คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
อุบัติเหตุ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 469 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3585/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าสินไหมทดแทนจากอุบัติเหตุทางรถยนต์: การสูญเสียอุปการะและแรงงาน
รถจำเลยขับชนรถโจทก์ จนโจทก์ต้องพิการตลอดชีวิต ภริยาโจทก์ถึงแก่ความตาย จำเลยต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนในการที่โจทก์ต้องขาดไร้อุปการะและขาดแรงงานจากภริยา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1310/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขั้นตอนการฟ้องร้องเงินทดแทน และการพิจารณาความรับผิดชอบจากอุบัติเหตุระหว่างเดินทางไปทำงาน
เมื่อประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงานว่าด้วยเงินทดแทน ได้กำหนดขั้นตอนการเรียกร้องและการสั่งการในเรื่องเงินทดแทนไว้แล้ว.โจทก์ชอบที่จะดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าวเสียก่อน ไม่ชอบที่จะฟ้องให้เพิกถอนคำสั่งของพนักงานเงินทดแทนทันทีโดยมิได้อุทธรณ์ต่ออธิบดีกรมแรงงานก่อน เพราะเป็นการขัดกับขั้นตอนในการที่จะนำคดีมาสู่ศาลแรงงานตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 8 วรรคท้าย
คำสั่งอุทธรณ์เงินทดแทนของอธิบดีกรมแรงงานที่สั่งยืนตามคำสั่งของพนักงานเงินทดแทน ไม่ลบล้างคำสั่งของพนักงานเงินทดแทนที่ยังมีผลบังคับโจทก์ผู้เป็นนายจ้างอยู่ โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งพนักงานเงินทดแทน และคำสั่งอุทธรณ์ของอธิบดีกรมแรงงานพร้อมกันได้
อธิบดีกรมแรงงานเป็นผู้แทนของกรมแรงงานอันเป็นนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจและหน้าที่เกี่ยวกับปัญหาแรงงาน โดยกระทำในนามของกรมแรงงานนั่นเอง กรมแรงงานย่อมอาจถูกฟ้องเป็นจำเลยในกรณีที่ผู้แทนกระทำการดังกล่าวแทนได้
ลูกจ้างโจทก์ได้รับอันตรายในขณะเดินทางไปเข้าเวรสำรองฉุกเฉินพนักงานขับรถของโจทก์ ณ ที่ทำการแขวงสารวัตรรถจักรธนบุรี ถือไม่ได้ว่าลูกจ้างประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้แก่โจทก์ เพราะยังมิได้ปฏิบัติหน้าที่หรือลงมือทำงานให้แก่โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3854/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบรรยายฟ้องค่าเสียหายจากอุบัติเหตุ: ค่าเสื่อมราคาและค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ
เอกสารท้ายฟ้องและคำขอท้ายคำฟ้องของโจทก์บรรยายรายละเอียดเกี่ยวกับค่าเสื่อมราคาของรถและค่าขาดประโยชน์ในการที่ไม่ได้ใช้รถไว้โดยแจ้งชัด รวมทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหา ซึ่งจำเลยสามารถเข้าใจได้ดี ฟ้องของโจทก์ในส่วนที่เกี่ยวกับค่าเสื่อมราคาของรถและค่าขาดประโยชน์ในการที่ไม่ได้ใช้รถจึงสมบูรณ์ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรคสอง และปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมาย ทั้งเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์จึงมีอำนาจวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 34/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาททั้งสองฝ่ายและการแบ่งความรับผิดในความเสียหายจากอุบัติเหตุทางรถยนต์
โจทก์ขับรถจักรยานยนต์ชนกับรถยนต์ที่จำเลยขับ ต่างขับด้วยความประมาทเท่ากันโจทก์ได้รับความเสียหาย 58,000 บาท ดังนี้ โจทก์จำเลยจะต้องรับผิดในความเสียหายคนละส่วนเท่ากัน โจทก์จึงควรได้รับค่าเสียจากจำเลยเป็นเงิน 29,000 บาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 34/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาททั้งสองฝ่ายในอุบัติเหตุทางรถยนต์: การแบ่งความรับผิดและค่าเสียหาย
โจทก์ขับรถจักรยานยนต์ชนกับรถยนต์ที่จำเลยขับ ต่างขับด้วยความประมาทเท่ากัน โจทก์ได้รับความเสียหาย 58,000บาท ดังนี้ โจทก์จำเลยจะต้องรับผิดในความเสียหายคนละส่วนเท่ากัน โจทก์จึงควรได้รับค่าเสียหายจากจำเลยเป็นเงิน 29,000 บาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3207/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุสุดวิสัยต้องทำให้ไม่สามารถมาศาลได้จริง การอ้างอุบัติเหตุรถชนใกล้ศาลไม่ถือเป็นเหตุสุดวิสัย
ในคดีที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกฟ้องเพราะตัวโจทก์และทนายโจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัด การที่ต่อมาโจทก์มายื่นคำร้องอ้างว่า ระหว่างการเดินทางมาศาลของโจทก์และทนายโจทก์ ได้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ของโจทก์ชนท้ายรถยนต์ของผู้อื่น ต้องเสียเวลาตกลงเรื่องค่าเสียหายนั้นมิใช่เป็นเหตุสุดวิสัยที่จะทำให้โจทก์หรือทนายโจทก์คนใดคนหนึ่งไม่สามารถมาศาลได้ทันตามกำหนด ทั้งปรากฏว่าที่เกิดเหตุรถยนต์ชนกันอยู่ห่างจากศาลชั้นต้นเพียงเล็กน้อยมีพฤติการณ์ส่อให้เห็นว่าฝ่ายโจทก์มิได้สนใจต่อเวลานัดของศาล จึงไม่มีเหตุที่ศาลจะยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3207/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาคดี: เหตุสุดวิสัยต้องร้ายแรงและไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ การชนท้ายรถไม่ถือเป็นเหตุสุดวิสัย
ในคดีที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกฟ้องเพราะตัวโจทก์และทนายโจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัด การที่ต่อมาโจทก์มายื่นคำร้องอ้างว่า ระหว่างการเดินทางมาศาลของโจทก์และทนายโจทก์ ได้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ของโจทก์ชนท้ายรถยนต์ของผู้อื่น ต้องเสียเวลาตกลงเรื่องค่าเสียหายนั้นมิใช่เป็นเหตุสุดวิสัยที่จะทำให้โจทก์หรือทนายโจทก์คนใดคนหนึ่งไม่สามารถมาศาลได้ทันตามกำหนด ทั้งปรากฏว่าที่เกิดเหตุรถยนต์ชนกันอยู่ห่างจากศาลชั้นต้นเพียงเล็กน้อยมีพฤติการณ์ส่อให้เห็นว่าฝ่ายโจทก์มิได้สนใจต่อเวลานัดของศาล จึงไม่มีเหตุที่ศาลจะยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2648/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้รับประกันภัยเมื่อเกิดอุบัติเหตุจากลูกจ้างในทางการจ้าง
ความวินาศภัยได้เกิดขึ้นเพราะความประมาทของจำเลยที่ 1ซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 กระทำไปในทางการที่จ้างจึงถือไม่ได้ว่าเหตุเกิดขึ้นเพราะความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของจำเลยที่ 2 ผู้เอาประกันภัยจำเลยที่ 3 ผู้รับประกันภัยค้ำจุนต้องร่วมรับผิดด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1984/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทเลินเล่อของทั้งสองฝ่ายในอุบัติเหตุทางรถไฟ ทำให้ไม่ต้องรับผิดในความเสียหาย
แม้คดีอาญาที่จำเลยที่ 1 ถูกพนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องในข้อหาผิดพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2477 จะปรากฏว่าศาลพิพากษายกฟ้องคดีถึงที่สุดแล้วก็ตาม แต่ก็ปรากฏว่า โจทก์ในคดีนี้มิได้เข้าเป็นคู่ความด้วย ทั้งมิใช่ ผู้เสียหายในคดีดังกล่าว คำพิพากษาในคดีอาญาดังกล่าวจึงไม่ ผูกพันโจทก์ในคดีนี้ ต้องฟังข้อเท็จจริงใหม่
ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า เหตุที่รถไฟของโจทก์ชนกับรถยนต์บรรทุกที่จำเลยที่ 1 ขับเป็นเพราะความประมาทเลินเล่อของทั้งสองฝ่ายไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน จำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดในความเสียหาย จำเลยที่ 3 ในฐานะนายจ้างก็ไม่ต้องรับผิดด้วย (อ้างฎีกา 676/2524)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 170/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจ่ายค่าประกันชีวิตกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ: ความหมายของ 'อุบัติเหตุ' ตามกรมธรรม์
สามีโจทก์เอาประกันชีวิตไว้กับจำเลย โดยโจทก์เป็นผู้รับประโยชน์ในกรมธรรม์ประกันชีวิตมีเงื่อนไขว่า ถ้าสามีโจทก์ถึงแก่ความตายโดยอุบัติเหตุจำเลยจะใช้เงินเป็นจำนวนสองเท่าของจำนวนที่เอาประกัน ระหว่างอายุสัญญา สามีโจทก์เป็นลมล้มลงศีรษะฟาดพื้นสมองได้รับความกระทบกระเทือนถึงแก่ความตาย ดังนี้เห็นได้ว่าที่ผู้ตายเป็นลมหกล้มเป็นเรื่องเกิดขึ้นโดยบังเอิญปราศจากเจตนาและความคาดหมายของผู้ตาย จึงถือได้ว่าผู้ตายตายเพราะอุบัติเหตุตามกรมธรรม์ประกันชีวิต จำเลยจึงต้องรับผิดชดใช้เงินให้โจทก์สองเท่าตามสัญญา
of 47