พบผลลัพธ์ทั้งหมด 391 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 584/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงแบ่งผลข้าวแทนดอกเบี้ยไม่ถือเป็นการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา และสัญญากู้ใหม่ไม่รวมดอกเบี้ยเดิม
(1) การที่จำเลยกู้เงินโจทก์และตกลงกันให้จำเลยทำนาแบ่งผลข้าวที่ทำได้แต่ละปีแทนดอกเบี้ย บางปีได้มาก บางปีได้น้อย จะถือว่ารายได้ของโจทก์ที่มากเกินกว่าอัตราที่กฎหมายรับรู้นั้นเป็นการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราหาได้ไม่
(2) อนึ่ง การที่จำเลยเป็นหนี้ไม่ส่งข้าวเปลือกดังกล่าวตลอดมาจึงตกลงทำสัญญากู้เงินให้โจทก์ไว้ จะอ้างว่าสัญญานี้รวมดอกเบี้ยเกินกำหนดเข้าไว้ด้วยไม่ได้
(2) อนึ่ง การที่จำเลยเป็นหนี้ไม่ส่งข้าวเปลือกดังกล่าวตลอดมาจึงตกลงทำสัญญากู้เงินให้โจทก์ไว้ จะอ้างว่าสัญญานี้รวมดอกเบี้ยเกินกำหนดเข้าไว้ด้วยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 584/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงแบ่งผลผลิตข้าวแทนดอกเบี้ย ไม่ถือเป็นการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา และสัญญากู้ใหม่ไม่รวมดอกเบี้ยเดิม
(1) การที่จำเลยกู้เงินโจทก์และตกลงกันให้จำเลยทำนาแบ่งผลข้าวที่ทำได้แต่ละปีแทนดอกเบี้ย บางปีได้มากบางปีได้น้อยจะถือว่ารายได้ของโจทก์ที่มากเกินกว่าอัตราที่กฎหมายรับรู้นั้นเป็นการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราหาได้ไม่
(2) อนึ่ง การที่จำเลยเป็นหนี้ไม่ส่งข้าวเปลือกดังกล่าวตลอดมาจึงตกลงทำสัญญากู้เงินให้โจทก์ไว้จะอ้างว่าสัญญานี้รวมดอกเบี้ยเกินกำหนดเข้าไว้ด้วยไม่ได้
(2) อนึ่ง การที่จำเลยเป็นหนี้ไม่ส่งข้าวเปลือกดังกล่าวตลอดมาจึงตกลงทำสัญญากู้เงินให้โจทก์ไว้จะอ้างว่าสัญญานี้รวมดอกเบี้ยเกินกำหนดเข้าไว้ด้วยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 498/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คู่สัญญาและอำนาจฟ้องในสัญญากู้ การนำสืบความเป็นมาของหนี้ และการนำสืบพยานนอกประเด็น
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญากู้เงินโจทก์ไป 5,000 บาท แล้วนำสืบว่าจำเลยเคยยืมเงินโจทก์ที่ 1 บิดาโจทก์ที่ 2 ไป 2,800 บาท ไม่ได้ทำสัญญากัน ต่อมาขอยืมอีก โจทก์ที่ 1 ให้ถามโจทก์ที่ 2 ดู โจทก์ที่ 2 ให้ยืมและได้เขียนสัญญากู้กันเป็นเงิน 5,000 บาท และโจทก์ที่ 2 ได้จ่ายเงินอีก 2,200 บาท ให้จำเลยไปแล้ว ดังนี้ แม้จะมิได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยกู้เงินโจทก์มาก่อน 2,800 บาท แต่ก็เป็นเรื่องโจทก์นำสืบถึงความเป็นมาของจำนวนเงินกู้ตามสัญญา จึงไม่เป็นการนำสืบนอกประเด็น
แม้ในสัญญากู้ดังกล่าวนั้นจะมิได้ระบุว่าได้ทำสัญญาให้ไว้แก่โจทก์ที่ 2 ด้วย แต่ในช่องผู้ให้กู้ยืม คือเจ้าของเงินนั้น โจทก์ที่ 2 ได้ลงชื่อร่วมกับโจทก์ที่ 1 ด้วย ถือได้ว่าโจทก์ที่ 2 เป็นคู่สัญญากับจำเลยด้วย มีอำนาจฟ้องเรียกเงินกู้จากจำเลยได้
แม้ในสัญญากู้ดังกล่าวนั้นจะมิได้ระบุว่าได้ทำสัญญาให้ไว้แก่โจทก์ที่ 2 ด้วย แต่ในช่องผู้ให้กู้ยืม คือเจ้าของเงินนั้น โจทก์ที่ 2 ได้ลงชื่อร่วมกับโจทก์ที่ 1 ด้วย ถือได้ว่าโจทก์ที่ 2 เป็นคู่สัญญากับจำเลยด้วย มีอำนาจฟ้องเรียกเงินกู้จากจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 498/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คู่สัญญาตามสัญญากู้ และการนำสืบความเป็นมาของหนี้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญากู้เงินโจทก์ไป 5,000 บาทแล้วนำสืบว่าจำเลยเคยยืมเงินโจทก์ที่ 1 บิดาโจทก์ที่ 2 ไป 2,800 บาทไม่ได้ทำสัญญากันต่อมาขอยืมอีกโจทก์ที่ 1 ให้ถามโจทก์ที่ 2 ดูโจทก์ที่ 2 ให้ยืมและได้เขียนสัญญากู้กันเป็นเงิน 5,000 บาท และโจทก์ที่ 2 ได้จ่ายเงินอีก 2,200 บาทให้จำเลยไปแล้ว ดังนี้ แม้จะมิได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยกู้เงินโจทก์มาก่อน 2,800 บาท แต่ก็เป็นเรื่องโจทก์นำสืบถึงความเป็นมาของจำนวนเงินกู้ตามสัญญาจึงไม่เป็นการนำสืบนอกประเด็น
แม้ในสัญญากู้ดังกล่าวนั้นจะมิได้ระบุว่าได้ทำสัญญาให้ไว้แก่โจทก์ที่ 2 ด้วย แต่ในช่องผู้ให้กู้ยืม คือเจ้าของเงินนั้นโจทก์ที่ 2 ได้ลงชื่อร่วมกับโจทก์ที่1 ด้วย ถือได้ว่าโจทก์ที่ 2 เป็นคู่สัญญากับจำเลยด้วยมีอำนาจฟ้องเรียกเงินกู้จากจำเลยได้
แม้ในสัญญากู้ดังกล่าวนั้นจะมิได้ระบุว่าได้ทำสัญญาให้ไว้แก่โจทก์ที่ 2 ด้วย แต่ในช่องผู้ให้กู้ยืม คือเจ้าของเงินนั้นโจทก์ที่ 2 ได้ลงชื่อร่วมกับโจทก์ที่1 ด้วย ถือได้ว่าโจทก์ที่ 2 เป็นคู่สัญญากับจำเลยด้วยมีอำนาจฟ้องเรียกเงินกู้จากจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1951/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดอกเบี้ยทบต้นรายเดือนในสัญญากู้: ความสมบูรณ์ตามประเพณีการค้าธนาคาร
ธนาคารพาณิชย์ประกอบธุรกิจในการให้กู้ยืมเงินและมีประเพณีการค้าในการให้กู้เงินด้วยการคิดดอกเบี้ยทบต้นเป็นรายเดือนเป็นปกติเสมอมา ทำสัญญาให้กู้ยืมเงินโดยตกลงคิดดอกเบี้ยทบต้นเมื่อผิดนัดเป็นรายเดือน ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 254 วรรค 2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1951/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดอกเบี้ยทบต้นรายเดือนในสัญญากู้ ธนาคารพาณิชย์ทำตามประเพณีการค้าได้ ไม่เป็นโมฆะ
ธนาคารพาณิชย์ประกอบธุรกิจในการให้กู้เงินด้วยการคิดดอกเบี้ยทบต้นเป็นรายเดือนเป็นปกติเสมอมา ทำสัญญาให้กู้ยืมเงินโดยตกลงคิดดอกเบี้ยทบต้นเมื่อผิดนัดเป็นรายเดือนได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 655 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1852/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญากู้ที่ไม่ใช่ของหมั้น: ไม่มีมูลหนี้, สัญญาหมั้นเป็นโมฆะ, ไม่สามารถฟ้องเรียกเงินได้
จำเลยขอหมั้นน้องสาวโจทก์เพื่อให้แต่งงานกับบุตรจำเลย แต่จำเลยไม่มีเงินจึงทำสัญญากู้ให้โจทก์ยึดถือไว้ และโจทก์จำเลยตกลงกันว่าถ้าจำเลยปลูกเรือนหอ โจทก์จะลดเงินกู้ให้บ้างตามราคาของเรือนหอ ต่อมาจำเลยไม่ปลูกเรือนหอและบุตรจำเลยไม่ยอมแต่งงานกับน้องสาวโจทก์ โจทก์จึงฟ้องเรียกเงินตามสัญญากู้ สัญญากู้ดังกล่าวนี้เป็นเพียงสัญญาจะให้ทรัพย์สินเป็นของหมั้นกันในวันข้างหน้า ยังไม่ได้มีการมอบทรัพย์สินให้แก่กันอย่างแท้จริง เจตนาอันแท้จริงของคู่สัญญาก็มิได้มุ่งต่อการให้สัญญากู้ตกเป็นของอีกฝ่ายหนึ่งในสภาพของหมั้น และไม่มีความประสงค์ให้ตกเป็นสิทธิแก่หญิงเมื่อสมรสแล้ว ในกรณีเช่นนี้ถือไม่ได้ว่ามีการให้ของหมั้นกันตามกฎหมาย โจทก์จะฟ้องเรียกเงินตามสัญญากู้หาได้ไม่ เพราะสัญญากู้รายนี้ไม่มีมูลหนี้เดิมอันจะมีผลทำให้โจทก์มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1418/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฉีกสัญญากู้และการพิพากษาความผิดฐานทำลายทรัพย์ แม้มีการชำระหนี้ภายหลัง
การที่จำเลยขอสัญญากู้ที่ทำให้ผู้ให้กู้ไว้มาดูแล้วฉีก แต่ผู้ให้กู้และผู้อื่นช่วยกันแย่งไว้ทัน จำเลยจึงไม่มีโอกาสทำลายสัญญากู้จนใช้ไม่ได้นั้น เรียกได้ว่า น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้ให้กู้แล้ว ไม่จำเป็นต้องทำลายจนใช้ไม่ได้ผลหรือต้องเอาไปเสีย และเมื่อการกระทำของจำเลยเป็นความผิดแล้ว แม้จำเลยจะชำระเงินกู้ตามสัญญาฉบับนั้นในภายหลัง ก็ไม่ทำให้จำเลยพ้นความผิดไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1394/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงมูลหนี้จากซื้อข้าวสารเป็นสัญญากู้ ไม่ถือว่าแตกต่างจากฟ้องเดิม หากจำเลยยังคงมีหน้าที่รับผิดตามสัญญา
ฟ้องโจทก์บรรยายว่าจำเลยกู้เงินโจทก์ไป รับเงินไปตามสัญญา และได้ทำหนังสือกู้ให้โจทก์ไว้ ตามสำเนาสัญญาท้ายฟ้อง แม้ได้ความตามทางพิจารณาว่า การกู้ยืมรายนี้มีมูลกรณีมาจากการที่จำเลยยืมเงินโจทก์ ซื้อข้าวหรือเชื่อข้าวสาร ของโจทก์แล้วสัญญาว่าจะใช้ด้วยข้าวเปลือกดังโจทก์นำสืบก็ดี แต่ภายหลังจำเลยไม่เอาข้าวเปลือกใช้หนี้ แต่มาทำสัญญากู้ให้แก่โจทก์ไว้ในภายหลังตามสัญญากู้ฉบับที่โจทก์นำมาฟ้องและจำเลยยังไม่ได้ใช้หนี้ กรณีเช่นนี้เป็นแต่เพียงรายละเอียดแห่งข้อเท็จจริงว่ามูลกรณีแห่งการกู้ยืมรายนี้เป็นมาอย่างไร ไม่ใช่เรื่องได้ความแตกต่างผิดไปจากฟ้องทั้งจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้ เพราะจำเลยให้การต่อสู้คดีไว้ว่ามีหนี้สินเดิมกับโจทก์ มาจริงเนื่องจากการซื้อเชื่อข้าวสารโจทก์และจำเลยก็ได้เอาข้าวเปลือกชำระไปจนหมดหนี้สินแล้วไม่มีพันธะต่อกัน ลายมือชื่อในสัญญาไม่ใช่ลายมือของจำเลย หากแต่จำเลยนำสืบไม่สม จำเลยต้องใช้หนี้ตามโจทก์ฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 847/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงปากเปล่าเรื่องค่าทำถนนกับสัญญากู้: การสืบพยานไม่เป็นการแก้ไขสัญญากู้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญากู้เงินไปจากโจทก์แล้วไม่ชำระ จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ขายที่ดินให้จำเลยจำเลยชำระราคายังไม่ครบ เงินจำนวนที่ยังค้างอยู่นั้น โจทก์ให้จำเลยทำสัญญากู้ตามฟ้องให้โจทก์ไว้ โดยตกลงกันด้วยปากเปล่าว่าเมื่อจำเลยทำถนนในที่ดินนั้นแล้ว โจทก์จะช่วยออกค่าใช้จ่ายให้ครึ่งหนึ่ง จะคิดหักเงินให้เมื่อทำเสร็จแล้ว ต่อมาจำเลยได้ออกโฉนดและทำถนนเสร็จแล้ว เมื่อคิดหักเงินส่วนที่โจทก์จะต้องออกให้แล้วจำเลยยังคงเป็นหนี้โจทก์น้อยกว่าจำนวนที่ฟ้องข้อตกลงเช่นนี้กฎหมายไม่ได้บังคับว่าต้องทำเป็นหนังสือและเป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหากจากสัญญากู้ การที่จะขอสืบพยานเรื่องข้อตกลงนี้จึงไม่เป็นการสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขสัญญากู้ และหนี้ดังกล่าวนี้ไม่อยู่ในลักษณะที่ไม่เปิดซองให้หักลบกันได้.