คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
หมิ่นประมาท

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 856 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3963/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงความคิดเห็นในกระบวนการพิจารณาคดี ไม่ถือเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทตามมาตรา 331
จำเลยในฐานะคู่ความคดีอื่นได้ยื่นคำร้องอันเป็นมูลให้ถูกฟ้องคดีนี้ ไว้ในคดีนั้น แม้จะมีถ้อยคำกล่าวพาดพิงถึงโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลนอกคดี แต่ก็เป็นข้อความที่จำเลยยื่นต่อศาลเพื่อแสดงความคิดเห็นหรือข้อความในกระบวนพิจารณาคดีในศาล เพื่อประโยชน์แก่คดีของตนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 331 จำเลยไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3963/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงความคิดเห็นในกระบวนการศาลเพื่อประโยชน์คดีของตน ไม่ถือเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 331
จำเลยในฐานะคู่ความคดีอื่นได้ยื่นคำร้องอันเป็นมูลให้ถูกฟ้องคดีนี้ ไว้ในคดีนั้น แม้จะมีถ้อยคำกล่าวพาดพิงถึงโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลนอกคดี แต่ก็เป็นข้อความที่จำเลยยื่นต่อศาลเพื่อแสดงความคิดเห็นหรือข้อความ ในกระบวนพิจารณาคดีในศาลเพื่อประโยชน์แก่คดีของตนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 331 จำเลยไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3963/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงความคิดเห็นในกระบวนการศาลเพื่อประโยชน์คดี ไม่ถือเป็นหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 331
จำเลยในฐานะคู่ความคดีอื่นได้ยื่นคำร้องอันเป็นมูลให้ถูกฟ้องคดีนี้ไว้ในคดีนั้นแม้จะมีถ้อยคำกล่าวพาดพิงถึงโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลนอกคดีแต่ก็เป็นข้อความที่จำเลยยื่นต่อศาลเพื่อแสดงความคิดเห็นหรือข้อความในกระบวนพิจารณาคดีในศาลเพื่อประโยชน์แก่คดีของตนตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา331จำเลยไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3957/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงความเห็นถึงพฤติกรรมของลูกจ้างในการโต้เถียงเรื่องการประเมินผลงาน ไม่เป็นหมิ่นประมาท
จำเลยกล่าวต่อคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ว่า ก่อนมีการประชุมคณะกรรมการพนักงานของบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยซึ่งเป็นนายจ้างของโจทก์จำเลย โจทก์เข้าไปพบจำเลยซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาโจทก์ในขณะนั้น โจทก์ได้ต่อว่าจำเลยเรื่องการประเมินผลงานเพื่อเลื่อนขั้นเงินเดือนมีการโต้เถียงกันและโจทก์แสดงกิริยาไม่เหมาะสมโดยยืนเท้าโต๊ะทำกิริยาเหมือนขู่ตะคอกและเหมือนกับจะทำร้ายจำเลยนั้น แม้จะรับฟังว่าจำเลยกล่าวข้อความต่อคณะกรรมการดังกล่าวก็ตาม ก็เป็นแต่เพียงทำให้เห็นว่าโจทก์บันดาลโทสะที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากจำเลยในการพิจารณาเสนอเลื่อนขั้นเงินเดือน โจทก์จึงเข้าไปต่อว่าจำเลยซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา แสดงว่าโจทก์เพียงโกรธจำเลยที่ไม่ให้ความเป็นธรรมและแสดงกิริยาไม่เหมาะสมต่อจำเลยไปบ้าง ซึ่งบุคคลทั่วไปอาจเป็นเช่นโจทก์ได้ในภาวะเช่นนั้น หาจำเป็นต้องเป็นคนเลวร้ายแต่อย่างใดไม่ ข้อความดังกล่าวย่อมถือไม่ได้ว่าทำให้โจทก์ต้องเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชังอันเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3957/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงความเห็นถึงพฤติกรรมของลูกจ้างในที่ประชุม ไม่ถือเป็นการหมิ่นประมาทหากเป็นความเห็นได้
จำเลยกล่าวต่อคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ว่า ก่อนมีการประชุมคณะกรรมการพนักงานของบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นนายจ้างของโจทก์จำเลยโจทก์เข้าไปพบจำเลยซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา โจทก์ในขณะนั้น โจทก์ได้ต่อว่าจำเลยเรื่องการประเมินผลงานเพื่อ เลื่อนขั้นเงินเดือนมีการโต้เถียงกันและโจทก์แสดงกิริยาไม่เหมาะสม โดยยืนเท้าโต๊ะทำกิริยาเหมือนขู่ตะคอกและเหมือนกับจะทำร้ายจำเลยนั้น แม้จะรับฟังว่าจำเลยกล่าวข้อความต่อคณะกรรมการดังกล่าวก็ตาม ก็เป็นแต่เพียงทำให้เห็นว่าโจทก์บันดาลโทสะที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากจำเลยในการพิจารณาเสนอเลื่อนขั้นเงินเดือน โจทก์จึงเข้าไปต่อว่า จำเลยซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา แสดงว่าโจทก์เพียงโกรธจำเลยที่ไม่ให้ ความเป็นธรรมและแสดงกิริยาไม่เหมาะสมต่อจำเลยไปบ้าง ซึ่งบุคคลทั่วไป อาจเป็นเช่นโจทก์ได้ในภาวะเช่นนั้น หาจำเป็นต้องเป็นคนเลวร้าย แต่อย่างใดไม่ ข้อความดังกล่าวย่อมถือไม่ได้ว่าทำให้โจทก์ต้องเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชังอันเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3957/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงความเห็นเกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกจ้างในการประเมินผลงาน ไม่ถึงขั้นหมิ่นประมาท
จำเลยกล่าวต่อคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ว่าก่อนมีการประชุมคณะกรรมการพนักงานของบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยซึ่งเป็นนายจ้างของโจทก์จำเลยโจทก์เข้าไปพบจำเลยซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาโจทก์ในขณะนั้นโจทก์ได้ต่อว่าจำเลยเรื่องการประเมินผลงานเพื่อเลื่อนขั้นเงินเดือนมีการโต้เถียงกันและโจทก์แสดงกิริยาไม่เหมาะสมโดยยืนเท้าโต๊ะทำกิริยาเหมือนขู่ตะคอกและเหมือนกับจะทำร้ายจำเลยนั้นแม้จะรับฟังว่าจำเลยกล่าวข้อความต่อคณะกรรมการดังกล่าวก็ตามก็เป็นแต่เพียงทำให้เห็นว่าโจทก์บันดาลโทสะที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากจำเลยในการพิจารณาเสนอเลื่อนขั้นเงินเดือนโจทก์จึงเข้าไปต่อว่าจำเลยซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาแสดงว่าโจทก์เพียงโกรธจำเลยที่ไม่ให้ความเป็นธรรมและแสดงกิริยาไม่เหมาะสมต่อจำเลยไปบ้างซึ่งบุคคลทั่วไปอาจเป็นเช่นโจทก์ได้ในภาวะเช่นนั้นหาจำเป็นต้องเป็นคนเลวร้ายแต่อย่างใดไม่ข้อความดังกล่าวย่อมถือไม่ได้ว่าทำให้โจทก์ต้องเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชังอันเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3680/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร้องเรียนการก่อสร้างบนที่ดินเช่าโดยสุจริต ไม่เข้าข่ายหมิ่นประมาท แม้จะขัดต่อการอนุมัติก่อนหน้า
การที่เทศบาลตำบลอรัญประเทศอนุมัติให้โจทก์ก่อสร้างอาคารศูนย์บรรเทาสาธารณภัยบนที่ดินราชพัสดุที่เทศบาลเช่าจากกระทรวงการคลังเจ้าของที่ดิน เทศบาลทำผิดสัญญาเช่าเนื่องจากนำที่ดินที่เช่าให้โจทก์ใช้ประโยชน์โดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากกระทรวงการคลังเจ้าของที่ดินซึ่งมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ทั้งยังผิดระเบียบของกระทรวงมหาดไทย เพราะมิได้ขออนุมัติอีกจำเลยซึ่งเป็นสมาชิกสภาเทศบาลได้ทักท้วงในการประชุมสภาเทศบาลถึง 4 ครั้งแต่ก็ไม่บังเกิดผล ดังนี้การทำบันทึกร้องเรียนของจำเลยเสนอต่อคณะเทศมนตรีเทศบาลตำบลอรัญประเทศเกี่ยวกับการก่อสร้างอาคารดังกล่าวของโจทก์ว่าเป็นการบุกรุกที่ดินที่เทศบาลมีสิทธิครอบครอง ทำให้เทศบาลขาดประโยชน์ เป็นการขัดต่อนโยบายของเทศบาล แม้จะมีการกล่าวอ้างถึงการกระทำดังกล่าวว่าเป็นของผู้มีอิทธิพลแสวงหาผลประโยชน์เฉพาะกลุ่มของตน ก็เป็นเรื่องที่จำเลยเข้าใจจากพฤติการณ์ของโจทก์ ซึ่งกระทำอยู่ในขณะนั้นที่ทำให้เทศบาลตำบลอรัญประเทศซึ่งจำเลยเป็นสมาชิกสภาเทศบาลอยู่เสียหาย จึงเป็นการร้องเรียนโดยสุจริต เพื่อความชอบธรรม ป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับจำเลยในฐานะที่เป็นสมาชิกสภาเทศบาลนั้นตามคลองธรรม ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 329(1) จำเลยไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3680/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร้องเรียนโดยสุจริตของสมาชิกสภาเทศบาลเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของเทศบาล ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
การที่เทศบาลตำบลอรัญประเทศอนุมัติให้โจทก์ก่อสร้างอาคารศูนย์บรรเทาสาธารณภัยบนที่ดินราชพัสดุที่เทศบาลเช่าจากกระทรวงการคลังเจ้าของที่ดิน เทศบาลทำผิดสัญญาเช่าเนื่องจากนำที่ดินที่เช่าให้โจทก์ใช้ประโยชน์โดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากกระทรวงการคลังเจ้าของที่ดินซึ่งมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ทั้งยังผิดระเบียบของกระทรวงมหาดไทย เพราะมิได้ขออนุมัติอีกจำเลยซึ่งเป็นสมาชิกสภาเทศบาลได้ทักท้วงในการประชุมสภาเทศบาลถึง 4 ครั้งแต่ก็ไม่บังเกิดผล ดังนี้การทำบันทึกร้องเรียนของจำเลยเสนอต่อคณะเทศมนตรีเทศบาลตำบลอรัญประเทศเกี่ยวกับการก่อสร้างอาคารดังกล่าวของโจทก์ว่าเป็นการบุกรุกที่ดินที่เทศบาลมีสิทธิครอบครองทำให้เทศบาลขาดประโยชน์ เป็นการขัดต่อนโยบายของเทศบาล แม้จะมีการกล่าวอ้างถึงการกระทำดังกล่าวว่าเป็นของผู้มีอิทธิพลแสวงหาผลประโยชน์เฉพาะกลุ่มของตน ก็เป็นเรื่องที่จำเลยเข้าใจจากพฤติการณ์ของโจทก์ซึ่งกระทำอยู่ในขณะนั้นที่ทำให้เทศบาลตำบลอรัญประเทศซึ่งจำเลยเป็นสมาชิกสภาเทศบาลอยู่เสียหายจึงเป็นการร้องเรียนโดยสุจริตเพื่อความชอบธรรม ป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับจำเลยในฐานะที่เป็นสมาชิกสภาเทศบาลนั้นตามคลองธรรมตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 329(1) จำเลยไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3680/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร้องเรียนโดยสุจริตของสมาชิกสภาเทศบาลเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของเทศบาล ไม่ถือเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท
การที่เทศบาลตำบลอรัญประเทศอนุมัติให้โจทก์ก่อสร้างอาคารศูนย์บรรเทาสาธารณภัยบนที่ดินราชพัสดุที่เทศบาลเช่าจากกระทรวงการคลังเจ้าของที่ดินเทศบาลทำผิดสัญญาเช่าเนื่องจากนำที่ดินที่เช่าให้โจทก์ใช้ประโยชน์โดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากกระทรวงการคลังเจ้าของที่ดินซึ่งมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ทั้งยังผิดระเบียบของกระทรวงมหาดไทยเพราะมิได้ขออนุมัติอีกจำเลยซึ่งเป็นสมาชิกสภาเทศบาลได้ทักท้วงในการประชุมสภาเทศบาลถึง4ครั้งแต่ก็ไม่บังเกิดผลดังนี้การทำบันทึกร้องเรียนของจำเลยเสนอต่อคณะเทศมนตรีเทศบาลตำบลอรัญประเทศเกี่ยวกับการก่อสร้างอาคารดังกล่าวของโจทก์ว่าเป็นการบุกรุกที่ดินที่เทศบาลมีสิทธิครอบครองทำให้เทศบาลขาดประโยชน์เป็นการขัดต่อนโยบายของเทศบาลแม้จะมีการกล่าวอ้างถึงการกระทำดังกล่าวว่าเป็นของผู้มีอิทธิพลแสวงหาผลประโยชน์เฉพาะกลุ่มของตนก็เป็นเรื่องที่จำเลยเข้าใจจากพฤติการณ์ของโจทก์ซึ่งกระทำอยู่ในขณะนั้นที่ทำให้เทศบาลตำบลอรัญประเทศซึ่งจำเลยเป็นสมาชิกสภาเทศบาลอยู่เสียหายจึงเป็นการร้องเรียนโดยสุจริตเพื่อความชอบธรรมป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับจำเลยในฐานะที่เป็นสมาชิกสภาเทศบาลนั้นตามคลองธรรมตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา329(1)จำเลยไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 364/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานหลักฐานในคดีหมิ่นประมาท ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยฎีกาที่ขัดแย้งข้อเท็จจริงที่ฟังยุติแล้ว
ฎีกาของจำเลยที่ว่า ในการวินิจฉัยคดีนั้น ศาลล่างทั้งสองหยิบยกพยานหลักฐานของจำเลยขึ้นมาพิจารณาแต่เพียงบางส่วน จึงเห็นว่าจำเลยหมิ่นประมาทโจทก์ร่วม ถ้าพิจารณาให้ครบถ้วนแล้ว จะเห็นได้ว่าจำเลยไม่ได้กระทำความผิด การวินิจฉัยของศาลล่างทั้งสองจึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227 นั้น เป็นฎีกาโต้แย้งการรับฟังพยานหลักฐานของศาลโดยการโต้เถียงข้อเท็จจริง จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงและข้อเท็จจริงที่จำเลยยกขึ้นมากล่าวอ้างนั้น เป็นข้อเท็จจริงนอกเหนือจากที่โจทก์กล่าวมาในฟ้องและที่จำเลยให้การรับซึ่งฟังเป็นยุติแล้ว ศาลฎีกาจึงวินิจฉัยให้ไม่ได้
เมื่อศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าข้อความที่จำเลยลงโฆษณานั้นเป็นข้อความที่หมิ่นประมาทโจทก์ร่วมแล้ว จึงไม่มีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยว่าจำเลยมีสิทธิที่จะนำข้อความหมิ่นประมาทนั้นไปลงประกาศในหนังสือพิมพ์หรือไม่เพราะจำเลยไม่มีสิทธิที่จะกระทำการอันเป็นความผิดต่อกฎหมายได้ ที่ศาลอุทธรณ์มิได้วินิจฉัยในประเด็นที่ว่า จำเลยมีสิทธิลงประกาศในหนังสือพิมพ์หรือไม่ไม่ได้ทำให้การวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
of 86