พบผลลัพธ์ทั้งหมด 560 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 276/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลคำพิพากษาคดีอาญาผูกพันคดีแพ่ง: การวินิจฉัยประมาทในคดีอาญาเป็นข้อเท็จจริงที่ใช้ในคดีแพ่งได้
ศาลทหารพิพากษาถึงที่สุดในคดีที่อัยการเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ในข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยโจทก์เป็นผู้เสียหายว่า เท่าที่โจทก์นำสืบยังมีข้อสงสัยฟังไม่ได้สนิทใจว่าเหตุที่เกิดเป็นเพราะความประมาทปราศจากความระมัดระวังของจำเลย จำต้องยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้เป็นผลดีแก่จำเลย พิพากษายกฟ้อง ดังนี้ แม้โจทก์จะมิได้เข้ามาเป็นคู่ความด้วย โจทก์และจำเลยที่ 1 ก็ต้องผูกพันตามคำพิพากษาในคดีอาญานั้น ตามพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหารพ.ศ. 2498 มาตรา 54 และประมวลกฎหมายวิธพีพิจารณาความอาญามาตรา 46(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1134,1135/2509) และคำพิพากษาคดีอาญาได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงอันเป็นประเด็นแห่งคดีแล้วว่าโจทก์ไม่มีพยานสืบให้ศาลเห็นโดยชัดแจ้งว่าจำเลยที่ 1 กระทำผิดตามที่โจทก์ฟ้อง ถือได้ว่าศาลได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงในประเด็นที่ว่าจำเลยที่ 1 กระทำการโดยประมาทหรือไม่ไว้แน่นอนแล้ว จะฟังข้อเท็จจริงในคดีแพ่งให้ขัดกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีอาญาหาได้ไม่ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1674/2512)
เมื่อคดีฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 กระทำละเมิดต่อผู้ตาย จำเลยที่ 2 และจำเลยร่วมซึ่งโจทก์อ้างว่าเป็นนายจ้างไม่ต้องรับผิดไปด้วย
เมื่อคดีฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 กระทำละเมิดต่อผู้ตาย จำเลยที่ 2 และจำเลยร่วมซึ่งโจทก์อ้างว่าเป็นนายจ้างไม่ต้องรับผิดไปด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2423/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องละเมิดจากไฟไหม้ ต้องระบุรายละเอียดการกระทำโดยประมาทเลินเล่อของผู้ถูกฟ้อง
บรรยายฟ้องว่าจำเลยเก็บถังแก๊สไว้จำหน่ายไม่ได้รับอนุญาต ไม่มีเครื่องป้องกัน เมื่อเกิดไฟไหม้จึงลุกลามไปไหม้บ้านโจทก์โดยรวดเร็ว โจทก์มิได้บรรยายว่าจำเลยใช้ลวดทองแดงต่อฟิวส์ทำให้ความร้อนสูงเกิดไฟไหม้ จึงไม่เป็นประเด็นที่จะพิจารณาในข้อนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2036/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานประมาททำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายจากอาวุธปืน: การบรรยายฟ้องที่ชอบด้วยกฎหมาย
โจทก์ฟ้องบรรยายถึงการกระทำประมาทของจำเลยว่า จำเลยพาอาวุธปืนแก๊ปยาวบรรจุดินปืนพร้อมลูกปืนอยู่แล้วและยังใส่แก๊ปลงในเบ้าแก๊ปด้วย ถ้าปลายนกปืนเกิดกระทบกระเทือนจะตีแก๊ปในเบ้าแก๊ประเบิดขึ้นไปถูกผู้อื่นได้ และบรรยายต่อไปว่าจำเลยนำอาวุธปืนไปที่ตลาดวังทรายพูนในขณะที่มีคนพลุกพล่าน ในพฤติการณ์เช่นนี้บุคคลในภาวะเช่นจำเลยควรระมัดระวังตามวิสัยโดยไม่ใส่แก๊ปลงในเบ้าแก๊ปของอาวุธปืนนั้น ซึ่งอยู่ในวิสัยของจำเลยที่จะทำได้ แต่หาได้ใช้ให้เพียงพอไม่ จำเลยพาอาวุธปืนไปด้วยความไม่ระมัดระวังเป็นเหตุให้อาวุธปืนพลัดตก นกปืนกระทบพื้น ปลายนกปืนที่สวมอยู่ในเบ้าแก๊ปตีแก๊ประเบิดลั่นขึ้น 1 นัด ลูกปืนถูกผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กายสาหัส มีอาการทุกขเวทนาจนประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่า 20 วัน และต้องทุพพลภาพเสียอวัยวะนิ้วก้อยและนิ้วนางข้างขวาใช้การไม่ได้ตามปกติอาจถึงตลอดชีวิต เป็นการบรรยายให้จำเลยเข้าใจได้แล้วว่าจำเลยกระทำโดยประมาทอย่างไร ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัสอย่างไรครบถ้วนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 เป็นฟ้องที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158แล้ว โดยไม่ต้องบรรยายว่าเป็นอาวุธปืนไม่มีคุณภาพใช้ได้โดยปลอดภัยและไม่ต้องบรรยายอีกว่าจำเลยกระทำอย่างไรเป็นการพาอาวุธปืนไปด้วยความไม่ระมัดระวัง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2015/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ตายประมาทวิ่งตัดหน้า, จำเลยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ไม่ถือเป็นความผิดจำเลย
ผู้ตายวิ่งตัดหน้ารถยนต์ที่จำเลยขับในระยะกระชั้นชิด เป็นความประมาทของผู้ตายเอง จำเลยไม่อาจห้ามล้อหยุดได้ทันสุดวิสัยที่จะป้องกันได้ ไม่ใช่เกิดจากความประมาทของจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1640/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดจากอุบัติเหตุทางถนนและการฟ้องแทนผู้เยาว์
รถจักรยานยนต์กับรถบรรทุกหินชนกัน โดยรถยนต์ไม่ชลอความเร็วเมื่อถึงสี่แยก รถจักรยานยนต์ขับเร็วผ่านสี่แยกเป็นฝ่ายประมาทมาก ฝ่ายรถยนต์ก็ยังต้องรับผิด แต่มีส่วนผิดน้อยกว่า จึงให้รับผิด 1 ใน 3 ของความเสียหายของฝ่ายรถจักรยานยนต์ซึ่งผู้ขับถึงตาย
บิดาเด็กผู้เยาว์ถูกรถยนต์ชนตาย มารดาทิ้งเด็กไปได้สามีใหม่ไม่ทราบที่อยู่ เด็กอยู่กับปู่และย่า ถือว่ามารดาผู้แทนโดยชอบธรรมของเด็กทำหน้าที่ไม่ได้ ศาลอนุญาตให้ปู่ฟ้องแทนเด็กได้
บิดาเด็กผู้เยาว์ถูกรถยนต์ชนตาย มารดาทิ้งเด็กไปได้สามีใหม่ไม่ทราบที่อยู่ เด็กอยู่กับปู่และย่า ถือว่ามารดาผู้แทนโดยชอบธรรมของเด็กทำหน้าที่ไม่ได้ ศาลอนุญาตให้ปู่ฟ้องแทนเด็กได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 846/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ธนาคารไม่ต้องรับผิดเมื่อเปิดบัญชีให้ผู้ปลอมเอกสาร หากตรวจสอบเอกสารตามปกติและเชื่อโดยสุจริต
ข้อที่ว่าบริษัทโจทก์จดทะเบียนโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว บุคคลทั้งหลายย่อมรู้นั้น จะผูกพันบุคคลทั่วไปเฉพาะนิติกรรมสัญญาเท่านั้น ไม่มีผลถึงเรื่องละเมิด
ผ. มิได้เป็นกรรมการบริษัทโจทก์ ได้ขอเปิดบัญชีเงินฝากในนามบริษัทโจทก์ไว้กับธนาคารจำเลย แล้วนำเช็คที่ลูกค้าออกชำระหนี้ให้แก่โจทก์เข้าบัญชีเงินฝากนั้น และออกเช็คเบิกเงินโจทก์ไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสีย ดังนี้ เมื่อได้ความว่า การที่ ผ. ขอเปิดบัญชีเงินฝากในนามบริษัทโจทก์ ได้มีเอกสารมาครบถ้วนตามระเบียบที่ธนาคารจำเลยวางไว้ ทั้งเอกสารระบุว่า ผ. เป็นกรรมการผู้มีอำนาจทำการแทนบริษัทโจทก์ได้ และพนักงานของธนาคารจำเลยตรวจพิจารณาเอกสารเหล่านั้นด้วยความระมัดระวังตามปกติธรรมดาที่เคยปฏิบัติมาของธนาคาร ซึ่งเป็นธุรกิจที่ต้องการความรวดเร็วเพื่อให้ความสะดวกแก่ลูกค้าแล้ว เชื่อโดยสุจริตว่า ผ. เป็นกรรมการของบริษัทโจทก์จริง จึงรับเปิดบัญชีเงินฝากให้ ผ. และไม่ได้สอบถามบริษัทโจทก์หรือกองทะเบียนกระทรวงพาณิชย์อีก แต่ต่อมาปรากฏว่าเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารที่ ผ. กับพวกร่วมกันปลอมขึ้น ก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยกระทำโดยประมาทเลินเล่ออันจะเป็นการละเมิดต่อโจทก์
ผ. มิได้เป็นกรรมการบริษัทโจทก์ ได้ขอเปิดบัญชีเงินฝากในนามบริษัทโจทก์ไว้กับธนาคารจำเลย แล้วนำเช็คที่ลูกค้าออกชำระหนี้ให้แก่โจทก์เข้าบัญชีเงินฝากนั้น และออกเช็คเบิกเงินโจทก์ไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวเสีย ดังนี้ เมื่อได้ความว่า การที่ ผ. ขอเปิดบัญชีเงินฝากในนามบริษัทโจทก์ ได้มีเอกสารมาครบถ้วนตามระเบียบที่ธนาคารจำเลยวางไว้ ทั้งเอกสารระบุว่า ผ. เป็นกรรมการผู้มีอำนาจทำการแทนบริษัทโจทก์ได้ และพนักงานของธนาคารจำเลยตรวจพิจารณาเอกสารเหล่านั้นด้วยความระมัดระวังตามปกติธรรมดาที่เคยปฏิบัติมาของธนาคาร ซึ่งเป็นธุรกิจที่ต้องการความรวดเร็วเพื่อให้ความสะดวกแก่ลูกค้าแล้ว เชื่อโดยสุจริตว่า ผ. เป็นกรรมการของบริษัทโจทก์จริง จึงรับเปิดบัญชีเงินฝากให้ ผ. และไม่ได้สอบถามบริษัทโจทก์หรือกองทะเบียนกระทรวงพาณิชย์อีก แต่ต่อมาปรากฏว่าเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารที่ ผ. กับพวกร่วมกันปลอมขึ้น ก็ถือไม่ได้ว่าจำเลยกระทำโดยประมาทเลินเล่ออันจะเป็นการละเมิดต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 758/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางแพ่งจากประมาททางอาญา: นายจ้างไม่ผูกพันตามคำพิพากษาอาญา
ศาลคดีอาญาพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 ประมาททำให้ ส. บุตรโจทก์ตายไม่ผูกพันจำเลยที่ 3 ในคดีแพ่งที่โจทก์ฟ้องให้ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ในฐานะนายจ้าง โจทก์ไม่สืบพยานอื่นนอกจากอ้างคำพิพากษาคดีอาญาศาลพิพากษาให้จำเลยที่ 1 รับผิด แต่ยกฟ้องจำเลยที่ 3
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1995/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำโดยประมาทและชดใช้ค่าเสียหาย ไม่เพียงพอต่อการรอการลงโทษ
การที่จำเลยกระทำโดยมิได้คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตของผู้อื่นและต่อสู้คดีด้วยนั้น แม้จำเลยจะได้ชดใช้ค่าเสียหายให้ฝ่ายผู้ตายซึ่งจำเลยต้องรับผิดทางแพ่งอยู่แล้วและจำเลยไปมอบตัวต่อเจ้าพนักงานก็ตาม แต่ศาลชั้นต้นก็ได้พิจารณาถึงเรื่องที่จำเลยชดใช้ค่าเสียหายประกอบในการกำหนดโทษโดยลงโทษจำคุกจำเลย 2 ปี ในสถานเบาอยู่แล้วศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้รอการลงโทษ ศาลฎีกาไม่รอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1979/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้าม: คดีทุนทรัพย์น้อย, แก้ไขเล็กน้อย, ไม่มีเหตุสมควรฎีกา, ประมาทในการขับรถ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเฉพาะค่าทนายความที่ให้จำเลยใช้แทนโจทก์ เป็นการแก้ไขเล็กน้อย เมื่อคดีมีทุนทรัพย์เพียง 27,500 บาท จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 จำเลยจะฎีกาว่ามิได้ขับรถประมาทหรือผู้อื่นมีส่วนประมาทด้วยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1432/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ละเมิดจากความประมาทในการวางสายไฟฟ้า ทำให้ผู้เยาว์เสียชีวิต ผู้ประกอบการและลูกจ้างต้องรับผิดค่าขาดไร้อุปการะ
เมื่อฟ้องบรรยายว่าโจทก์เป็นบิดาชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย ได้กล่าวถึงเหตุที่จำเลยได้กระทำละเมิดอันเป็นบุตรโจทก์ถึงแก่กรรมโดยชัดแจ้ง ทำให้โจทก์ขาดไร้อุปการะ และได้เรียกร้องให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนนั้น ย่อมถือว่าคำฟ้องโจทก์ได้แสดงโดยแจ้งชัด ซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่น ว่านั้นแล้ว จึงเป็นที่สมบูรณ์ ส่วนค่าสินไหมทดแทนควรจะเป็นเท่าใด หากผู้ตายมีชีวิตอยู่จะได้อุปการะโจทก์อย่างไรบ้างนั้น เป็นเพียงรายละเอียดและอาจคาดหมายได้ ศาลย่อมกำหนดให้ตามสมควรแก่พฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งละเมิด ซึ่งไม่จำต้องกล่าวไว้โดยละเอียดในฟ้อง
การที่ไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจำเลยที่ 4 มิได้ปฏิบัติตามระเบียบข้อตกลงระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 4 ในการวางสายไฟฟ้านั้น เป็นเรื่องที่จำเลยทั้งสองจะไปว่ากล่าวกันเอง เมื่อได้ความว่าเหตุที่บุตรโจทก์ถึงแก่ความตายนั้น เนื่องจากจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 1 ได้ตัดสารโทรเลขตามคำสั่งของจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 1 เช่นกัน และเป็นไปในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 1 ทำให้เสาโทรเลขล้มลง สายโทรเลขช่วงถัดไปหย่อนไปแตะกับสายไฟฟ้า กระแสไฟฟ้าไหลตามสายโทรเลขต้นที่ล้มลงไปในคูน้ำและเป็นเหตุให้กระแสไฟฟ้านั้นช๊อตบุตรโจทก์ตาย จำเลยที่ 1 จะปัดความรับผิดไม่ได้
แม้ตามฐานะโจทก์ไม่จำต้องพึ่งผู้ตายก็ตาม แต่ขณะเกิดเหตุผู้ตายทั้งสองเป็นผู้เยาว์ยังอยู่ในระหว่างที่โจทก์ให้อุปการะเลี้ยงดูและให้การศึกษา และโจทก์ก็หวังผู้ตายเป็นที่พึ่งของโจทก์ในภายหน้า ที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1535 บัญญัติว่า บุตรจำต้องอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดานั้น มิได้หมายความว่าเมื่อบิดามารดามีรายได้เลี้ยงชีพของตนเองแล้ว หน้าที่ของบุตรที่จำต้องอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดาจะหมดสิ้นไปเมื่อบุตรโจทก์ถึงแก่กรรมเพราะการละเมิดของจำเลย จำเลยจึงต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนที่โจทก์ต้องขาดไร้อุปการะ
การที่ไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจำเลยที่ 4 มิได้ปฏิบัติตามระเบียบข้อตกลงระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 4 ในการวางสายไฟฟ้านั้น เป็นเรื่องที่จำเลยทั้งสองจะไปว่ากล่าวกันเอง เมื่อได้ความว่าเหตุที่บุตรโจทก์ถึงแก่ความตายนั้น เนื่องจากจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 1 ได้ตัดสารโทรเลขตามคำสั่งของจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 1 เช่นกัน และเป็นไปในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 1 ทำให้เสาโทรเลขล้มลง สายโทรเลขช่วงถัดไปหย่อนไปแตะกับสายไฟฟ้า กระแสไฟฟ้าไหลตามสายโทรเลขต้นที่ล้มลงไปในคูน้ำและเป็นเหตุให้กระแสไฟฟ้านั้นช๊อตบุตรโจทก์ตาย จำเลยที่ 1 จะปัดความรับผิดไม่ได้
แม้ตามฐานะโจทก์ไม่จำต้องพึ่งผู้ตายก็ตาม แต่ขณะเกิดเหตุผู้ตายทั้งสองเป็นผู้เยาว์ยังอยู่ในระหว่างที่โจทก์ให้อุปการะเลี้ยงดูและให้การศึกษา และโจทก์ก็หวังผู้ตายเป็นที่พึ่งของโจทก์ในภายหน้า ที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1535 บัญญัติว่า บุตรจำต้องอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดานั้น มิได้หมายความว่าเมื่อบิดามารดามีรายได้เลี้ยงชีพของตนเองแล้ว หน้าที่ของบุตรที่จำต้องอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดาจะหมดสิ้นไปเมื่อบุตรโจทก์ถึงแก่กรรมเพราะการละเมิดของจำเลย จำเลยจึงต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนที่โจทก์ต้องขาดไร้อุปการะ