พบผลลัพธ์ทั้งหมด 467 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 104/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฆ่าโดยไม่มีเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อน และการพิจารณาความทารุณโหดร้ายในการลงโทษ
เพียงแต่จำเลยกับพวกร่วมกันฆ่าผู้ตาย โดยไม่ปรากฏว่า ร่วมคบคิดตระเตรียมการฆ่ามาก่อนแต่อย่างใดจะถือเอาเป็นการฆ่า โดยไตร่ตรองไว้ก่อนไม่ได้
การที่จำเลยกับพวกไล่ยิงผู้ตายหลายนัดจนผู้ตายล้มลง ยังจ่อยิงศีรษะผู้ตายใช้ขวานฟันอีกหลายที และร้องว่าเอาให้ตาย นั้น ก็ยังไม่ถึงขนาดที่จะถือว่าเป็นการทารุณโหดร้ายยิ่งไปกว่าการกระทำโดยเจตนาให้ตายในทันที
การที่จำเลยกับพวกไล่ยิงผู้ตายหลายนัดจนผู้ตายล้มลง ยังจ่อยิงศีรษะผู้ตายใช้ขวานฟันอีกหลายที และร้องว่าเอาให้ตาย นั้น ก็ยังไม่ถึงขนาดที่จะถือว่าเป็นการทารุณโหดร้ายยิ่งไปกว่าการกระทำโดยเจตนาให้ตายในทันที
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1025/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่า vs. ทารุณโหดร้าย: การประเมินความร้ายแรงของการกระทำความผิดฐานฆ่า
จำเลย 5 คนร่วมกันใช้สากตำข้าวไม้ตะบองและลิ่มคอกกระบือเป็นอาวุธรุมตีทำร้ายร่างกายผู้ตายคนละทีสองที และผู้ตายถึงแก่ความตายเพราะพิษบาดแผลที่ถูกทำร้ายในเวลาต่อมา ดังนี้ เป็นการกระทำโดยมีเจตนาฆ่าเท่านั้น ยังไม่ถึงขนาดจะถือว่าเป็นการทารุณโหดร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 734/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฆ่าโดยไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน: เหตุโกรธแค้นจากการถูกลูกชายผู้ตายฆ่าบิดา
จำเลยถือปืนจะไปยิงกระจง เมื่อเห็นผู้ตายกับพวกเดินมา จำเลยนึกโกรธแค้นผู้ตายเพราะเมื่อสองสามปีที่แล้ว บุตรผู้ตายฆ่าบิดาจำเลย จึงแอบยิงผู้ตายตายในขณะนั้น ดังนี้ จำเลยหาได้ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนไม่ จำเลยย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 734/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยไม่ไตร่ตรอง: การกระทำผิดเกิดจากความโกรธแค้นขณะเห็นผู้ตาย ไม่ได้มีเจตนายิงมาก่อน
จำเลยถือปืนจะไปยิงกระจงเมื่อเห็นผู้ตายกับพวกเดินมา จำเลยนึกโกรธแค้นผู้ตายเพราะเมื่อสองสามปีที่แล้วบุตรผู้ตายฆ่าบิดาจำเลย จึงแอบยิงผู้ตายตายในขณะนั้นดังนี้ จำเลยหาได้ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนไม่จำเลยย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 539/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยเจตนา: การพิจารณาความต่อเนื่องของกรรมและการกระทำต่อบุคคลหลายราย
จำเลยเห็นนายแก้วหาเห็ดอยู่กับนางทา จำเลยมีความหึงหวงจึงใช้มีดเข้าไปฟันนายแก้วก่อน นายแก้วต่อสู้ป้องกันตัว
จำเลยฟันนายแก้ว 2-3 ที นางทาจึงเข้าช่วยป้องกันนายแก้วจำเลยแทงนางทาจนนางทาถึงแก่ความตาย แล้วไล่ทำร้ายนายแก้วถึงแก่ความตายอีกดังนี้ ไม่มีเหตุที่จำเลยจะอ้างได้ว่า จำเลยทำร้ายผู้ตายทั้งสองโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 72
การที่จำเลยทำร้ายนายแก้วและนางทาถึงแก่ความตาย เป็นการกระทำคนละกรรมเพราะจำเลยกระทำต่อบุคคลทั้ง 2 โดยฟันแทงคนละที ไม่ใช่ฟันหรือแทงครั้งเดียวแต่เกิดผลทำให้คนถูกทำร้ายถึง 2 คนแต่การกระทำของจำเลยต่อนายแก้วตั้งแต่ฟันนายแก้วแล้วนางทาเข้ามาขัดขวาง และในที่สุดจำเลยวิ่งไล่ตามไปฟันนายแก้วอีกจนนายแก้วถึงแก่ความตายนั้นเป็นการกระทำต่อเนื่องเป็นกรรมเดียวกันพฤติการณ์แห่งคดีถือได้ว่าจำเลยทำร้ายนายแก้วและนางทาต่างกรรมต่างวาระกันกรณีจึงเข้ามาตรา 91 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
จำเลยฟันนายแก้ว 2-3 ที นางทาจึงเข้าช่วยป้องกันนายแก้วจำเลยแทงนางทาจนนางทาถึงแก่ความตาย แล้วไล่ทำร้ายนายแก้วถึงแก่ความตายอีกดังนี้ ไม่มีเหตุที่จำเลยจะอ้างได้ว่า จำเลยทำร้ายผู้ตายทั้งสองโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 72
การที่จำเลยทำร้ายนายแก้วและนางทาถึงแก่ความตาย เป็นการกระทำคนละกรรมเพราะจำเลยกระทำต่อบุคคลทั้ง 2 โดยฟันแทงคนละที ไม่ใช่ฟันหรือแทงครั้งเดียวแต่เกิดผลทำให้คนถูกทำร้ายถึง 2 คนแต่การกระทำของจำเลยต่อนายแก้วตั้งแต่ฟันนายแก้วแล้วนางทาเข้ามาขัดขวาง และในที่สุดจำเลยวิ่งไล่ตามไปฟันนายแก้วอีกจนนายแก้วถึงแก่ความตายนั้นเป็นการกระทำต่อเนื่องเป็นกรรมเดียวกันพฤติการณ์แห่งคดีถือได้ว่าจำเลยทำร้ายนายแก้วและนางทาต่างกรรมต่างวาระกันกรณีจึงเข้ามาตรา 91 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 518/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน: การกระทำโดยมีเหตุโกรธเคืองและเตรียมอาวุธ
ก่อนเกิดเหตุประมาณ 2 อาทิตย์ ผู้ตายซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านจับจำเลยที่ 1 ไปตักเตือนในข้อหาว่ายิงปืนในหมู่บ้าน ต่อมาในวันเกิดเหตุจำเลยมาถามหาผู้ตายแต่ไม่พบ จำเลยก็พากันไป ต่อมาจำเลยที่ 1 ที่ 2 ได้นั่งดื่มสุรากันที่บ้านจำเลยที่ 1 ก่อน แล้วจำเลยที่ 1,2 กับพวกได้พากันไปโดยมีอาวุธปืนลูกซองไปทุกคน พอจำเลยที่ 1,2 กับพวก เห็นแสงไฟรถจักรยานของผู้ตายโดยผู้ตายขี่มา ได้พากันวิ่งเข้าไปแล้วใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย ถือว่าเป็นการฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 518/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน: การกระทำร่วมกัน การเตรียมอาวุธ และเจตนาฆ่า
ก่อนเกิดเหตุประมาณ 2 อาทิตย์ ผู้ตายซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านจับจำเลยที่ 1 ไปตักเตือนในข้อหาว่ายิงปืนในหมู่บ้าน ต่อมาในวันเกิดเหตุจำเลยมาถามหาผู้ตายแต่ไม่พบจำเลยก็พากันไปต่อมาจำเลยที่ 1 ที่ 2 ได้นั่งดื่มสุรากันที่บ้านจำเลยที่ 1 ก่อน แล้วจำเลยที่ 1,2 กับพวกได้พากันไปโดยมีอาวุธปืนลูกซองไปทุกคนพอจำเลยที่ 1,2 กับพวกเห็นแสงไฟรถจักรยานของผู้ตายโดยผู้ตายขี่มา ได้พากันวิ่งเข้าไปแล้วใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย ถือว่าเป็นการฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการกระทำซ้ำและการทำร้ายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่
จำเลยแทงผู้ตายที่บริเวณหน้าอกเหนือหัวใจจนทะลุในครั้นผู้ตายล้มลง จำเลยคร่อมจะแทงซ้ำอีก เช่นนี้ ย่อมแสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า
พลตำรวจลาหยุดราชการในระหว่างที่ลาหยุดนั้น ไปเที่ยวในงานมหรสพซึ่งอยู่ในเขตท้องที่ซึ่งตนประจำการอยู่ จ่าสิบตำรวจตรีคนหนึ่งซึ่งรักษาการอยู่ในงานนั้นได้ขอร้องให้ช่วยรักษาความสงบเรียบร้อยในงานนั้นด้วยจำเลยได้แสดงกิริยามึนเมาสุราในบริเวณงานพลตำรวจนั้นได้ห้ามปรามและขอให้จำเลยกลับไปบ้าน จำเลยได้ใช้มีดแทงพลตำรวจผู้นั้นถึงบาดเจ็บสาหัส เช่นนี้ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 298
พลตำรวจลาหยุดราชการในระหว่างที่ลาหยุดนั้น ไปเที่ยวในงานมหรสพซึ่งอยู่ในเขตท้องที่ซึ่งตนประจำการอยู่ จ่าสิบตำรวจตรีคนหนึ่งซึ่งรักษาการอยู่ในงานนั้นได้ขอร้องให้ช่วยรักษาความสงบเรียบร้อยในงานนั้นด้วยจำเลยได้แสดงกิริยามึนเมาสุราในบริเวณงานพลตำรวจนั้นได้ห้ามปรามและขอให้จำเลยกลับไปบ้าน จำเลยได้ใช้มีดแทงพลตำรวจผู้นั้นถึงบาดเจ็บสาหัส เช่นนี้ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 298
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1104/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำละเมิด แม้ไม่มีเจตนาฆ่า แต่จงใจทำร้ายก็ถือเป็นละเมิดได้
จำเลยถูกศาลพิพากษาลงโทษฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 ถือว่าจำเลยได้ทำละเมิดต่อผู้ตายแล้ว เพราะการที่จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายก็เป็นการกระทำโดยจงใจทำร้ายผู้ตายโดยผิดกฎหมายอยู่ในตัวแล้ว แม้จะไม่มีเจตนาฆ่าก็ได้ชื่อว่ากระทำละเมิด แต่การละเมิดนั้นถึงกับมีเจตนาจะฆ่าหรือทำให้ตายโดยไม่มีเจตนานั้นเป็นเรื่องของเจตนาในการทำผิดทางอาญา เจตนากระทำกับจงใจกระทำจะตีความอนุโลมอย่างเดียวกันมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1101/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีฆ่าโดยทารุณโหดร้ายจากการปล้นทรัพย์ ศาลฎีกายืนโทษประหารชีวิตจำเลย
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยเองเป็นผู้ใช้มีดเชือดคอเด็กหญิงอายุ 5 ขวบถึงแก่ความตาย และจำเลยยังร่วมกับจำเลยอื่นกระทืบเด็กชายอายุ 8 เดือน ทั้งได้ใช้ผ้าอุดจมูกจนหายใจไม่ออกตาย นอกจากนี้ยังใช้ยาพิษกรอกปากกับใช้มีดเชือดคอมารดาของเด็กทั้งสองผู้ตายจนหลอดเสียงขาดเพื่อจะฆ่าให้ตายด้วย การกระทำของจำเลยดังกล่าวนี้จึงถือได้ว่าเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยกระทำทารุณโหดร้าย จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289