คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เจตนา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4,077 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1560/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทางภาระจำยอมเกิดขึ้นได้จากการใช้ทางต่อเนื่องของผู้อื่น แม้เจ้าของเดิมมิได้ตั้งเจตนาให้เป็นทางภาระจำยอม
ทางพิพาทเดิมเป็นของนายฮกโป๊หรือโป๊ะแต่ผู้เดียว แม้ในชั้นต้นเจ้าของเดิมจะมีเจตนาเพียงเพื่อให้ผู้ซึ่งอยู่ในที่ดินของตนได้รับความสดวกก็ตาม แต่เมื่อต่อมาที่ดินดังกล่าวได้กลายสภาพเป็นหลายเจ้าของ โจทก์และจำเลยเป็นเจ้าของที่ดินที่กลายสภาพมานั้นคนละแปลง และผู้เป็นเจ้าของที่ดินแปลงของจำเลยมาก่อนจำเลยก็ใช้ขอนขวางทางหรือถนนเพียงเพื่อห้ามไม่ให้ใช้ยวดยานผ่านเพราะจะทำให้ท่อระบายน้ำและถนนเสียหาย แต่ไม่ห้ามผู้คนที่ใช้ทางหรือถนนสายนี้สัญจรไปมา ดังนี้เมื่อโจทก์และผู้ที่อยู่ริมทางหรือถนนพิพาทใช้ทางหรือถนนพิพาทมาหลายสิบปีแล้ว ทางหรือถนนพิพาทจึงตกเป็นทางภาระจำยอมในการที่จะใช้เป็นทางเดิน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1560/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้มาซึ่งทางภาระจำยอมโดยการใช้ต่อเนื่อง และเจตนาเดิมของเจ้าของที่ดินไม่มีผล
ทางพิพาทเดิมเป็นของนายฮกโป๊หรือโป๊ะแต่ผู้เดียว แม้ในชั้นต้นเจ้าของเดิมจะมีเจตนาเพียงเพื่อให้ผู้ซึ่งอยู่ในที่ดินของตนได้รับความสะดวกก็ตาม แต่เมื่อต่อมาที่ดินดังกล่าวได้กลายสภาพเป็นหลายเจ้าของ โจทก์และจำเลยเป็นเจ้าของที่ดินที่กลายสภาพมานั้นคนละแปลง และผู้เป็นเจ้าของที่ดินแปลงของจำเลยมาก่อนจำเลยก็ใช้ขอนขวางทางหรือถนนเพียงเพื่อห้ามไม่ให้ใช้ยวดยานผ่านเพราะจะทำให้ท่อระบายน้ำและถนนเสียหาย แต่ไม่ห้ามผู้คนที่ใช้ทางหรือถนนสายนี้สัญจรไปมา ดังนี้เมื่อโจทก์และผู้ที่อยู่ริมทางหรือถนนพิพาทใช้ทางหรือถนนพิพาทมาหลายสิบปีแล้ว ทางหรือถนนพิพาทจึงตกเป็นทางภาระจำยอมในการที่จะใช้เป็นทางเดิน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1556/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร่วมกันสั่งซื้อไม้: พฤติการณ์แสดงเจตนาของผู้เยาว์ผ่านบิดาเป็นหลักฐานได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ที่ 2 สั่งซื้อไม้จากโจทก์ไปทำตู้ เตียง ซึ่งจำเลยรับเหมามาจากกองทัพอากาศ จำเลยที่ 2 รับว่าสั่งไม้จากโจทก์แต่ผู้เดียว จำเลยที่ 1 ไม่เกี่ยว จำเลยที่ 2 รับเหมาเด็ดขาดไปจากจำเลยที่ 1
เมื่อได้ความว่าจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของร้านไทยงามอาภรณ์ จำเลยที่ 1 เป็นผู้เยาว์บิดาจึงเป็นผู้ดำเนินกิจการ ประกอบกับพฤติการณ์ที่จำเลยที่ 2 ว่าจะไปเอาเงินที่ร้านไทยงามมาชำระโจทก์ให้โจทก์ทำบิลให้แล้ววันต่อมาจำเลยที่ 1 ที่ 2 กับบิดาจำเลยที่ 1 และเจ้าของร้านยูเนียนก็ได้พากันไปหาโจทก์ บิดาจำเลยที่ 1 เอาเงินให้ 2,000 บาทวางมัดจำค่าไม้ และบิดาจำเลยที่ 1 ยังบอกโจทก์ว่ามีร้านไทยงามอาภรณ์และสั่งให้โจทก์ส่งไม้ให้เรื่อย ๆ เงินก็จะชำระให้เรื่อย ๆ ดังนี้เป็นพฤติการณ์ที่แสดงว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้สั่งซื้อไม้ของโจทก์ร่วมกับจำเลยที่ 2
และพฤติการณ์ที่โจทก์สืบดังกล่าวข้างต้นมิใช่พฤติการณ์ที่บิดาจำเลยที่ 1 ได้กระทำไปแต่ฝ่ายเดียว แต่เป็นพฤติการณ์ที่จำเลยที่ 1 ได้แสดงออกโดยชัดเจ้งว่าจำเลยที่ 1 ได้ให้บิดาจัดการเรื่องนี้แทนตน พฤติการณ์ทั้งนี้จึงเป็นข้อความที่จะพึงแสดงว่าจำเลยที่ 1 ได้ร่วมกับจำเลยที่ 2 สั่งซื้อไม้ของโจทก์โดยบิดาจำเลยที่ 1 เป็นผู้เกี่ยวข้องเอาธุระจัดการให้จำเลยที่ 1 จึงเป็นข้อความที่เกี่ยวกับประเด็นตามคำฟ้องของโจทก์ หาเป็นความที่นอกประเด็นอย่างไรไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1556/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร่วมกันสั่งซื้อไม้: พฤติการณ์แสดงเจตนาของผู้เยาว์ผ่านบิดาถือเป็นหลักฐานได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ที่ 2 สั่งซื้อไม้จากโจทก์ไปทำตู้ เตียง ซึ่งจำเลยรับเหมามาจากกองทัพอากาศ จำเลยที่ 2 รับว่าสั่งไม้จากโจทก์แต่ผู้เดียว จำเลยที่ 1 ไม่เกี่ยว จำเลยที่ 2 รับเหมาเด็ดขาดไปจากจำเลยที่ 1
เมื่อได้ความว่าจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของร้านไทยงามอาภรณ์ จำเลยที่ 1 เป็นผู้เยาว์บิดาจึงเป็นผู้ดำเนินกิจการ ประกอบกับพฤติการณ์ที่จำเลยที่2 ว่าจะไปเอาเงินที่ร้านไทยงามมาชำระโจทก์ให้โจทก์ทำบิลให้แล้ว วันต่อมาจำเลยที่ 1 ที่ 2 กับบิดาจำเลยที่ 1 และเจ้าของร้านยูเนียนก็ได้พากันไปหาโจทก์ บิดาจำเลยที่ 1 เอาเงินให้ 2,000 บาทวางมัดจำค่าไม้ และบิดาจำเลยที่ 1 ยังบอกโจทก์ว่ามีร้ายไทยงามอาภรณ์และสั่งให้โจทก์ส่งไม้ให้เรื่อยๆ เงินก็จะชำระให้เรื่อยๆ ดังนี้เป็นพฤติการณ์ที่แสดงว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้สั่งซื้อไม้ของโจทก์ร่วมกับจำเลยที่ 2 และพฤติการณ์ที่โจทก์สืบดังกล่าวข้างต้นมิใช่พฤติการณ์ที่บิดาจำเลยที่ 1 ได้กระทำไปแต่ฝ่ายเดียว แต่เป็นพฤติการณ์ที่จำเลยที่ 1 ได้แสดงออกโดยชัดแจ้งว่าจำเลยที่ 1 ได้ให้บิดาจัดการเรื่องนี้แทนตน พฤติการณ์ทั้งนี้จึงเป็นข้อความที่จะพึงแสดงว่าจำเลยที่ 1 ได้ร่วมกับจำเลยที่ 2 สั่งซื้อไม้ของโจทก์โดยบิดาจำเลยที่ 1 เป็นผู้เกี่ยวข้องเอาธุระจัดการให้จำเลยที่ 1 จึงเป็นข้อความที่เกี่ยวกับประเด็นตามคำฟ้องของโจทก์ หาเป็นความที่นอกประเด็นอย่างไรไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1544/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทำสัญญาค้ำประกันยังไม่สมบูรณ์ สัญญาค้ำประกันจึงไม่เกิดขึ้น
จำเลยที่ 1 กู้เงินโจทก์ จำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกัน เพื่อให้มั่นคงยิ่งขึ้นโจทก์ให้จำเลยที่ 3 ค้ำประกันหนี้รายนี้ด้วย โดยโจทก์จำเลยที่ 3 มุ่งเอาสัญญาขายฝากบ้านเรือนของจำเลยที่ 3 เป็นสัญญาค้ำประกันหนี้รายนี้ จำเลยที่ 3 จึงทำหนังสือมอบอำนาจให้จำเลยที่ 2 เป็นผู้จะไปทำสัญญาขายฝากอีกทีหนึ่ง และได้มอบหนังสือมอบอำนาจนี้กับเอกสารสำหรับบ้านเรือนของจำเลยที่ 3 ที่จะขายฝากไว้กับโจทก์ เพียงเท่านี้หาใช่สัญญาค้ำประกันที่จะบังคับจำเลยที่ 3 ตามที่โจทก์ฎีกาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1544/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทำสัญญาค้ำประกันยังไม่สมบูรณ์ การมอบอำนาจและเอกสารยังไม่ถือเป็นสัญญาค้ำประกัน
จำเลยที่ 1 กู้เงินโจทก์ จำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกัน เพื่อให้มั่นคงยิ่งขึ้นโจทก์ให้จำเลยที่ 3 ค้ำประกันหนี้รายนี้ด้วย โดยโจทก์จำเลยที่ 3 มุ่งเอาสัญญาขายฝากบ้านเรือนของจำเลยที่ 3 เป็นสัญญาค้ำประกันหนี้รายนี้ จำเลยที่ 3 จึงทำหนังสือมอบอำนาจให้จำเลยที่ 2 เป็นผู้จะไปทำสัญญาขายฝากอีกทีหนึ่ง และได้มอบหนังสือมอบอำนาจนี้กับเอกสารสำหรับบ้านเรือนของจำเลยที่ 3 ที่จะขายฝากไว้กับโจทก์ เพียงเท่านี้หาใช่สัญญาค้ำประกันที่จะบังคับจำเลยที่ 3 ตามที่โจทก์ฎีกาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1384/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานสมรู้ร่วมคิดฆ่าคน: ผู้ใต้บังคับบัญชาไม่มีเจตนาช่วยเหลือ
จำเลยที่ 2 เป็นคนงานโรงบ่มใบยา อยู่ในบังคับของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนายสถานีโรงบ่มเมื่อจำเลยที่ 1 ตะโกนให้จำเลยที่ 2 เอาปืนมาให้เร็วจำเลยที่ 2 ก็นำปืนลูกกรดมาให้ที่บันไดหลังบ้านพักของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 1 ได้ใช้ปืนนั้นยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ จำเลยที่ 2 ยังไม่ควรมีความผิดฐานสมรู้ด้วยจำเลยที่ 1 เพราะไม่ได้ความแน่ชัดว่าจำเลยที่ 2 ได้รู้เห็นเป็นใจช่วยเหลืออุปการะในการกระทำผิดของจำเลยที่ 1 ที่จำเลยที่ 2 ได้กระทำไปนั้นก็โดยเป็นผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของจำเลยที่ 1 และไม่ทราบว่าจำเลยที่ 1 จะเรียกเอาปืนไปเพื่อประโยชน์อันใด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1384/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางอาญาของลูกจ้างผู้ถูกสั่งให้ส่งมอบอาวุธปืน โดยไม่รู้ถึงเจตนาการใช้ผิดกฎหมาย
จำเลยที่ 2 เป็นคนงานโรงบ่มใบยา อยู่ในบังคับบัญชาของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนายสถานีโรงบ่ม เมื่อจำเลยที่ 1 ตะโกนให้จำเลยที่ 2 เอาปืนมาให้เร็ว จำเลยที่ 2 ก็นำปืนลูกกรดมาให้ที่บันไดหลังบ้านพักของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 1 ได้ใช้ปืนนั้นยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ จำเลยที่ 2 ยังไม่ควรมีความผิดฐานสมรู้ด้วยจำเลยที่ 1 เพราะไม่ได้ความแน่ชัดว่าจำเลยที่ 2 ได้รู้เห็นเป็นใจช่วยเหลืออุปการะในการกระทำผิดของจำเลยที่ 1 ที่จำเลยที่ 2 ได้กระทำไปนั้นก็โดยเป็นผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของจำเลยที่ 1 และไม่ทราบว่าจำเลยที่ 1 จะเรียกเอาปืนไปเพื่อประโยชน์อันใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1381/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสมคบทำร้ายร่างกาย: การกระทำเกินเลยเจตนาเดิมของกลุ่ม
จำเลยสามคนไล่ทำร้ายบุคคลสองคน บุคคลทั้งสองนั้นวิ่งหนีไปที่เรือนผู้เสียหาย ผู้เสียหายช่วยป้องกันคนทั้งสอง โดยสอดมือออกมาจะขัดประตูเรือน จำเลยคนหนึ่งใช้ดาบฟันมือผู้เสียหายจนนิ้วขาด ดั่งนี้ เป็นเรื่องนอกความมุ่งหมายหรือเจตนาของจำเลยอีก 2 คน คดีจึงไม่พอฟังว่าจำเลยอีก 2 คนนั้นสมคบในการทำร้ายร่างกายผู้เสียหายด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1326/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมีสุราต่างประเทศเกิน 1 ลิตรโดยมิได้ปิดแสตมป์: การพิสูจน์เจตนาและปริมาณ
จำเลยเก็บสุราต่างประเทศไว้คราวละเล็กละน้อยจนได้ 40 ขวด รวมปริมาณ 1,862 ลิตร แต่ละขวดมีปริมาณไม่เกิน 1 ลิตร โดยมิได้ปิดแสตมป์สุรา เมื่อไม่ปรากฎว่า จำเลยเป็นผู้นำสุราของกลางทั้งหมดเข้ามาในราชอาณาจักรคราวเดียวพร้อมกัน การกระทำของจำเลยก็ยังไม่เป็นผิด และไม่เรียกว่าจำเลยกระทำการโดยไม่สุจริต ตามม.34 พ.ร.บ.สุรา พ.ศ.2493
of 408