คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
โทษจำคุก

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 507 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 601/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงโทษจากจำคุกเป็นปรับในคดีทำร้ายร่างกาย เนื่องจากพฤติการณ์ไม่ถึงขั้นทำร้ายร่างกายสาหัส
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยคนละ 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297,83. ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ปรับจำเลยคนละ 500 บาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391 ดังนี้ โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้
ปัญหาที่ว่า จำเลยสมคบกับผู้อื่นทำร้ายผู้เสียหายหรือไม่เป็นปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 600/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาโทษจำคุกตลอดชีวิตและการบวกโทษที่รอลงอาญา โดยบทบัญญัติกฎหมายที่แก้ไขเพิ่มเติมย่อมไม่มีผลย้อนหลัง
ฟ้องโจทก์ขอให้บวกโทษที่รอไว้เข้ากับโทษในคดีนี้เมื่อศาลพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยตลอดชีวิตแล้ว แม้ว่าในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกาได้มีประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ออกใช้บังคับซึ่งข้อ 1 ของประกาศดังกล่าวได้ยกเลิกความในมาตรา 51 ของประมวลกฎหมายอาญาให้ใช้ความใหม่แทน ซึ่งข้อความที่บัญญัติใหม่มีผลให้เพิ่มโทษหรือบวกโทษแก่จำเลยได้ก็ตาม แต่บทบัญญัติที่ประกาศใช้ในภายหลังนี้หาเป็นคุณแก่จำเลยไม่ จึงไม่อาจนำมาใช้บังคับได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 264/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาถูกจำกัดสิทธิเนื่องจากศาลอุทธรณ์พิพากษาเปลี่ยนโทษจำคุกเป็นส่งตัวไปฝึกอบรม ไม่เกิน 5 ปี และประเด็นข้อเท็จจริงเรื่องเจตนาฆ่า
คดีอาญาของศาลคดีเด็กและเยาวชนที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นส่งตัวจำเลยไปฝึกอบรมยังสถานพินิจและคุ้มครองเด็กกลาง มิได้ลงโทษจำคุกจำเลยเกิน 5 ปี จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
ฎีกาว่า การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำที่ไม่มีเจตนาฆ่าเพราะไม่ปรากฏมูลเหตุจูงใจว่าจำเลยยิงผู้ตายเพราะเหตุใดเป็นฎีกาปัญหาข้อเท็จจริง(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1236/2510)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 264/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับเนื่องจากเป็นปัญหาข้อเท็จจริง และโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
คดีอาญาของศาลคดีเด็กและเยาวชนที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นส่งตัวจำเลยไปฝึกอบรมยังสถานพินิจและคุ้มครองเด็กกลาง มิได้ลงโทษจำคุกจำเลยเกิน 5 ปีจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
ฎีกาว่า การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำที่ไม่มีเจตนาฆ่าเพราะไม่ปรากฏมูลเหตุจูงใจว่าจำเลยยิงผู้ตายเพราะเหตุใดเป็นฎีกาปัญหาข้อเท็จจริง(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1236/2510)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 263/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บันดาลโทสะจากการถูกข่มเหงน้ำใจ: การพิจารณาโทษจำคุกคดีฆ่าผู้อื่น
ผู้ตายเคยลวนลามภรรยาจำเลยมาแล้วครั้งหนึ่ง วันเกิดเหตุจำเลยกลับจากเก็บถั่วขึ้นไปห้างไร่ของจำเลย เห็นผู้ตายกำลังกอดรั้งตัวภรรยาจำเลยอยู่ จำเลยเกิดโทสะพอจำเลยร้องว่าผู้ตาย ผู้ตายก็ผละออกกระโดดหนีลงจากห้างไร่จำเลยคว้าได้ปืนยาวที่พิงไว้ข้างฝาลงบันไดตามไปยิงผู้ตายที่พื้นดิน ซึ่งขณะนั้นเดินออกไปห่างจากห้างไร่ 3 วากระสุนปืนถูกผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ด้วยความบันดาลโทสะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 245/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้าม: ศาลอุทธรณ์แก้โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี โจทก์ฎีกาขออย่ารอการลงโทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 3 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้รอการลงโทษไว้ 3 ปี แม้ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาแก้มาก ก็ถือได้ว่าศาลอุทธรณ์ยังคงลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 1 ปี ดังนั้น โจทก์ฎีกาขออย่าให้รอการลงโทษ
จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงในดุลพินิจการลงโทษของศาล
ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2217/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ลูกระเบิดทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ศาลพิจารณาความร้ายแรงของการกระทำและกำหนดโทษจำคุกตลอดชีวิต
จำเลยที่ 1 ใช้ลูกระเบิดมือขว้างจำเลยที่ 4 ซึ่งวิ่งหนีเข้าไปในกลุ่มคน สะเก็ดระเบิดทำให้คนตาย 7 คน และได้รับอันตรายแก่กายอีกหลายคน การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นลักษณะของการกระทำที่จะทำให้ตายโดยใช้อาวุธที่ร้ายแรง มีอำนาจแห่งการทำลายโดยกว้างขวาง แต่ไม่เป็นการกระทำโดยทารุณโหดร้าย
โจทก์ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2513โจทก์ยื่นฎีกาได้ภายในวันที่ 5 ธันวาคม 2513 แต่เมื่อวันที่ 5, 6 และ 7เป็นวันหยุดราชการ โจทก์จึงยื่นฎีกาในวันที่ 8 ธันวาคม 2513 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2217/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขว้างระเบิดมือทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับบาดเจ็บ ศาลฎีกาพิพากษาแก้โทษจำคุกตลอดชีวิต
จำเลยที่ 1 ใช้ลูกระเบิดมือขว้างจำเลยที่ 4 ซึ่งวิ่งหนีเข้าไปในกลุ่มคน สะเก็ดระเบิดทำให้คนตาย 7 คน และได้รับอันตรายแก่กายอีกหลายคน การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นลักษณะของการกระทำที่จะทำให้ตายโดยใช้อาวุธที่ร้ายแรง มีอำนาจแห่งการทำลายโดยกว้างขวาง แต่ไม่เป็นการกระทำโดยทารุณโหดร้าย
โจทก์ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2513โจทก์ยื่นฎีกาได้ภายในวันที่ 5 ธันวาคม 2513 แต่เมื่อวันที่ 5,6 และ 7 เป็นวันหยุดราชการ โจทก์จึงยื่นฎีกาในวันที่ 8 ธันวาคม 2513 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1796/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงโทษจำคุกโดยศาลอุทธรณ์ และข้อจำกัดในการฎีกาเรื่องดุลพินิจโทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 1 ปี และปรับ 1,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ เป็นลงโทษจำคุก 1 ปีสถานเดียว และไม่รอการลงโทษ คู่ความจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 จำเลยจึงฎีกาในเรื่องดุลพินิจขอให้วางโทษตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 124/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่ม ลด และกักกันโทษตามประมวลกฎหมายอาญา รวมถึงผลกระทบของพ.ร.บ.ล้างมลทิน
ศาลชั้นต้นกำหนดโทษจำคุกจำเลย และให้เพิ่มโทษตามมาตรา93 กึ่งหนึ่งกับลดโทษตามมาตรา 78 กึ่งหนึ่ง ดังนี้ส่วนของการเพิ่มเท่ากับส่วนของการลด ศาลมีอำนาจใช้ ดุลพินิจเห็นสมควรไม่เพิ่มไม่ลดโทษที่กำหนดไว้นั้นได้ ตามมาตรา 54 ประมวลกฎหมายอาญา จำเลยไม่อาจอ้างได้ว่าส่วนของการเพิ่มน้อยกว่าส่วนของการลด ถ้าหากเพิ่มโทษ เสียก่อนแล้วลดในภายหลัง
จำเลยพ้นจากการกักกันภายหลังวันที่ 13 พฤษภาคม 2500ซึ่งเป็นวันที่พระราชบัญญัติล้างมลทินฯ ใช้บังคับย่อมไม่ได้รับผลการล้างมลทินตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว จำเลยอาจถูกพิพากษาให้กักกันในฐานที่เป็นผู้เคยถูกศาลพิพากษาให้กักกันมาแล้วได้
of 51