พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4,077 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2142/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย ศาลพิจารณาบาดแผลและการกระทำโดยเจตนา
ใช้มือชกหนึ่งทีถูกที่จมูกเลือดกำเดาไหล ไม่ปรากฏว่าเลือดกำเดาออกเพราะเหตุใดและชกแรงแค่ไหน ย่อมมีผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกายไม่ถึงบาดเจ็บเท่านั้น
สำนวนการสอบสวนที่ศาลเรียกมาเองนั้นศาลจะยกขึ้นให้เป็นผลร้ายแก่จำเลยไม่ได้
สำนวนการสอบสวนที่ศาลเรียกมาเองนั้นศาลจะยกขึ้นให้เป็นผลร้ายแก่จำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2135/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานลักทรัพย์หรือยักยอกทรัพย์: การยึดถือครอบครองทรัพย์ที่หล่นหาย และเจตนาเอาทรัพย์ไปเป็นของตนเอง
เจ้าทรัพย์ลืมกระเป๋าทิ้งไว้ที่ข้างเกียร์บนรถยนต์ที่จำเลยเป็นผู้ขับขี่มีบุคคลอื่นมาพบและเก็บได้ถามว่ากระเป๋าของใคร ผู้โดยสารคนหนึ่งว่าเป็นของเขา ผู้เก็บได้จึงส่งกระเป๋าเงินให้จำเลยไปให้ผู้โดยสารคนนั้นเพราะมาด้วยกัน แต่จำเลยกลับเอาไว้เสียเองเช่นนี้การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานยักยอกมิใช่ลักทรัพย์ เพราะเมื่อเจ้าทรัพย์ลืมกระเป๋าเงินทิ้งไว้กรณีเป็นเก็บของตก ความยึดถือครอบครองทรัพย์ย่อมตกอยู่แก่คนกระเป๋ารถๆ มอบทรัพย์ให้อยู่ในความยึดถือครอบครองของจำเลยอีกตอนหนึ่งโดยจำเลยไม่ทราบว่าเป็นของใคร เมื่อจำเลยเอาไว้เป็นประโยชน์ส่วนตัวเสียจึงมีความผิดฐานยักยอกทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2041/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานลักทรัพย์ของสามีภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ต้องพิจารณาเจตนาและหลักเกณฑ์ตามกฎหมาย
คำว่า "สามีภรรยา" ตาม ก.ม. อาญา ม.54 ก.ม.มิได้บัญญัติไว้ว่าพฤติการณ์เช่นไร ก.ม.อาญายอมรับนับถือว่าเป็นสามีภรรยากันฉนั้นโดยปกติต้องอาศัย ป.พ.พ. ที่ใช้อยู่ในขณะทำผิดเป็นหลักกล่าวคือต้องได้มีการจดทะเบียนสมรสแล้ว
ชายหญิงที่ได้เสียกันโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรสแล้วภายหลังฝ่ายหนึ่งเอาทรัพย์ของอีกฝ่ายหนึ่งไป ดังนี้ต้องอาศัยเจตนาเป็นหลักว่ามีเถยจิตลักทรัพย์หรือไม่
เมื่อจำเลยไม่ใช่สามีตาม ม.54 และในเรื่องเจตนานี้ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงในคดีนี้ว่าจำเลยเจตนาลักทรัพย์แล้ว ฎีกาของจำเลยในเรื่องว่าไม่มีความผิดตาม ม.54 ในข้อนี้จึงเป็นฎีกาคัดค้านข้อเท็จจริงต้องห้ามตาม ป.วิ.อาญา ม.220.
ชายหญิงที่ได้เสียกันโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรสแล้วภายหลังฝ่ายหนึ่งเอาทรัพย์ของอีกฝ่ายหนึ่งไป ดังนี้ต้องอาศัยเจตนาเป็นหลักว่ามีเถยจิตลักทรัพย์หรือไม่
เมื่อจำเลยไม่ใช่สามีตาม ม.54 และในเรื่องเจตนานี้ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงในคดีนี้ว่าจำเลยเจตนาลักทรัพย์แล้ว ฎีกาของจำเลยในเรื่องว่าไม่มีความผิดตาม ม.54 ในข้อนี้จึงเป็นฎีกาคัดค้านข้อเท็จจริงต้องห้ามตาม ป.วิ.อาญา ม.220.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2038/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองขอบหนองและการเจตนายึดถือเพื่อตน: สิทธิเจ้าของหนองและการทำนาของผู้อื่น
พฤติการณ์อย่างไรเรียกว่าครอบครอบและอย่างไรเรียกว่าเจตนายึดถือทรัพย์สินเพื่อตน
เป็นเจ้าของหนองน้ำใช้สิทธิทำการจับปลาแต่ในฤดูจับปลาเพียง 3 เดือนในปีหนึ่ง ส่วนนอกฤดูจับปลาปล่อยผู้อื่นเข้าทำนาตามขอบหนองทุก ๆ ปี ดังนี้ถือว่าเจ้าของหนองใช้สิทธิครอบครอบขอบหนองนั้น ไม่จำต้องคัดค้านห้ามปรามผู้เข้ามาทำนาและจะถือว่าเจ้าของหนองทอดทิ้งหนองไม่ได้.
เป็นเจ้าของหนองน้ำใช้สิทธิทำการจับปลาแต่ในฤดูจับปลาเพียง 3 เดือนในปีหนึ่ง ส่วนนอกฤดูจับปลาปล่อยผู้อื่นเข้าทำนาตามขอบหนองทุก ๆ ปี ดังนี้ถือว่าเจ้าของหนองใช้สิทธิครอบครอบขอบหนองนั้น ไม่จำต้องคัดค้านห้ามปรามผู้เข้ามาทำนาและจะถือว่าเจ้าของหนองทอดทิ้งหนองไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2038/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินขอบหนองและการใช้สิทธิประโยชน์โดยเจ้าของ ไม่ถือเป็นการทอดทิ้ง หรือเจตนายึดถือ
พฤติการณ์อย่างไรเรียกว่าครอบครองและอย่างไรเรียกว่าเจตนายึดถือทรัพย์สินเพื่อตน
เป็นเจ้าของหนองน้ำใช้สิทธิทำการจับปลาแต่ในฤดูจับปลาเพียง 3 เดือนในปีหนึ่ง ส่วนนอกฤดูจับปลาปล่อยผู้อื่นเข้าทำนาตามขอบหนองทุกๆ ปี ดังนี้ถือว่าเจ้าของหนองใช้สิทธิครอบครองขอบหนองนั้น ไม่จำต้องคัดค้านห้ามปรามผู้เข้ามาทำนา และจะถือว่าเจ้าของหนองทอดทิ้งหนองไม่ได้
เป็นเจ้าของหนองน้ำใช้สิทธิทำการจับปลาแต่ในฤดูจับปลาเพียง 3 เดือนในปีหนึ่ง ส่วนนอกฤดูจับปลาปล่อยผู้อื่นเข้าทำนาตามขอบหนองทุกๆ ปี ดังนี้ถือว่าเจ้าของหนองใช้สิทธิครอบครองขอบหนองนั้น ไม่จำต้องคัดค้านห้ามปรามผู้เข้ามาทำนา และจะถือว่าเจ้าของหนองทอดทิ้งหนองไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1972/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทำอนาจาร แม้เพียงสัมผัสด้วยเจตนา ก็เป็นความผิดฐานอนาจาร
จำเลยล่อเด็กหญิงเข้ามาหาแล้วคว้าตัวกอดรัดอุ้มกอดไว้ที่อกแล้วพาอุ้มเข้าป่าโดยจำเลยมีเจตนาทำอนาจารแก่หญิง แม้แต่เพียงการกอดรัดสัมผัสด้วยเจตนาอนาจารก็เป็นอนาจาร การกระทำซึ่งประกอบด้วยกายและใจพร้อมโดยประสงค์มุ่งตรงต่อสิ่งที่ ก.ม. ห้ามก็ย่อมเป็นความผิด รูปเรื่องของคดีนี้ควรใช้บทมาตรา 276 แต่คดีนี้โจทก์มิได้อ้าง ม.276 หากแต่อ้าง ม.245 จำเลยจึงมีความผิดตาม ม.245 ที่โจทก์ขอ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1972/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทำอนาจาร แม้เพียงกอดรัดอุ้มเด็กก็เป็นความผิด แม้จะมิได้ใช้กำลังฉุดคร่า
จำเลยล่อเด็กหญิงเข้ามาหาแล้วคว้าตัวกอดรัดอุ้มกอดไว้ที่อกแล้วพาอุ้มเข้าป่าโดยจำเลยมีเจตนาทำอนาจารแก่หญิง แม้แต่เพียงการกอดรัดสัมผัสด้วยเจตนาอนาจารก็เป็นอนาจาร การกระทำซึ่งประกอบด้วยกายและใจพร้อมโดยประสงค์มุ่งตรงต่อสิ่งที่ กฎหมายห้ามก็ย่อมเป็นความผิด รูปเรื่องของคดีนี้ควรใช้บทมาตรา 276 แต่คดีนี้โจทก์มิได้อ้าง มาตรา 276 หากแต่อ้าง มาตรา 245 จำเลยจึงมีความผิดตาม มาตรา 245 ที่โจทก์ขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1861/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฆ่าโดยเจตนาด้วยความดุร้าย การลงโทษตาม ม.250(4) และการพิจารณาโทษที่เหมาะสม
ใช้มีดดาบฟันผู้ตายขณะกำลังนั่งคุยอยู่ ผู้ตายไม่มีอาวุธหรือแสดงว่าจะต่อสู้ ฟันถูกที่ศีรษะ 1 ทีสมองไหล และที่ขา 1 ที กระดูกขาดล้มลงแล้วจำเลยยังฟันซ้ำอีกรวมทั้งสิ้น 11 แผลอยู่ได้ 10 วันเศษจึงตายการกระทำของจำเลยเป็นการฆ่าคนตายโดยดุร้ายตาม ม.250 (4).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1861/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยเจตนาและดุร้าย: การลงโทษฐานฆ่าโดยไม่มีเหตุอันควรและทำร้ายซ้ำ
ใช้มีดดาบฟันผู้ตายขณะกำลังนั่งคุยอยู่ ผู้ตายไม่มีอาวุธหรือแสดงว่าจะต่อสู้ ฟันถูกที่ศีรษะ 1 ทีสมองไหล และที่ขา 1 ที กระดูกขาด ล้มลงแล้วจำเลยยังฟันซ้ำอีกรวมทั้งสิ้น 11 แผลอยู่ได้ 10 วันเศษจึงตาย การกระทำของจำเลยเป็นการฆ่าคนตายโดยดุร้ายตามมาตรา 250(4)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1851/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าโดยพยาบาทมาดหมาย แม้สำคัญตัวผิด ศาลลงโทษฐานฆ่าโดยเจตนา
จำเลยมีสาเหตุอาฆาตมาก่อนแล้วจึงได้มาลอบยิง ยิงนัดแรกถูกผู้เสียหายแต่ไม่ถึงแก่ความตาย อีก 10 นาทีจำเลยจึงได้หวนกลับมายิงอีก กระสุนปืนถูกผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยจำเลยสำคัญตัวผิด เช่นนี้ถือว่าการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำโดยพยายามด้วยความพยาบาทมาดหมาย.