คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เปลี่ยนแปลง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 393 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 346/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลสั่งเปลี่ยนแปลงหน้าที่นำสืบ และอำนาจฟ้องของผู้เช่า
คำสั่งศาลที่สั่งในเรื่องหน้าที่นำสืบนั้น เมื่อสั่งให้ฝ่ายใดเป็นฝ่ายมีหน้าที่นำสืบก่อนแล้วก็ดี ภายหลังก็ย่อมมีอำนาจสั่งเปลี่ยนแปลงได้เพราะไม่มีกฎหมายใดบัญญัติห้ามไว้และเมื่อศาลสั่งแก้แล้ว คู่ความมิได้โต้แย้งไว้ ก็ย่อมอุทธรณ์ฎีกาไม่ได้ ตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 226

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1271/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำกรณีเช่าเคหะ: การเปลี่ยนแปลงเจตนาเช่าจากที่อยู่อาศัยเป็นค้าขายต้องชัดเจน
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยในคดีก่อน อ้างว่าจำเลยใช้สถานที่เช่าเพื่อประกอบการค้าประเภทรับจ้างซักรีดเช่นเดียวกับคดีนี้ ศาลวินิจฉัยว่า จำเลยเช่าเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่ ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯลฯ แม้ภายหลังได้มีคำพิพากษาฎีกาหลายเรื่องวินิจฉัยคำว่า "เคหะ" ตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ ก็ไม่เป็นเหตุให้เปลี่ยนแปลงผลแห่งคำพิพากษาในคดีก่อนว่าไม่เป็น "เคหะ" ได้ การที่โจทก์ฟ้องคดีใหม่อ้างเหตุว่าจำเลยยอมเสียค่าเช่าเพิ่มจากเดิมโดยจำเลยได้ขยายกิจการการค้าในร้านนี้กว้างขวางออกไปอีก รับจ้างซักรีดผ้าทุกชนิด เพียงเท่านี้ยังไม่พอให้เห็นว่า คู่สัญญาได้เปลี่ยนเจตนาจากการเช่าอยู่อาศัย เป็นการเช่าเพื่อประกอบการค้า จึงเป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1270/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงเจตนาเช่าจากที่อยู่อาศัยเป็นค้า และฟ้องซ้ำ
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยในคดีก่อน อ้างว่าจำเลยใช้สถานที่เช่าเพื่อประกอบการค้าประเภทรับจ้างซักรีดเช่นเดียวกับคดีนี้ ศาลวินิจฉัยว่า จำเลยเช่าเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่ ได้รับความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯลฯ แม้ภายหลังได้มีคำพิพากษาฎีกาหลายเรื่องวินิจฉัยคำว่า "เคหะ" ตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯลฯก็ไม่เป็นเหตุให้เปลี่ยนแปลงผลแห่งคำพิพากษาในคดีก่อนว่าไม่เป็น"เคหะ" ได้ การที่โจทก์ฟ้องคดีใหม่อ้างเหตุว่าจำเลยยอมเสียค่าเช่าเพิ่มจากเดิมโดยจำเลยได้ขยายกิจการค้าในร้านนี้กว้างขวางออกไปอีก รับจ้างซักรีดผ้าทุกชนิดเพียงเท่านี้ยังไม่พอให้เห็นว่า คู่สัญญาได้เปลี่ยนเจตนาจากการเช่าอยู่อาศัยเป็นการเช่าเพื่อประกอบการค้าจึงเป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 121/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงข้อหาจากฆ่าคนตายโดยเจตนาเป็นฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา และสิทธิในการฎีกาข้อเท็จจริง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249 ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตามมาตรา 251 ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโดยไม่เชื่อข้อเท็จจริง ดังนี้ โจทก์ยังมีสิทธิฎีกาในข้อเท็จจริงขอให้ศาลฎีกาลงโทษจำเลยในความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตามมาตรา 249 ได้ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1153-1154/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องคดีกบฏ และการเปลี่ยนแปลงสถานะของรัฐบาล
ฟ้องหาว่าจำเลยได้สมคบกันพยายามจะก่อการกบฏโดยจะกระทำการประทุษร้ายเพื่อทำลายรัฐบาล ฯลฯ ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2491 เวลาใดไม่ปรากฏถึงวันที่ 2 ตุลาคมปีเดียวกันเวลากลางวัน ฯลฯ ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นฟ้องที่ระบุวันเวลาจำกัดพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้แล้วกฎหมายหาได้บังคับให้แยกเป็นเวลา เป็นรายตัวบุคคลไม่ และไม่จำเป็นต้องแยกว่า จำเลยคนใดกระทำผิดอย่างใด เมื่อได้บรรยายการกระทำผิดมาพอที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ก็ย่อมเป็นฟ้องที่สมบูรณ์
การล้มล้างรัฐบาลเก่า ตั้งเป็นรัฐบาลขึ้นใหม่โดยใช้กำลังนั้น ในตอนต้นอาจไม่ชอบด้วยกฎหมายจนกว่าประชาชนจะได้ยอมรับนับถือแล้ว เมื่อเป็นรัฐบาลที่ถูกต้องตามความเป็นจริงคือหมายความว่า ประชาชนได้ยอมรับนับถือแล้วผู้ก่อการกบฏล้มล้างรัฐบาลดังกล่าวก็ต้องเป็นผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 102

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 539/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงเคหะที่เช่า ไม่เป็นเหตุบังคับตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
การเปลี่ยนแปลงเคหะที่เช่า(ย้ายบันได) จะโดยรับอนุญาตหรือไม่รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าก็ดี หาใช่เป็นมูลเหตุที่จะยกขึ้นพิจารณาและบังคับตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ ไม่เพราะ พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ ไม่มีบทกล่าวไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 259/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจปกครองบุตร: การเปลี่ยนแปลงหลังจดทะเบียนรับรองบุตร และดุลยพินิจของศาล
โจทก์เคยฟ้องศาลขอให้สั่งว่าบุตรอยู่ในอำนาจปกครองของตน ศาลพิพากษาว่ายังไม่ได้จดทะเบียนเด็กว่าเป็นบุตรอันชอบด้วยกฎหมาย จึงยังไม่มีผลทำให้โจทก์เป็นบิดาของเด็กตามกฎหมาย ภายหลังโจทก์จึงจัดการจดทะเบียนรับรองบุตรโดยชอบแล้ว มายื่นฟ้องขอให้ศาลสั่งถอนอำนาจปกครองนั้นจากมารดาเด็กมาให้อยู่กับโจทก์ได้ แต่เมื่อมีพฤติการณ์ที่สมควรศาลก็มีอำนาจที่จะให้อำนาจการปกครองบุตรอยู่แก่มารดาของเด็กต่อไปอีกได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1942/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงกฎหมายคนเข้าเมืองและการกำหนดโทษ: การฟ้องร้องตามกฎหมายฉบับใหม่
พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2480 มาตรา 42 บัญญัติห้ามคนต่างด้าวเข้ามาในพระราชอาณาจักรสยามโดยฝ่าฝืนหรือหลีกเลี่ยงพระราชบัญญัตินี้และกำหนดโทษไว้ แต่ตาม พระราชบัญญัติคนเข้าเมืองพ.ศ.2493 มิได้กำหนดโทษความผิดไว้ คงมีมาตรา 58 บัญญัติห้ามคนต่างด้าวผู้ใดอยู่ในราชอาณาจักรด้วย การเข้ามาโดยฝ่าฝืนมาตรา 11 หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 21 มีความผิดต้องระวางโทษ ฉะนั้นเมื่อใช้ พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2493 แล้ว จะฟ้องคนต่างด้าวหาว่าเข้ามาในราชอาณาจักรสยามฝ่าฝืน พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2480 ศาลย่อมลงโทษตามที่ฟ้องไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1814/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความยินยอมตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ แม้มติคณะกรรมการเปลี่ยนแปลงภายหลัง ก็ไม่ลบล้างความยินยอมที่ได้ทำไปแล้ว
ผู้ให้เช่ายื่นคำร้องขอเข้าอยู่ในห้องเช่าเอง ต่อคณะอนุกรรมการควบคุมค่าเช่าประจำจังหวัด อนุกรรมการได้เชิญให้ผู้ให้เช่าและผู้เช่ามาเพื่อแจ้งมติคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าให้ทราบ ผู้ให้เช่าและผู้เช่าจึงตกลงยินยอมตามกำหนดที่คณะกรรมการกำหนด คือให้ผู้เช่าออกจากห้องเช่าภายใน 8 เดือนและมีความว่าผู้เช่าตกลงยินยอมจะออกจากห้องเช่าของผู้ให้เช่าตามมติของคณะกรรมการควบคุมเช่าภายในกำหนด 8 เดือน ฯลฯ ดังนี้ข้อตกลงเช่นนี้ ถือได้ว่าเป็นความยินยอมของผู้เช่าตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ มาตรา 16 (5) แล้ว ฉะนั้นภายหลังอนุกรรมการควบคุมค่าเช่า ประจำจังหวัด จะเสนอเรื่องนี้ขึ้นไปยังคณะกรรมการควบคุมค่าเช่าสั่งตามอำนาจ คณะกรรมการได้ลงมติไม่ให้ผู้เช่าเข้าอยู่ห้องเช่าของผู้ให้เช่าตามคำร้องก็ตามมติกรรมการก็ไม่ลบล้างความยินยอมดังกล่าวแล้ว ผู้เช่าไม่ออกจากห้องเช่า โจทก์ย่อมฟ้องขับไล่จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1606-1610/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์การเช่าจากที่อยู่อาศัยเป็นเชิงพาณิชย์ ทำให้ไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
ข้ออ้างที่ว่าการเช่าได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯลฯ นั้น เป็นหน้าที่ของผู้เช่าที่จะต้องนำสืบให้รับฟังได้
การเช่าตึกอยู่อาศัยนั้นแม้ในชั้นแรกเช่าเพื่ออยู่อาศัย แต่ต่อมาได้ทำสัญญาเช่ากันใหม่ หลายครั้งและได้มีการขึ้นค่าเช่ากันเรื่อย ๆ มา จนเป็นที่เห็นได้ว่าวัตถุประสงค์แห่งการเช่าเปลี่ยนไปเป็นเพื่อประกอบธุระกิจหรือการค้าแล้ว การเช่านั้นก็ย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ
of 40