คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สัญญาประนีประนอมยอมความ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 674 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5064/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องละเมิดต้องระบุเหตุแห่งความรับผิดชัดเจน สัญญาประนีประนอมยอมความระงับคดี
โจทก์บรรยายฟ้องเพียงว่า จำเลยที่ 1 เป็นบุตรชายและเป็นลูกจ้างผู้ครอบครองรถยนต์บรรทุกของจำเลยที่ 2 ขับรถยนต์ดังกล่าวด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังเป็นเหตุให้รถยนต์ที่จำเลยที่ขับชนรถยนต์โจทก์ได้รับความเสียหาย ฟ้องโจทก์กล่าวหาว่าจำเลยที่ 1กระทำละเมิดต่อโจทก์ จำเลยที่ 2 ต้องร่วมรับผิด แต่ไม่ได้บรรยายให้เห็นว่า จำเลยที่ 1 ได้กระทำละเมิดในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2ฟ้องโจทก์จึงขาดสาระสำคัญอันเป็นประเด็นแห่งคดีที่พึงกระทำให้จำเลยที่ 2 ต้องรับผิด ศาลจะพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีโดยไม่อาศัยฟ้องไม่ได้ จำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ตามฟ้อง หลังเกิดเหตุจำเลยที่ 2 และโจทก์ได้ตกลงกันต่อหน้าพนักงานสอบสวนว่า จำเลยที่ 2 ผู้แทนเจ้าของรถยนต์บรรทุกยินดีชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ของโจทก์ พนักงานสอบสวนได้บันทึกข้อตกลง และให้โจทก์จำเลยทั้งสองลงชื่อไว้ในบันทึกประจำวันเกี่ยวกับคดีบันทึกดังกล่าวเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2 เป็นผลทำให้มูลละเมิดซึ่งมีอยู่ระงับสิ้นไปทำให้แต่ละฝ่ายมีสิทธิตามที่แสดงไว้ในสัญญาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 852 โจทก์จะมาฟ้องจำเลยที่ 2ในมูลละเมิดที่ระงับสิ้นไปแล้วหาได้ไม่ ชอบที่จะฟ้องจำเลยที่ 2ตามสัญญาประนีประนอมยอมความที่ทำกันไว้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5039/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้ซื้อตามสัญญาสัญญาประนีประนอมยอมความ vs. การบังคับคดี การคุ้มครองสิทธิผู้ซื้อก่อนเจ้าหนี้
โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินพิพาทภายในระยะเวลาที่กำหนดในสัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งศาลได้มีคำพิพากษาบังคับตามยอมให้จำเลยซึ่งเป็นคู่ความแทนที่จำเลยในอีกคดีหนึ่ง โอนขายที่ดินพิพาทแก่ผู้ร้องซึ่งเป็นโจทก์คดีนั้น ทำให้การโอนที่ดินพิพาทไม่อาจกระทำได้ การที่ผู้ร้องไม่ชำระราคาที่ดินพิพาทภายในกำหนดเวลาดังกล่าวจึงถือไม่ได้ว่าผู้ร้องเป็นฝ่ายผิดสัญญา
เมื่อศาลได้พิพากษาให้คดีเสร็จเด็ดขาดไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความให้จำเลยโอนขายที่ดินพิพาทแก่ผู้ร้องแล้ว ผู้ร้องจึงมีสิทธิตามคำพิพากษาที่จะบังคับให้จดทะเบียนสิทธิของตนได้ก่อนตาม ป.พ.พ. มาตรา 1300 โจทก์จะบังคับคดียึดที่ดินพิพาทให้กระทบกระทั่งสิทธิของผู้ร้องอันอาจขอให้บังคับเหนือทรัพย์สินนั้นไม่ได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 287
กรณียื่นคำร้องตาม ป.วิ.พ. มาตรา 287 ถือได้ว่าเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ เมื่อศาลชั้นต้นยกคำร้อง ผู้ร้องอุทธรณ์ขอให้ไต่สวนคำร้องต่อไปและศาลอุทธรณ์พิพากษายืน แต่สั่งให้ผู้ร้องใช้ค่าทนายความชั้นอุทธรณ์เกินอัตราขั้นสูงในคดีไม่มีทุนทรัพย์จึงไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4732/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผิดนัดตามสัญญาประนีประนอมยอมความ: การพิจารณาเจตนาและพฤติการณ์ของคู่สัญญา
แม้สัญญาประนีประนอมยอมความตามคำพิพากษาจะกำหนดให้โจทก์จำเลยไปจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทในวันที่ 20 ตุลาคม2532 เวลา 11 นาฬิกาก็ตาม แต่ตามคำร้องของโจทก์อ้างว่าได้มอบหมายให้ทนายไปที่สำนักงานที่ดินเวลา 10.45 นาฬิกาและได้แจ้งให้ทนายจำเลยที่ 2 ทราบ โดยขอให้แจ้งเจ้าพนักงานเตรียมหลักฐานการโอนไว้ด้วย และโจทก์ได้ไปถึงสำนักงานที่ดินพร้อมทั้งเช็คและเงินสดเมื่อเวลา 12.10 นาฬิกา แต่จำเลยที่ 2 ไม่ยอมดำเนินการให้มีการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่โจทก์ ซึ่งหากข้อเท็จจริงเป็นไปตามคำร้อง ก็ไม่อาจถือว่าโจทก์ผิดนัดผิดสัญญา เพราะเวลา11 นาฬิกาที่กำหนดนัดหมาย ในสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น หมายถึงเวลาที่ทั้งสองฝ่ายไปพร้อมกันเพื่อเริ่มดำเนินการตามแบบพิธีของทางราชการมิใช่หมายถึงเวลาที่ทำการโอนเสร็จเรียบร้อย แต่ข้อเท็จจริงตามคำร้องของโจทก์ จำเลยที่ 2 แถลงคัดค้านอยู่ จะต้องมีการไต่สวนทั้งสองฝ่ายว่าความจริงเป็นประการใดจึงจะวินิจฉัยได้ว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายผิดนัดผิดสัญญา ที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดนัดโดยพิจารณาเฉพาะคำร้องนั้นเป็นการไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4678/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระงับหนี้จากการปฏิบัติการชำระหนี้โดยการซ่อมแซม เสาอากาศวิทยุ แทนการชำระเงินตามสัญญาประนีประนอมยอมความ
หลังจากจำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความยอมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายของเสาอากาศวิทยุให้โจทก์แล้ว โจทก์ไม่ติดใจเรียกร้องค่าเสียหายจากจำเลย คงประสงค์ให้จำเลยซ่อมแซมและติดตั้งเสาอากาศวิทยุให้ใหม่เท่านั้น อุปกรณ์การซ่อมแซมของจำเลยรายใดไม่เป็นไปตามมาตรฐานของทางราชการ โจทก์ก็เร่งรัดให้จำเลยแก้ไขโดยไม่ได้เรียกร้องให้จำเลยชำระเงินตามสัญญาประนีประนอมยอมความแต่อย่างใด ประกอบกับเจ้าหน้าที่ของโจทก์ได้ใช้เสาอากาศวิทยุที่จำเลยติดตั้งให้ใหม่มาโดยตลอด แสดงว่าโจทก์ยอมรับเอาเสาอากาศวิทยุที่จำเลยติดตั้งให้ใหม่แทนการชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความที่ได้ตกลงกันไว้ หนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นจึงเป็นอันระงับสิ้นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 321 วรรคแรก จำเลยไม่ต้องรับผิดใช้เงินตามสัญญาประนีประนอมยอมความให้โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4678/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระงับหนี้จากการชำระหนี้ด้วยวิธีการอื่นแทนการชำระเงินตามสัญญาประนีประนอมยอมความ
หลังจากจำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความยอมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายของเสาอากาศวิทยุให้โจทก์แล้ว โจทก์ไม่ติดใจเรียกร้องค่าเสียหายจากจำเลย คงประสงค์ให้จำเลยซ่อมแซมและติดตั้งเสาอากาศวิทยุให้ใหม่เท่านั้น อุปกรณ์การซ่อมแซมของจำเลยรายใดไม่เป็นไปตามมาตรฐานของทางราชการ โจทก์ก็เร่งรัดให้จำเลยแก้ไขโดยไม่ได้เรียกร้องให้จำเลยชำระเงินตามสัญญาประนีประนอมยอมความแต่อย่างใด ประกอบกับเจ้าหน้าที่ของโจทก์ได้ใช้เสาอากาศวิทยุที่จำเลยติดตั้งให้ใหม่มาโดยตลอด แสดงว่าโจทก์ยอมรับเอาเสาอากาศวิทยุที่จำเลยติดตั้งให้ใหม่แทนการชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความที่ได้ตกลงกันไว้ หนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นจึงเป็นอันระงับสิ้นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 321 วรรคแรก จำเลยไม่ต้องรับผิดใช้เงินตามสัญญาประนีประนอมยอมความให้โจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4575/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผิดนัดตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ต้องพิจารณาเจตนาและพฤติการณ์ของคู่สัญญาประกอบ
การที่จะพิจารณาว่าฝ่ายใดผิดนัดนั้นจะต้องพิจารณาการกระทำประกอบกับเจตนาที่ฝ่ายนั้นได้แสดงออกมาว่าจะไม่นำพาต่อการปฏิบัติตามนัดตามสัญญาหรือไม่เป็นสำคัญ เมื่อตามคำร้องของโจทก์อ้างว่าได้มอบหมายให้ทนายความไปที่สำนักงานที่ดินเมื่อเวลา 10.45 นาฬิกา และได้แจ้งให้ทนายความจำเลยร่วมทราบโดยขอให้เจ้าพนักงานเตรียมหลักฐานการโอนไว้ แต่จำเลยร่วมไม่ดำเนินการให้ กรณีก็ไม่อาจจะถือได้ว่าโจทก์ผิดนัด เพราะเวลา 11 นาฬิกา ที่กำหนดนัดหมายในสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นต้องหมายถึงเวลาที่ทั้งสองฝ่ายไปพร้อมกันเพื่อเริ่มดำเนินการตามแบบพิธีของทางราชการ มิใช่หมายถึงเวลาที่ทำการโอนเสร็จเรียบร้อย จะต้องมีการไต่สวนคู่ความทั้งสองฝ่ายว่าความจริงเป็นประการใดจึงจะวินิจฉัยได้ว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายผิดนัด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3556/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวจากสัญญาประนีประนอมยอมความ ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ได้
จำเลยผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์จำเลย แต่ไม่มีทรัพย์ใดที่โจทก์จะพึงยึดมาชำระหนี้ได้ จำเลยจึงต้องด้วยข้อสันนิษฐานของกฎหมายว่าเป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัว
นอกจากจะเป็นหนี้โจทก์แล้ว จำเลยยังมีหนี้สินอื่นอีก โดยที่จำเลยมีเพียงเงินเดือนเพียงอย่างเดียว ส่วนทรัพย์สินอื่นไม่มีพอที่จะชำระหนี้ จึงสมควรให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้เข้าจัดการทรัพย์สินของจำเลยตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 ต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3380/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความที่ระงับด้วยการส่งมอบรถยนต์ ไม่เป็นหนี้ที่แน่นอนตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย
โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความตกลงกันว่า จำเลยกับพวกร่วมกันชำระเงินให้แก่โจทก์ 290,000 บาท โดยแบ่งชำระเป็นงวด หากผิดนัดงวดใดยอมให้โจทก์บังคับคดีได้ทันที โดยยอมส่งมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนให้โจทก์ในสภาพใช้การได้ ถ้าจำเลยชำระหนี้ครบถ้วนก็ให้กรรมสิทธิ์ในรถยนต์ดังกล่าวเป็นของจำเลย เมื่อจำเลยผิดนัดและส่งมอบรถยนต์ให้โจทก์แล้ว จึงไม่มีหนี้ที่จะบังคับคดีต่อไป โจทก์จะถือเอาจำนวนเงินในสัญญายอมจำนวน 240,000 บาท มาอ้างว่าจำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัวยังไม่ได้ เพราะหากพิพาทกันในชั้นบังคับคดีต่อไปก็ยังไม่แน่นอนว่าจำเลยจะอ้างชำระเงินจำนวนดังกล่าวแก่โจทก์ โจทก์อาจต้องยอมรับรถคืนตามสัญญาประนีประนอมยอมความ หนี้ที่โจทก์นำมาฟ้องจึงเป็นหนี้ที่ไม่อาจกำหนดจำนวนได้แน่นอนตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 9 (3)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3050/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือรับสภาพหนี้ทำให้อายุความสะดุดหยุดลง แม้ไม่ใช่สัญญาประนีประนอมยอมความ
ข้อความที่ศาลชั้นต้นบันทึกไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาคดีอาญาเรื่องความผิดอันเกี่ยวกับการใช้เช็คว่า จำเลยทั้งสองจะนำเงินมาชำระให้โจทก์ 30,000 บาทในวันที่ 15 เดือนหน้าซึ่งโจทก์ยอมตามนี้เป็นเพียงความตกลงในการที่จำเลยทั้งสองจะนำเงินตามเช็คมาชำระให้โจทก์ในภายหลัง มิได้มีข้อตกลงที่โจทก์ยอมผ่อนผันให้แก่จำเลยทั้งสองเพื่อระงับข้อพิพาท จึงไม่เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความแต่ข้อตกลงดังกล่าวนั้นจำเลยทั้งสองยอมรับว่าเป็นหนี้โจทก์ตามเช็คจำนวน 30,000 บาท จึงเป็นหนังสือรับสภาพหนี้ ดังนี้ ทำให้อายุความสะดุดหยุดลง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2988/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความ: เงื่อนไขการบอกกล่าวติดตามหนี้ การตีความสัญญา
ที่จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์ว่า หาก ซ.บิดพลิ้วไม่ชำระหนี้ให้จำเลยรับผิดชอบในจำนวนเงินดังกล่าวโดยจะติดตาม ซ. ให้มาชดใช้ให้ ถ้าติดตามไม่ได้ จำเลยจะขอรับชดใช้เองจนครบจำนวนนั้น ไม่มีข้อความตอนใดบังคับว่าโจทก์จะต้องบอกกล่าวให้จำเลยติดตามตัว ซ. ก่อน ข้อความตามสัญญามีความหมายเพียงว่าถ้า ซ. ไม่ชำระ จำเลยต้องชำระแทนเท่านั้น ส่วนข้อความที่ว่าโดยจะติดตาม ซ. ให้มาชดใช้นั้น เป็นเรื่องเปิดโอกาสให้จำเลยมีเวลาติดตามลูกหนี้ที่แท้จริง ไม่ใช่เงื่อนไขให้โจทก์ต้องบอกกล่าวจำเลยก่อน
of 68