คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
กู้ยืมเงิน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 347 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 200/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกู้ยืมเงินและจำนำ: การบังคับจำนำแล้วฟ้องชำระหนี้เงินกู้ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ
เอาเงินเขาไปแล้วมอบทองรูปพรรณให้ไว้เป็นประกันนั้น แม้การมอบทองรูปพรรม์ให้ไว้จะเป็นจำนำ ซึ่งอาจบังคับ
กันได้โดยไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือก็ดี แต่ถ้าได้บังคับจำนำกันแล้ว ได้เงินไม่พอชำระต้นเงินและดอกเบี้ย จึง
ต้องมาฟ้องร้องขอให้บังคับชำระเงินที่ยังขาดอยู่แล้ว ก็เท่ากับฟ้องร้องให้ชำระหนี้เงินที่กู้ยืมไปนั่นเอง ถ้ามิได้มีหลัก
ฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ยืมเป็นสำคัญแล้ว ก็จะฟ้องร้องให้บังคับคดีไม่ได้./
(ประชุมใหญ่)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 200/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกู้ยืมเงินและจำนำ: หลักฐานเป็นหนังสือสำคัญเมื่อมูลหนี้เกิน 50 บาท
เอาเงินเขาไปแล้วมอบทองรูปพรรณให้ไว้เป็นประกันนั้นแม้การมอบทองรูปพรรณให้ไว้จะเป็นจำนำ ซึ่งอาจบังคับกันได้โดยไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือก็ดีแต่ถ้าได้บังคับจำนำกันแล้ว ได้เงินไม่พอชำระต้นเงินและดอกเบี้ยจึงต้องมาฟ้องร้องขอให้บังคับชำระเงินที่ยังขาดอยู่แล้วก็เท่ากับฟ้องร้องให้ชำระหนี้เงินที่กู้ยืมไปนั่นเองถ้ามิได้มีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ยืมเป็นสำคัญแล้วก็จะฟ้องร้องให้บังคับคดีไม่ได้(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 3/2496)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1816/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสละสิทธิในที่ดินจากการกู้ยืมเงิน: ประเด็นการยกนาพิพาทให้เป็นกรรมสิทธิ์และการไม่ขอไถ่คืน
โจทก์ฟ้องขอชำระหนี้ยึดถือทำกินต่างดอกเบี้ยเงินกู้คืน จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ขึ้นเงินกู้แล้ว ทำสัญญายกนาพิพาทให้เป็นกรรมสิทธิของจำเลยแล้วไม่ขอไถ่ ดังนี้ประเด็นคงมีว่าโจทก์ให้จำเลยยึดถือนาพิพาทไว้แทนเป็นประกันเงินกู้ดังฟ้อง หรือว่าโจทก์ได้สละสิทธินาพิพาทให้จำเลยแล้วตามจำเลยต่อสู้เท่านั้น เมื่อคดีได้ความตามที่จำเลยต่อสู้ ศาลก็ต้องพิพากษายกฟ้อง โดยถือว่าโจทก์นำสืบไม่ได้ตามประเด็นข้ออ้างที่ถือว่าเป็นสิทธิเรียกนาพิพาทคืนจากจำเลย ส่วนนาพิพาทจะเป็นของบิดาโจทก์หรือของใคร ไม่เป็นประเด็นสำคัญในคดีนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 100/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกู้ยืมเงิน: สัญญาที่ระบุการรับเงินแล้ว ผู้กู้ต้องพิสูจน์การไม่ได้รับเงิน
โจทก์ฟ้องจำเลยให้ชำระเงินกู้ตามสัญญากู้ จำเลยให้การรับว่าได้ลงชื่อเป็นผู้กู้ในสัญญาจริง แต่ไม่ได้รับเงินไปสัญญากู้ไม่สมบุรณ์ตามกฎหมายดังนี้ เมื่อในสัญญากู้ข้อ 1 มีความชัดว่าจำเลยได้รับเงินไปครบถ้วนแล้ว ก็ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าจำเลยได้รับเงินไปตามสัญญาแล้ว ฉะนั้นเมื่อจำเลยมีข้อต่อสู้อย่างใดที่จะหักล้างได้ก็ต้องเป็นหน้าที่จำเลยนำสืบเพราะถ้าไม่มีการสืบกันแล้ว ข้อเท็จจริงก็อันเป็นอันยุติว่าจำเลยได้กู้เงินโจทก์ และรับเงินไปตามที่ปรากฎในสัญญานั้นแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1815/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตอำนาจตัวแทนจัดการร้านค้าและการกู้ยืมเงินเพื่อใช้ในกิจการ
ตั้งตัวแทนจัดการร้านค้าของตัวการแล้ว ตัวการไปต่างประเทศเสียชั่วคราว ในระหว่างที่ตัวการไปอยู่ต่างประเทศนั้น ตัวแทนซึ่งเป็นผู้จัดการร้านได้กู้ยืมเงินของบุคคลภายนอกมาใช้จ่ายในกิจการค้าของร้านตัวการ ผู้ให้กู้ก็เข้าใจว่าตัวแทนมีสิทธิทำการกู้ยืมเงินไปใช้ในกิจการค้านั้นได้เช่นนี้ เข้าลักษณะตัวแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 821,822 แม้ตัวการจะไม่ได้ตั้งตัวแทนเป็นหนังสือ ตัวการก็ต้องรับผิดในจำนวนเงินที่ตัวแทนไปกู้เขามาดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 633/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาคดีกู้ยืมเงินและทองรูปพรรณตามพยานหลักฐานและข้อตกลงร่วม
คู่ความตกลงกันสืบพะยานร่วมคนเดียว แล้วให้ศาลพิพากษาไป เมื่อสืบพะยานร่วมเสร็จ คู่ความก็ขอให้ศาลนัดตัดสิน ดังนี้ เมื่อคำเบิกความของพะยานฟังเป็นแน่นอนไม่ได้ ก็ไม่สมควรที่จะให้มีการพิจารณากันใหม่ แต่ต้องกลับไปพิจารณาถึงประเด็นแห่งคดี คือ จำเลยให้การฟ้องแย้งว่าได้มอบทองไว้แก่โจทก์หนัก 4 บาท 2 สลึง โจทก์ให้การว่า ทองที่มอบไว้มีน้ำหนักเพียงบาทเดียว เมื่อจำเลยไม่มีพะยานสนับสนุนคำกล่าวอ้าง ก็ต้องฟังตามคำรับของโจทก์ว่า มีน้ำหนักเพียงบาทเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2054/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ฟ้องคดีแพ่ง: ความเกี่ยวข้องกันของคำฟ้องเดิมและคำขอแก้ฟ้อง, การกู้ยืมเงินและยึดที่ดินเป็นประกัน
เดิมโจทก์ฟ้องว่า ไปทำสัญญาต่ออำเภอขายฝากนาให้จำเลย ขอให้จำเลยรับเงินและคืนนาให้โจทก์ แล้วโจทก์ขอแก้ฟ้องเป็นว่า ไม่ได้ทำสัญญาขายฝาก ความจริงได้ทำสัญญากู้เงินจำเลย มอบที่นาให้จำเลยยึดไว้เป็นประกันต่างดอกเบี้ย ดังนี้ ถือว่าคำขอแก้ฟ้องกับคำฟ้องเดิม มีความเกี่ยวข้องกัน ให้แก้ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 153/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองจากการกู้ยืมเงินและที่ดินทำต่างดอกเบี้ย หากลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ เจ้าหนี้ได้สิทธิครอบครอง
ฟ้องว่า จำเลยกู้เงินโจทก์เอาที่ไม่มีหนังสือสำคัญมอบทำต่างดอกเบี้ย จำเลยไม่ใช้เงินตามสัญญา โจทก์ได้ใช้สิทธิครอบครองเป็นเจ้าของโดยสงบมาเกิน 1 ปีแล้วจึงขอบังคับจำเลยทำสัญญาขายหรือใช้ราคา ดังนี้ฟ้องเป็นการกล่าวพฤตติการณ์ที่เป็นจริง จึงไม่ขัดกับคำขอบังคับท้ายฟ้อง ศาลรับตัดสินตามคำขอได้.
ทำสัญญากันเองมีข้อความว่า "เงินที่กู้จะใช้ใน 1 ปีนับแต่วันทำสัญญาที่นาเป็นกรรมสิทธินั้น" แปลว่าเมื่อพ้น 1 ปีแล้วไม่ชำระเงินก็ให้ที่นาเป็นกรรมสิทธิแก่เจ้าหนี้ เมื่อครบ 1 ปี ลูกหนี้ไม่ชำระเงินก็ถือว่าเจ้าหนี้ได้สิทธิครอบครองในที่ดิน อ้างฎีกาที่ 859/81
ในกรณีที่ลูกหนี้มอบที่ดินมือเปล่าให้ทำต่างดอกเบี้ยและยอมให้หลุดเป็นสิทธิเมื่อไม่ชำระเงินภายในกำหนดนั้นเมื่อที่หลุดเป็นสิทธิแล้วเจ้าหนี้มาฟ้องขอให้โอนหรือใช้ราคา ศาลย่อมไม่บังคับให้โอน แต่บังคับไว้ด้วยว่าถ้าจำเลยไปโอนขายแก่คนอื่นก็ให้จำเลยใช้ราคา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 524/2485 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารกู้เงินไม่ปรากฏชื่อผู้ให้กู้ใช้เป็นหลักฐานได้ หากมีลายมือชื่อผู้ยืมและจำนวนเงินเกิน 50 บาท
เอกสารกู้ไม่ปรากฎชื่อผู้ให้กู้ก็ฟังเป็นหลักฐานตามกฎหมายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 886/2484

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความคดีกู้ยืมเงิน: เริ่มนับจากวันผิดนัดชำระดอกเบี้ย ไม่ใช่วันครบกำหนดสัญญา
สัญญากู้มีอัตราดอกเบี้ยเป็นนิติกรรมเดียว มิใช่นิติกรรมกู้ และนิติกรรมดอกเบี้ยสัญญามีว่าเมื่อไม่ส่งดอกเบี้ยตามกำหนดให้ถือว่าผิดสัญญาดังนี้อายุความเริ่มนับแต่วันนี้ไม่ใช่เริ่มนับแต่วันครบกำหนดสัญญา
of 35