พบผลลัพธ์ทั้งหมด 567 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1419/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารกู้ยืมเงินต้องมีลายมือชื่อผู้ยืมจึงมีผลผูกพันทางกฎหมาย
แม้จำเลยจะเขียนชื่อจำเลยไว้ที่หัวกระดาษถัดลงมามีข้อความแสดงการยืมเงินรายการแสดงการชำระหนี้หลายครั้งและมีรายการแสดงยอดเงินคงเหลือ แต่ไม่มีลายมือชื่อจำเลยถือไม่ได้ว่าชื่อจำเลยที่เขียนไว้ที่หัวกระดาษเป็นการลงลายมือชื่อเอกสารดังกล่าวจึงมิใช่หลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ยืมเป็นสำคัญดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 วรรคแรกโจทก์จะอาศัยเอกสารดังกล่าวฟ้องร้องบังคับให้จำเลยรับผิดใช้เงินยืมหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2493/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบเพื่ออธิบายข้อความในเอกสารสัญญาเช่า ไม่ขัดต่อข้อห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
จำเลยเช่าตึกแถวพิพาทจากโจทก์ ท. ตัวแทนโจทก์ทำบันทึกเอกสารหมาย ล.1 มอบให้จำเลยมีข้อความว่าได้รับฝากเงินค่าต่อสัญญาหนึ่งหมื่นสองพันสองร้อยบาท ดังนี้ จำเลยนำสืบได้ว่า เหตุ ที่ต้องจ่ายเงินจำนวนนั้นให้โจทก์ก็เพราะโจทก์ต่อสัญญาเช่าให้อีก 3 ปี อันเป็นการนำสืบอธิบายข้อความในเอกสารให้ชัดเจน ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2284/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังเอกสารประกอบพยานหลักฐานในคดีอาญา การไม่คัดค้านเอกสาร และหน้าที่ส่งสำเนาเอกสาร
คดีอาญาชั้นขอคืนของกลางที่ศาลสั่งริบ โจทก์นำสืบเอกสารซึ่งโจทก์มิได้ถามพยานผู้ร้องผู้ลงชื่อในเอกสารนั้นไว้เมื่อผู้ร้องนำสืบพยานผู้นั้นก่อน ผู้ร้องไม่คัดค้านการนำสืบเอกสารนี้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89 ซึ่งใช้ในคดีอาญาด้วยโดยอนุโลม จึงรับฟังเอกสารนี้ได้ จำเลยไม่ขอสำเนาเอกสารโจทก์ก็ไม่ต้องทำสำเนาให้จำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 204/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์ข้อเท็จจริงในคดีอาญา: การพิจารณาโทษและเอกสารประกอบ
การวินิจฉัยว่าอุทธรณ์ข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา193 ทวิ หรือไม่ต้องพิจารณาความผิดแต่ละกระทง แม้ความผิดในกระทงนั้นมีความผิดหลายบทรวมอยู่ด้วย ถ้าบทหนักไม่ต้องห้าม ศาลก็ต้องถือว่าทุกบทไม่ต้องห้าม
เอกสารที่นำสืบเป็นพยาน ไม่มีบังคับว่าต้องนำผู้ทำเอกสารมาสืบประกอบ
เอกสารที่นำสืบเป็นพยาน ไม่มีบังคับว่าต้องนำผู้ทำเอกสารมาสืบประกอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1952/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบพยานและเอกสารหลังสืบพยานบุคคลเสร็จสิ้น: ผลกระทบต่อการรับฟังพยานหลักฐาน
โจทก์เป็นฝ่ายนำสืบก่อน จำเลยนำเอกสารหมาย ล.1 (หนังสือโจทก์ยกที่พิพาทให้จำเลย) มาอ้างภายหลังจากที่โจทก์ได้สืบพยานบุคคลเสร็จสิ้นไปแล้ว ในขณะที่โจทก์เบิกความจำเลยก็มิได้ถามค้านถึงเอกสารหมาย ล.1 และโจทก์ได้คัดค้านไว้แล้ว ฉะนั้น เอกสารหมาย ล.1 จึงรับฟังไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 149/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารในสำนวนคดีล้มละลายเป็นเอกสารในสำนวนคดีอื่นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90(1) ไม่ต้องส่งสำเนา
สำนวนการสอบสวนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีล้มละลายถือได้ว่าเป็นเอกสารในสำนวนคดีเรื่องอื่นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90 (1)
การที่ผู้ร้องอ้างเอกสารซึ่งเป็นคำให้การของผู้คัดค้านในสำนวนการสอบสวนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นั้นเข้าข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 90 (1) ซึ่งผู้ร้องไม่ต้องส่งสำเนาให้ผู้คัดค้านก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าสามวัน
การที่ผู้ร้องอ้างเอกสารซึ่งเป็นคำให้การของผู้คัดค้านในสำนวนการสอบสวนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นั้นเข้าข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 90 (1) ซึ่งผู้ร้องไม่ต้องส่งสำเนาให้ผู้คัดค้านก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าสามวัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 149/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารในสำนวนคดีล้มละลายเป็นเอกสารในสำนวนคดีอื่นตาม ป.วิ.พ. มาตรา 90(1) ไม่ต้องส่งสำเนาให้คู่ความ
สำนวนการสอบสวนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีล้มละลายถือได้ว่าเป็นเอกสารในสำนวนคดีเรื่องอื่นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา90(1)
การที่ผู้ร้องอ้างเอกสารซึ่งเป็นคำให้การของผู้คัดค้านในสำนวนการสอบสวนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นั้น เข้าข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90(1) ซึ่งผู้ร้องไม่ต้องส่งสำเนาให้ผู้คัดค้านก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าสามวัน
การที่ผู้ร้องอ้างเอกสารซึ่งเป็นคำให้การของผู้คัดค้านในสำนวนการสอบสวนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นั้น เข้าข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 90(1) ซึ่งผู้ร้องไม่ต้องส่งสำเนาให้ผู้คัดค้านก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าสามวัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1418/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแปลงหนี้ใหม่โดยเปลี่ยนตัวลูกหนี้ ศาลพิจารณาเจตนาแท้จริงจากการกระทำและเอกสารประกอบคดี
จำเลยที่ 1 เป็นลูกหนี้ค่ากระแสไฟฟ้าจำเลยที่ 2 ทำหนังสือตกลงรับชำระหนี้รายนี้และใช้หนี้นั้นไป 3 งวด และขอลดอัตราดอกเบี้ยเป็นการกระทำภายในวัตถุประสงค์ที่จำเลยที่ 2 จดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัดรับโอนกิจการของจำเลยที่ 1 มาทำ จำเลยที่ 2 ต้องรับผิดโดยการ แปลงหนี้ใหม่ ซึ่งศาลตีความในเอกสารประกอบพฤติการณ์แห่งคดีทั้งมวลโดยเพ่งเล็งเจตนาอันแท้จริงยิ่งกว่าตัวอักษร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1286/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขข้อบกพร่องของเอกสารมอบอำนาจหลังศาลสั่งงดสืบพยาน และการใช้เป็นหลักฐานได้
ใบมอบอำนาจให้ฟ้องคดี ได้เสียอากรโดยปิดแสตมป์ครบถ้วนตามกฎหมายแล้ว เพียงแต่มีข้อบกพร่อง ยังไม่ได้ขีดฆ่าอากรแสตมป์เท่านั้น แต่โจทก์ได้ยื่นคำร้องขอแก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าวขออนุญาตขีดฆ่าแล้ว แม้จะเป็นเวลาภายหลังที่ศาลมีคำสั่งให้งดสืบพยาน เพราะเหตุที่ศาลพบข้อบกพร่องดังกล่าวก็ตาม ก็เป็นการสมควรที่จะอนุญาตให้โจทก์ขีดฆ่าได้ เมื่ออนุญาตให้โจทก์ขีดฆ่าอากรแสตมป์แล้ว เอกสารนั้นก็ใช้เป็นพยานหลักฐานได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1209/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภาพถ่ายไม่ใช่เอกสารตามกฎหมายอาญา มาตรา 188 หากไม่แสดงความหมายเฉพาะเจาะจง
โจทก์ร่วมเป็นภริยาจำเลยได้ยื่นฟ้องจำเลยเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูและขอให้เปิดประตูบ้านที่โจทก์ร่วมอาศัยอยู่ การที่โจทก์ร่วมได้ให้ช่างภาพถ่ายภาพห้อง เครื่องใช้ตู้เสื้อผ้า และของอื่น ๆ ภายในบ้านนั้น เห็นได้ว่าภาพดังกล่าวเป็นภาพจำลองของห้อง เครื่องใช้ ฯลฯ เท่านั้นไม่ได้แสดงความหมายให้ปรากฏแต่อย่างใด ห้อง เครื่องใช้ฯลฯ มีสภาพเป็นอยู่อย่างไร เมื่อถ่ายเป็นภาพออกมาก็ปรากฏอยู่ในสภาพอย่างนั้น ไม่เป็นหลักฐานแห่งความหมายอย่างใด ๆ เลย ภาพถ่ายและฟิล์มของภาพถ่ายดังกล่าวจึงไม่เป็นเอกสารตามมาตรา 1(7) แห่งประมวลกฎหมายอาญาฉะนั้น การที่ร้านถ่ายภาพได้นำภาพถ่ายไปมอบให้โจทก์ร่วมที่บ้านซึ่งถ่ายภาพ จำเลยเป็นผู้รับไว้ และให้คนไปเอาฟิล์มภาพถ่ายจากร้านแล้วเอาไปเสียไม่ยอมคืนให้โจทก์ร่วมดังนี้ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188