล่าวบรรทุกมาในเรือหางยาวใช้เครื่องติดท้ายของจำเลยเองล่องมาตามลำแม่น้ำปิงจากจังหวัดกำแพงเพชรมายังจังหวัดนครสวรรค์เพื่อจะนำไปยังจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนี้เรือของกลางซึ่งเป็นยานพาหนะนั้นย่อมได้ชื่อว่าจำเลยได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำผิด จึงเป็นของกลางที่ต้องริบตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 94 ทวิ
ฟ้องโจทก์ว่า เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยไม้สักและเรือหางยาวติดเครื่องยนต์ซึ่งเป็นยานพาหนะที่จำเลยได้ใช้ในากรกระทำความผิดหรือได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิดนั้น กับน้ำมันเบ็นซิน 1 ปีป น้ำมันเครื่อง 1 ลิตรเป็นของกลาง โดยมิได้บรรยายว่าน้ำมันของกลางนั้นได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำผิดเช่นของกลางอื่น ศาลย่อมไม่ริบน้ำมันของกลาง
ฟ้องโจทก์ว่า เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมด้วยไม้สักและเรือหางยาวติดเครื่องยนต์ซึ่งเป็นยานพาหนะที่จำเลยได้ใช้ในากรกระทำความผิดหรือได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำความผิดนั้น กับน้ำมันเบ็นซิน 1 ปีป น้ำมันเครื่อง 1 ลิตรเป็นของกลาง โดยมิได้บรรยายว่าน้ำมันของกลางนั้นได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการกระทำผิดเช่นของกลางอื่น ศาลย่อมไม่ริบน้ำมันของกลาง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 993-996/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบเกวียนและกระบือที่ใช้ในการลักลอบขนไม้แปรรูปผิดกฎหมาย
การที่จำเลยมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองเกิน 120 ลูกบาศก์เมตร โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม้นั้นเจ้าพนักงานจับได้ขณะบรรทุกอยู่เกวียนซึ่งเทียมด้วยกระบือนั้น ต้องฟังว่าจำเลยได้ใช้เกวียนและกระบือเป็นพาหนะลากเข็นไม้แปรรูป ถือได้ว่าเกวียนและกระบือนั้นได้ใช้เป็นอุปกรณ์ให้ได้รับผลในการที่จำเลยมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองแล้ว จึงเป็นองต้องริบตามกฎหมาย.