คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
อุทธรณ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,483 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 101/2491

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการทุเลาการบังคับคดี: แยกตามขั้นตอนการพิจารณาคดี
การทุเลาการบังคับคดีตามมาตรา 231 กำหนดวิธีการให้อยู่ในอำนาจของศาลเป็นขั้นๆ ไป กล่าวคือถ้าเป็นการขอทุเลาการบังคับคดีในระหว่างอุทธรณ์ก็เป็นเรื่องอยู่ในอำนาจของศาลอุทธรณ์ ถ้าเป็นการขอทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกาจึงจะอยู่ในอำนาจศาลฎีกา
คดีอยู่ในระหว่างอุทธรณ์ เมื่อ ศาลอุทธรณ์สั่งในเรื่องทุเลาการบังคับเป็นอย่างไรแล้วจะฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาอีกไม่ได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2491)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 914/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีเลิกหุ้นส่วน-การตั้งผู้ชำระบัญชี: ศาลอุทธรณ์แก้ไขเล็กน้อยไม่อุทธรณ์ข้อเท็จจริงได้
ฟ้องขอให้แสดงว่าห้างหุ้นส่วนเลิกกันและขอให้ตั้งผู้ชำระบัญชีนั้น เป็นคดีขอให้ปลดเปลื้องทุกข์ กำหนดเป็นราคาเงินมิได้ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขศาลชั้นต้นเพียงเล็กน้อย จะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 เป็นหุ้นส่วนขอให้ชำระบัญชีจำเลยที่ 1 ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นหุ้นส่วน และว่าเป็นเจ้าของโรงมหรสพแต่ผู้เดียว เมื่อได้ความตามทางพิจารณาว่าจำเลยครอบครองโรงมหรสพใน ฐานะเป็นผู้จัดการของหุ้นส่วนก็เป็นการสมควรที่จะต้องกล่าวคำวินิจฉัยให้แจ้งชัดตามประเด็นข้อต่อสู้ของจำเลยเองว่า จำเลยครอบครองในฐานะอันใดการกล่าวคำวินิจฉัยเช่นนี้หาใช่เป็นการวินิจฉัยเกินประเด็นไม่
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่าห้างหุ้นส่วนสามัญเลิกกันและให้ตั้งผู้ชำระบัญชีศาลชั้นต้นพิพากษาว่าห้างหุ้นส่วนเลิกกันแล้ว ทรัพย์สินของหุ้นส่วนเป็นกรรมสิทธิรวม จึงให้บังคับคดีตาม ป.พ.พ. มาตรา 1364 โดยให้จัดการประมูลขายหรือขายทอดตลาดทรัพย์สิน แบ่งให้ผู้ถือหุ้นตามส่วนศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า ให้ตั้งผู้ชำระบัญชีตาม ป.พ.พ.มาตรา 1061-1062-1063 ดังนี้ ถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขศาลชั้นต้นแต่เพียงเล็กน้อย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 881/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมรับผิดต่อศาลแล้ว ไม่อาจอุทธรณ์คัดค้านภายหลังได้
คดีละเมิดอำนาจศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 32-33 เป็นคดีมีอัตราโทษไม่ถึงจำคุก 10 ปี เมื่อจำเลยรับสารภาพ ศาลย่อมฟังข้อเท็จจริงตามนั้นและพิพากษาได้ทีเดียวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176 ในกรณีเช่นนี้ ผู้ถูกลงโทษจะอุทธรณ์ฎีกาขอให้ศาลรื้อฟื้นข้อเท็จจริงของตนขึ้นพิจารณาใหม่ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 824/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบของกลางเป็นโทษทางอาญา ไม่อุทธรณ์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
เมื่อศาลชั้นต้นปรับจำเลย 100 บาท กับให้ริบของกลางด้วย จำเลยอุทธรณ์ขออย่าริบของกลาง ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ฉะเพาะให้คืนทรัพย์ของกลาง ดังนี้ โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงในเรื่องริบของกลางไม่ได้ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญา ม. 220

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 787/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องระบุปัญหาข้อกฎหมายชัดเจน และต้องอุทธรณ์ตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด มิฉะนั้นขาดสิทธิ
ปัญหาข้อกฎหมายที่ยกขึ้นฎีกานั้น ต้องกล่าวไว้โดยชัดแจ้งในฎีกา มิฉะนั้นศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.
เมื่อศาลได้มีคำสั่งชี้ขาดเบื้องต้นตามมาตรา 24 แล้ว หากคำสั่งนั้นทำให้คดีเสร็จไปทั้งเรื่อง คู่ความย่อมอุทธรณ์ได้ทันที แต่ถ้าไม่ทำให้คดีเสร็จไปทั้งเรื่อง ก็อุทธรณ์ได้ภายใน 1 เดือนนับแต่มีคำสั่ง ถ้าจะอุทธรณ์เมื่อศาลพิพากษาคดีแล้ว ก็จะต้องโต้แย้งให้ศาลจดรายงานไว้ มิฉะนั้นคู่ความฝ่ายนั้นย่อมหมดสิทธิในการอุทธรณ์,ฎีกา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 787/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องระบุประเด็นชัดเจน & คำสั่งชี้ขาดเบื้องต้นต้องอุทธรณ์ตามกฎหมายกำหนด มิฉะนั้นหมดสิทธิ
ปัญหาข้อกฎหมายที่ยกขึ้นฎีกานั้น ต้องกล่าวไว้โดยชัดแจ้งในฎีกามิฉะนั้นศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
เมื่อศาลได้มีคำสั่งชี้ขาดเบื้องต้นตามมาตรา 24 แล้ว หากคำสั่งนั้นทำให้คดีเสร็จไปทั้งเรื่อง คู่ความย่อมอุทธรณ์ได้ทันที แต่ถ้าไม่ทำให้คดีเสร็จไปทั้งเรื่องก็อุทธรณ์ได้ภายใน 1 เดือนนับแต่มีคำสั่ง ถ้าจะอุทธรณ์เมื่อศาลพิพากษาคดีแล้ว ก็จะต้องโต้แย้งให้ศาลจดรายงานไว้ มิฉะนั้นคู่ความฝ่ายนั้นย่อมหมดสิทธิในการอุทธรณ์ฎีกา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 679/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทิ้งฟ้องอุทธรณ์เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล และการถือว่าทราบคำสั่งเมื่อจดไว้ในคำคู่ความ
กรณีที่ผู้ยื่นคำคู่ความจดไว้ในคำคู่ความว่าจะรอฟังคำสั่งไม่รอฟัง ให้ถือว่าได้ทราบคำสั่งนั้น แม้ผู้ยื่นคำร้องมิได้ฟังคำสั่งก็ถือว่าได้ทราบคำสั่งแล้ว
เรื่องการทิ้งฟ้องตาม ม.174 ย่อมนำมาใช้บังคับแก่การทิ้งฟ้องอุทธรณ์ได้ โดยอนุโลมผู้อุทธรณ์ไม่มานำส่งสำเนาอุทธรณ์ให้แก่อีกฝ่าย 1 ภายในกำหนด ที่ศาลสั่งย่อมเป็นการทิ้งฟ้องศาลอุทธรณ์ย่อมสั่งจำหน่ายคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 679/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทิ้งฟ้องอุทธรณ์: ผลของการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลเรื่องการส่งสำเนาอุทธรณ์
กรณีที่ผู้ยื่นคำคู่ความจดไว้ในคำคู่ความว่าจะรอฟังคำสั่ง ถ้าไม่รอฟัง ให้ถือว่าได้ทราบคำสั่งนั้น แม้ผู้ยื่นคำร้องมิได้ฟังคำสั่งก็ถือว่าได้ทราบคำสั่งแล้ว
เรื่องการทิ้งฟ้องตาม มาตรา 174 ย่อมนำมาใช้บังคับแก่การทิ้งฟ้องอุทธรณ์ได้ โดยอนุโลม
ผู้อุทธรณ์ไม่มานำส่งสำเนาอุทธรณ์ให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งภายในกำหนดที่ศาลสั่งย่อมเป็นการทิ้งฟ้อง ศาลอุทธรณ์ย่อมสั่งจำหน่ายคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 542/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลอุทธรณ์จำกัดเฉพาะข้อกฎหมายเมื่ออุทธรณ์เฉพาะข้อกฎหมาย ห้ามวินิจฉัยข้อเท็จจริงใหม่
คดีที่โจทก์อุทธรณ์ฉะเพาะข้อกฎหมาย ศาลอุทธรณ์จะต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยชี้ขาดมา โดยไม่มีอำนาจวินิจฉัยข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 542/2490

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลอุทธรณ์จำกัดเฉพาะข้อกฎหมายเมื่อโจทก์ไม่อุทธรณ์ข้อเท็จจริงเดิม
คดีที่โจทก์อุทธรณ์เฉพาะข้อกฎหมาย ศาลอุทธรณ์จะต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยชี้ขาดมา โดยไม่มีอำนาจวินิจฉัยข้อเท็จจริง
of 349