คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ช่วยเหลือ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 309 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 18279/2557

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสนับสนุนการฆ่าผู้อื่น: การกระทำที่ต่อเนื่องและการไม่มีเจตนาช่วยเหลือ
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 1 ไม่ได้ร่วมกับ ย. วางแผนฆ่าผู้ตายและไม่รู้มาก่อนว่า ย. มีและพาอาวุธปืนติดตัวมาด้วย จำเลยที่ 1 จึงไม่มีความผิดฐานเป็นตัวการร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนตามฟ้องและโจทก์มิได้อุทธรณ์ ข้อเท็จจริงจึงฟังได้เป็นยุติว่า ขณะที่ ย. ยิงผู้ตายนั้นจำเลยที่ 1 ไม่ได้รู้เห็นเป็นใจด้วย จำเลยที่ 1 จะมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนให้ ย. ฆ่าผู้ตายนั้น ข้อเท็จจริงต้องฟังได้ว่า จำเลยที่ 1 รู้มาก่อนแล้วว่า ย. ให้จำเลยที่ 1 ขับรถพาไปหาผู้ตายเพื่อฆ่าผู้ตาย เมื่อจำเลยที่ 1 ไม่รู้ข้อเท็จจริงดังกล่าวมาก่อน การที่ ย. ยิงผู้ตายนัดแรกขณะที่นั่งซ้อนท้ายรถที่จำเลยที่ 1 ขับมาแล้วลงจากรถตรงไปยิงผู้ตายซ้ำ อันเป็นการกระทำต่อเนื่องกัน แม้จำเลยที่ 1 จะมิได้ขับรถหลบหนีไปจากที่เกิดเหตุ แต่ขับรถวกกลับมารับ ย. ตามเสียงตะโกนเรียกของ ย. และพาหลบหนีไป ก็มิใช่เป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่ ย. ฆ่าผู้ตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15837/2557

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การช่วยเหลือซ่อมแซมท่อประปาในภาวะฉุกเฉิน ไม่ถือเป็นความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง เนื่องจากไม่มีเจตนาหาเสียง
การที่จำเลยเข้าไปซ่อมแซมตัดต่อท่อประปาที่หน้าวัดอ่างทองสามัคคีธรรมเนื่องจากระบบท่อน้ำประปาที่คุ้มโนนไม่ไหล จึงเป็นที่ประจักษ์ว่าการเข้าไปซ่อมแซมตัดต่อท่อประปาเป็นเรื่องมีเหตุฉุกเฉิน เพราะน้ำประปาในชุมชุนไม่ไหล การที่จำเลยนำท่อประปาเข้าไปซ่อมแซมจึงเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้านเฉพาะหน้า หลังจากซ่อมแซมระบบประปาแล้ว จำเลยก็ไม่เคยนำผลงานดังกล่าวไปโฆษณาหาเสียงอันจะเป็นประโยชน์ในการเลือกตั้งของจำเลยแต่อย่างใด แม้การกระทำของจำเลยดังกล่าวจะอยู่ในระหว่างประกาศหาเสียงเลือกตั้ง แต่ลักษณะการกระทำของจำเลยมีเจตนาเพียงต้องการช่วยเหลือชุมชนที่เดือดร้อนเพราะน้ำประปาไม่ไหล ไม่ได้มีเจตนาพิเศษเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่จำเลย การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 มาตรา 57 วรรคหนึ่ง (2), 118

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5185/2556

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การช่วยเหลือคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง: ข้อหาครบองค์ประกอบตามฟ้องหรือไม่
โจทก์บรรยายฟ้องระบุว่า จำเลยกับพวกร่วมกันซ่อนเร้น ช่วยเหลือหรือช่วยด้วยประการใด ๆ แก่คนต่างด้าว โดยให้ที่พำนักพักพิงที่หลบซ่อน ก่อนนำขึ้นรถยนต์กระบะเพื่อขนพาคนต่างด้าวจากบ้านทุ่งมะกอก ตำบลห้วยโป่ง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ไปส่งที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนี้เพื่อให้คนต่างด้าวพ้นจากการจับกุม เป็นการบรรยายถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำความผิดครบองค์ประกอบความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 64 แล้ว ส่วนข้อเท็จจริงที่พิจารณาได้ความว่า จำเลยขับรถยนต์โดยสารพาคนต่างด้าวจำนวน 7 คน ไปส่งที่สวนมะม่วงของ ป. เพื่อรอส่งต่อไปยังจังหวัดเชียงใหม่ ก็ถือเป็นการกระทำที่เป็นส่วนหนึ่งของการช่วยเหลือหรือช่วยด้วยประการใด ๆ ตามองค์ประกอบบทบัญญัติดังกล่าว หาใช่เป็นเรื่องข้อเท็จจริงที่โจทก์มิได้กล่าวในฟ้องและไม่ใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษ อันจะต้องห้ามตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคหนึ่งและวรรคสี่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14273/2556

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานแจ้งความเท็จเกี่ยวกับบัตรประชาชน: ผู้สนับสนุนมีความผิดฐานช่วยเหลือ
จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นข้าราชการครูในพื้นที่ ให้คำรับรองอันเป็นเท็จต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและปลัดอำเภอฝ่ายทะเบียนในการที่ ก. ซึ่งเป็นคนต่างด้าวขอมีบัตรประจำตัวประชาชนว่า ก. คือ พ. ซึ่งความจริงแล้ว ก. มิใช่บุคคลคนเดียวกับ พ. โดยข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 มีส่วนร่วมในการที่จำเลยที่ 1 และ ก. แจ้งให้แจ้งหน้าที่ดังกล่าวจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการและร่วมแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จในการขอมีบัตรประจำตัวประชาชนของ ก. อย่างไร การกระทำของจำเลยที่ 2 เป็นเพียงการกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิด ซึ่งเป็นความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11195/2556

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานค้ามนุษย์, พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี, และช่วยเหลือคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
มาตรา 7 วรรคสอง ของ พ.ร.บ.มาตรการป้องกันและปราบปรามการค้าหญิงและเด็ก พ.ศ.2540 ของกฎหมายเดิมบัญญัติว่า ถ้าผู้กระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง คนหนึ่งคนใดได้ลงมือกระทำความผิดตามที่สมคบกันไปแล้ว ผู้ร่วมสมคบด้วยกันทุกคนต้องระวางโทษตามที่บัญญัติไว้สำหรับความผิดนั้นอีกกระทงหนึ่งด้วยนั้น เป็นเพียงบทบัญญัติประกอบการลงโทษบุคคลที่ร่วมสมคบกันกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งแล้ว มิใช่ฐานความผิดหรือบทกำหนดความผิดและกำหนดโทษในตัวเองที่จะใช้ลงโทษแก่ผู้กระทำความผิดโดยตรง และการที่มาตรา 7 วรรคสอง กำหนดให้ลงโทษผู้ร่วมสมคบตามวรรคหนึ่งทุกคนตามฐานความผิดที่มีการกระทำลงอีกกระทงหนึ่งด้วย แสดงอยู่ว่ากฎหมายมีเจตนารมณ์ให้ลงโทษฐานสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้าหญิงและเด็กตามมาตรา 7 วรรคหนึ่ง กับความผิดฐานที่ได้มีการกระทำลงแยกต่างหากจากกันเป็นคนละกระทงกัน จึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน มิใช่ความผิดกรรมเดียวกัน
ความผิดฐานเป็นเจ้าของ ผู้ดูแลหรือผู้จัดการสถานการค้าประเวณี กับฐานเป็นธุระจัดหา ล่อไปหรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณีตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 มาตรา 9 วรรคสอง และมาตรา 11 วรรคสอง เป็นความผิดที่อาศัยเจตนาต่างกันและมีองค์ประกอบความผิดต่างกัน จึงเป็นความผิดต่างกรรม แต่โจทก์บรรยายฟ้องเกี่ยวกับความผิดดังกล่าวร่วมกันมาในข้อเดียว ย่อมเห็นได้ว่าโจทก์ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยทั้งสามในทุกฐานความผิดดังกล่าวเพียงกรรมเดียว หาได้มุ่งประสงค์ให้ลงโทษจำเลยทั้งสามเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันตาม ป.อ. มาตรา 91 จึงลงโทษจำเลยทั้งสามสำหรับความผิดในฟ้องข้อนี้ได้เพียงกรรมเดียว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4399-4400/2555

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสนับสนุนพยายามลักทรัพย์: ความผิดของผู้ให้ความช่วยเหลือในการกระทำความผิด
คนร้ายได้เคลื่อนย้ายกล่องกระดาษจากบริเวณที่ผู้เสียหายเก็บไว้ในโกดังขึ้นรถบรรทุกหกล้อ แต่รถบรรทุกหกล้อยังอยู่ภายในโรงงานของผู้เสียหายซึ่งมีพนักงานรักษาความปลอดภัยดูแลอยู่ด้วย ทั้งพนักงานรักษาความปลอดภัยไม่ยินยอมให้ บ. นำกล่องกระดาษออกไป จึงถือว่าการแย่งกรรมสิทธิ์ในกล่องกระดาษของ บ. ยังไม่สมบูรณ์ ขั้นตอนการลักทรัพย์ของ บ. ยังกระทำไม่แล้วเสร็จ การนำรถบรรทุกดังกล่าวออกไปจากโรงงานผู้เสียหายเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องเกี่ยวพันกับการลักทรัพย์ พฤติการณ์ที่จำเลยทั้งสองเข้าไปพูดกับพนักงานรักษาความปลอดภัยของบริษัทผู้เสียหายบริเวณประตูทางออกเพื่อให้ บ. นำรถบรรทุกกล่องกระดาษของผู้เสียหาย ถือเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในขณะที่ บ. ลงมือกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ แต่เมื่อ บ. ไม่สามารถนำกล่องกระดาษออกไปได้ การกระทำของ บ. จึงเป็นความผิดฐานพยายามลักทรัพย์ การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นความผิดฐานสนับสนุนการกระทำความผิดฐานพยายามลักทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 313/2555

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้สนับสนุนการครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย: การกระทำช่วยเหลือปกปิดความผิดของผู้กระทำ
ร. นั่งนับเงินอยู่กับจำเลยทั้งสองในห้อง เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจเรียกให้เปิดประตู จำเลยทั้งสองไม่ยอมเปิด ร. ได้โอกาสรีบเข้าห้องน้ำนำเมทแอมเฟตามีนจำนวน 5 เม็ด ที่เหลือจากการจำหน่ายไปทำลายเพื่อปกปิดการกระทำความผิดของตนโดยจำเลยทั้งสองยืนอยู่หน้าห้องน้ำและจำเลยทั้งสองพูดให้ ร. ทำเร็วๆ การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่พวกของตนก่อนหรือขณะกระทำความผิด ถือว่าเป็นผู้สนับสนุนความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนจำนวน 5 เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายตาม ป.อ. มาตรา 86
แม้โจทก์จะฟ้องจำเลยทั้งสองว่าเป็นตัวการร่วมกระทำความผิดกับพวก แต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยทั้งสองกระทำความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยทั้งสองเป็นผู้สนับสนุนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 18982/2555

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สนับสนุนการจำหน่ายยาเสพติด: พฤติการณ์บ่งชี้ความรู้เห็นเป็นใจและช่วยเหลือ
จำเลยนั่งรถยนต์ที่มี ร. เป็นผู้ขับเพื่อส่งเมทแอมเฟตามีนให้สายลับ เมื่อถึงจุดนัดหมาย ร. จอดรถสายลับเดินไปทางด้านซ้ายของรถที่จำเลยนั่งอยู่แล้วกระจกประตูรถด้านซ้ายลดลงสายลับคุยกับบุคคลภายในรถแล้วคนในรถส่งมอบเมทแอมเฟตามีนให้แก่สายลับและสายลับส่งธนบัตรที่ใช้ล่อซื้อให้แก่คนในรถ หากจำเลยมิได้มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้องสายลับก็ต้องเดินไปหา ร. ซึ่งเป็นคนขับ ตามพฤติการณ์บ่งชี้ว่า จำเลยรู้เห็นในการจำหน่ายและได้ช่วยเหลือในการส่งมอบเมทแอมเฟตามีนจนทำให้การซื้อขายเป็นผลสำเร็จ อันถือได้ว่าจำเลยช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่ ร. ในการจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9626/2554

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้สนับสนุนการจำหน่ายยาเสพติด: การกระทำช่วยเหลือหลังการตกลงซื้อขาย
สายลับผู้ล่อซื้อติดต่อพูดคุยและตกลงซื้อขายตลอดจนนัดหมายสถานที่และวิธีการส่งมอบเมทแอมเฟตามีนและเงินสดของกลางกับ ป. ทางโทรศัพท์เคลื่อนที่เพียงสองคน โดยไม่ปรากฏว่าจำเลยมีส่วนร่วมในการติดต่อหรือรู้เห็นกับ ป. ในการทำความตกลงดังกล่าว และไม่ได้ความว่าจำเลยมีส่วนเกี่ยวข้องในการนำห่อเมทแอมเฟตามีนของกลางไปวางไว้ใต้สะพานลอยเพื่อส่งมอบให้แก่สายลับตามที่ ป. นัดหมายไว้ ข้อเท็จจริงฟังได้เพียงว่า หลังจากสายลับนำถุงพลาสติกใส่เงินสดของกลางไปวางไว้ที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะตามที่ ป. แจ้งแก่สายลับแล้ว จำเลยซึ่งนั่งมาในรถกระบะของคนร้ายลงจากรถเดินเข้าไปหยิบถุงพลาสติกดังกล่าวจึงถูกเจ้าพนักงานตำรวจที่ซุ่มอยู่เข้าจับกุม โดยไม่มีหลักฐานที่เป็นข้อบ่งชี้ว่าจำเลยล่วงรู้สถานที่ส่งมอบเงินค่าซื้อเมทแอมเฟตามีนมาก่อนและเดินทางไปซุ่มรออยู่กับพวกที่บริเวณใกล้ตู้โทรศัพท์ก่อนแล้วเพื่อเตรียมเข้าไปเอาถุงใส่เงินเมื่อมีผู้นำไปวางไว้ให้ ข้อเท็จจริงที่ได้ความดังกล่าวยังไม่เพียงพอให้ฟังว่าจำเลยเป็นตัวการร่วมกับ ป. ในการจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนของกลางโดยแบ่งหน้าที่กันทำ แต่ตามพฤติการณ์เชื่อได้ว่า จำเลยรู้ดีว่าถุงพลาสติกที่พวกของตนบอกให้ไปหยิบมาให้นั้น เป็นถุงใส่เงินค่าซื้อเมทแอมเฟตามีนที่ผู้ซื้อนำมาวางไว้ให้แก่พวกของตน ถือว่าขณะนั้นการจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนยังไม่ขาดตอน การกระทำของจำเลยเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในขณะที่ผู้อื่นกระทำความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน จึงเป็นความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน แม้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยในฐานะเป็นตัวการร่วมจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน แต่เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้เพียงว่าจำเลยเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด ศาลมีอำนาจพิพากษาลงโทษจำเลยฐานเป็นผู้สนับสนุนตามข้อเท็จจริงที่พิจารณาได้ความนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2925/2554

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดฐานพยายามฆ่า และการไม่ถือเป็นการกลับใจแก้ไขเมื่อช่วยเหลือผู้เสียหายหลังกระทำผิด
จำเลยใช้อาวุธมีดแทงผู้เสียหายที่บริเวณซี่โครงซ้ายและไหล่ซ้ายและพยายามใช้อาวุธมีดปาดคอโดยเจตนาฆ่า จำเลยกระทำไปตลอดแล้ว แต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผลให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตาย การที่จำเลยยับยั้งไม่ใช้อาวุธมีดแทงทำร้ายผู้เสียหายต่อไปจนถึงแก่ความตาย จำเลยก็ยังต้องรับโทษสำหรับความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นที่ได้กระทำไปแล้ว ส่วนการที่จำเลยช่วยนำผู้เสียหายไปส่งโรงพยาบาลและดูแลผู้เสียหายในระหว่างที่รักษาตัวนั้น เมื่อการกระทำของจำเลยบรรลุผลเป็นการพยายามฆ่าผู้เสียหาย ซึ่งกฎหมายบัญญัติเป็นความผิดแล้ว กรณีจึงมิใช่การกระทำความผิดของจำเลยยังไม่บรรลุผล ไม่เป็นการกลับใจแก้ไขไม่ให้การกระทำนั้นบรรลุผล ในอันที่จะไม่ต้องรับโทษสำหรับการพยายามกระทำความผิดนั้น ตาม ป.อ. มาตรา 82
of 31