พบผลลัพธ์ทั้งหมด 327 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1146/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดพิจารณาคดีและการพิจารณาใหม่ ศาลต้องไต่สวนเหตุผลก่อนมีคำสั่ง
โจทก์ไม่ไปศาลในวันนัดสืบพยานโจทก์ และศาลมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณา แล้วโจทก์มาร้องขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่อ้างว่ามิได้จงใจขาดนัดพิจารณากรณีต้องดำเนินไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 205 วรรคสอง ซึ่งศาลชอบที่จะไต่สวนให้ทราบข้อเท็จจริงเพื่อมีคำสั่งต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1525/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำร้องขอพิจารณาใหม่ต้องแสดงเหตุขาดนัดและข้อคัดค้านคำตัดสินชัดแจ้งครบถ้วน
คำร้องขอให้มีการพิจารณาใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 208 วรรคท้าย จะต้องกล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งเหตุที่คู่ความได้ขาดนัด และข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาล ซึ่งหมายความว่าจะต้องกล่าวโดยละเอียดและชัดแจ้งทั้ง 2 ประการ คือ ทั้งเหตุที่ได้ขาดนัดและทั้งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลด้วย
จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่โดยกล่าวในคำร้องท้าวถึงคำให้การจำเลยเพียงสั้น ๆ ว่า "และคำให้การของจำเลยก็มีข้อต่อสู้พอที่จะชนะคดีโจทก์" คำร้องของจำเลยจึงไม่ชอบด้วยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 209 ในอันที่ศาลจะพึงสั่งอนุญาตให้มีการพิจารณาใหม่
จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่โดยกล่าวในคำร้องท้าวถึงคำให้การจำเลยเพียงสั้น ๆ ว่า "และคำให้การของจำเลยก็มีข้อต่อสู้พอที่จะชนะคดีโจทก์" คำร้องของจำเลยจึงไม่ชอบด้วยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 209 ในอันที่ศาลจะพึงสั่งอนุญาตให้มีการพิจารณาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 308/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดพิจารณาคดี: เหตุสมควรและการพิจารณาคำร้องขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่
ศาลนัดพิจารณาเวลา 8.30 น. ถึงวันนัดศาลออกนั่งพิจารณาและสั่งขาดนัด ให้ยกฟ้องโจทก์เมื่อเวลา 9.10 น. โจทก์ยื่นคำร้องให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ในวันนั้นเวลา 9.55 น. ช้ากว่าเวลาที่ศาลออกนั่งพิจารณา 45 นาที เพราะโจทก์ยังต้องใช้เวลาเขียนคำร้อง โจทก์และทนายโจทก์อยู่จังหวัดอื่น ต้องเดินทางมาโดยรถไฟ เวลาจึงคลาดเคลื่อน ดังนี้ ยังฟังไม่ได้ว่าโจทก์มาศาลไม่ทันตามกำหนดนัดโดยไม่มีเหตุสมควร ไม่ควรด่วนยกฟ้องให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาตามกฎหมายต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1538/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคำร้องขอพิจารณาใหม่หลังขาดนัด - การตีความมาตรา 207 และผลกระทบจากการยกเลิกมาตรา 204
การตีความประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 207 (1) จะต้องตีความอย่างจำกัด อนุมาตรานี้บัญญัติท้าวถึงกรณีตามมาตรา 204 เมื่อมาตรา 204 ถูกยกเลิกไปแล้ว ผลก็เป็นเสมือนว่ามาตรา 207(1) ถูกยกเลิกไปด้วยโดยปริยาย
จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่และยังติดใจขอให้ไต่สวนคำร้องอยู่ ศาลพึงไต่สวนพยานให้สิ้นกระแสความเสียหาย จะพิจารณาพฤติการณ์ต่าง ๆ ตามสำนวนแล้วฟังว่าจำเลยจงใจขาดนัดและไม่มีเหตุอันสมควรที่จะอนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การหรือยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ตามนัยมาตรา 205 (3) แล้วสั่งยกคำร้องเสียดังนี้ หาชอบไม่
จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่และยังติดใจขอให้ไต่สวนคำร้องอยู่ ศาลพึงไต่สวนพยานให้สิ้นกระแสความเสียหาย จะพิจารณาพฤติการณ์ต่าง ๆ ตามสำนวนแล้วฟังว่าจำเลยจงใจขาดนัดและไม่มีเหตุอันสมควรที่จะอนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การหรือยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ตามนัยมาตรา 205 (3) แล้วสั่งยกคำร้องเสียดังนี้ หาชอบไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1416/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การดำเนินคดีอนาถา-ล้มละลาย: สิทธิในการขอพิจารณาใหม่เรื่องทรัพย์สิน & ผลของการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล
โจทก์ได้รับอนุญาตให้ฟ้องคดีอย่างคนอนาถา ต่อมาถูกศาลพิพากษาให้เป็นผู้ล้มละลายเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เข้าสรวมสิทธิเป็นโจทก์แทน จำเลยร้องขอให้ศาลสั่งให้โจทก์เสียค่าธรรมเนียมเพราะมีกองทรัพย์สินอยู่กว่า 50,000 บาท ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งให้โจทก์นำค่าธรรมเนียมแต่เริ่มฟ้องมาชำระภายใน 1 เดือน ในวันครบกำหนด 1 เดือน เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยื่นคำร้องว่า เงินในกองทรัพย์สินของโจทก์ผู้ล้มละลายมีไม่พอจะเสียค่าธรรมเนียม ขอให้เพิกถอนคำสั่งให้โจทก์ชำระค่าธรรมเนียมนั้นเสีย และให้โจทก์ดำเนินคดีอย่างคนอนาถาได้ต่อไป คดีได้ความดังนี้ ศาลชอบที่จะได้สั่งคำร้องขอของโจทก์ในข้อจะอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถาต่อไปนั้นเสียก่อน การที่ศาลไปถือ (ในวันรุ่งขึ้น) ว่า บัดนี้เกิดกำหนดแล้ว โจทก์ไม่ชำระค่าธรรมเนียม และไม่ได้ขอผัดผ่อน ถือว่า โจทก์ไม่ดำเนินคดีตามที่ศาลสั่ง เป็นการทิ้งฟ้องและให้จำหน่ายคดีเสียนั้น จึงเป็นการไม่ชอบ
นอกจากนี้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 นั้น แม้ศาลจะไม่อนุญาตให้ได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมมาแล้ว และไม่มีการอุทธรณ์คำสั่งนั้นภายใน 7 วันก็ตาม คู่ความฝ่ายนั้น ก็ยังขอให้พิจารณา่คำขอนั้นใหม่โดยเฉพาะในข้อที่ว่าตนไม่มีทรัพย์สินพอได้ ดังนี้ คำสั่งให้โจทก์นำเงินค่าธรรมเนียมมาเสียภายใน 1 เดือน แม้โจทก์มิได้อุทธรณ์ โจทก์ก็ยังยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ในข้อที่ว่า โจทก์ไม่มีทรัพย์สินพอที่จะเสียค่าธรรมเนียมได้อีก ดังที่โจทก์ได้กระทำมาในคำร้องนั้นแล้ว ศาลชอบที่จะได้พิจารณาและมีคำสั่งในข้อนี้ด้วย
นอกจากนี้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 นั้น แม้ศาลจะไม่อนุญาตให้ได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมมาแล้ว และไม่มีการอุทธรณ์คำสั่งนั้นภายใน 7 วันก็ตาม คู่ความฝ่ายนั้น ก็ยังขอให้พิจารณา่คำขอนั้นใหม่โดยเฉพาะในข้อที่ว่าตนไม่มีทรัพย์สินพอได้ ดังนี้ คำสั่งให้โจทก์นำเงินค่าธรรมเนียมมาเสียภายใน 1 เดือน แม้โจทก์มิได้อุทธรณ์ โจทก์ก็ยังยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ในข้อที่ว่า โจทก์ไม่มีทรัพย์สินพอที่จะเสียค่าธรรมเนียมได้อีก ดังที่โจทก์ได้กระทำมาในคำร้องนั้นแล้ว ศาลชอบที่จะได้พิจารณาและมีคำสั่งในข้อนี้ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 720/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐานเดิมหลังศาลยกเลิกคำพิพากษาเดิมและให้พิจารณาใหม่
เดิมศาลชั้นต้นสั่งว่าจำเลยขาดนัดและให้สืบพยานโจทก์ไปฝ่ายเดียว ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ ในการพิจารณาใหม่เช่นนี้ แม้โจทก์จะขาดนัดพิจารณาศาลก็มีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานของโจทก์ที่ได้เคยสืบไว้แต่เดิมนั้นได้ เพราะในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์มิได้สั่งให้ยกเลิกกระบวนพิจารณาเรื่องพยานหลักฐานที่สืบมาก่อนแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 720/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจรับฟังพยานเดิมหลังศาลอุทธรณ์ยกคำพิพากษาและสั่งพิจารณาใหม่
เดิมศาลชั้นต้นสั่งว่าจำเลยขาดนัด และให้สืบพยานโจทก์ไปฝ่ายเดียว แล้วพิพากษาให้จำเลยแพ้คดี ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ ในการพิจารณาใหม่เช่นนี้ แม้โจทก์จะขาดนัดพิจารณาศาลก็มีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานของโจทก์ที่ได้เคยสืบไว้แต่เดิมนั้นได้เพราะในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์มิได้สั่งให้ยกเลิกกระบวนพิจารณาเรื่องพยานหลักฐานที่สืบมาก่อนแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1238/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำขอพิจารณาใหม่ต้องแสดงเหตุชนะคดี หากไม่มีเหตุชนะคดี การพิจารณาใหม่จึงไม่เป็นประโยชน์
คำขอให้พิจารณาใหม่นั้น นอกจากต้องกล่าวโดยละเอียดชัดแจ้ง ซึ่งเหตุที่ได้ขาดนัดแล้ว ยังต้องกล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลด้วย ทั้งนี้ เพื่อแสดงว่า ตนอาจชนะคดีได้อย่างไรบ้าง หากไม่มีทางชนะคดีแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะพิจารณาพิพากษาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1281/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขาดนัดพิจารณา-สิทธิสืบพยาน-การมอบฉันทะ-การไต่สวนคำร้องขอพิจารณาใหม่
จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อน ก่อนวันนัดสืบพยานจำเลย จำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนศาลสั่งให้มาพูดกันวันนัด ครั้นถึงวันนัด จำเลยและทนายจำเลยไม่มาศาล ศาลสั่งยกคำร้องและถือว่าจำเลยขาดนัดพิจารณา
การที่ศาลสั่งว่า จำเลยขาดนัดพิจารณาและให้นัดสืบพยานโจทก์ต่อไปนั้นเป็นอันเข้าใจได้ว่า ศาลสั่งตัดหรืองดสืบพยานจำเลยแล้ว
ประเด็นแห่งคดีมี 2 ตอน ซึ่งจำเลยจะสืบแก้ได้ภายหลังอีกนั้น เมื่อศาลสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาและให้นัดสืบพยานโจทก์ ศาลสืบพยานโจทก์จนโจทก์แถลงไม่ติดใจสืบพยานต่อไป จำเลยมิได้แถลงขอสืบพยานจำเลยในตอน 2 อีกเลยทั้งๆ ที่มีเวลา ดังนี้ จำเลยจะมาคัดค้านเมื่อศาลพิพากษาคดีแล้ว หาชอบไม่
ผู้รับมอบฉันทะจากทนายความให้มาฟังคำสั่งศาลและกำหนดวันนัดจะถือว่าผู้รับมอบฉันทะนั้นเป็นตัวแทนของตัวความหรือทนายความในการดำเนินคดีไม่ได้ เพราะไม่มีอำนาจที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาใดๆ แทนตัวความ ถือไม่ได้ว่าตัวความหรือทนายตัวความมาศาล
การไต่สวนคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ศาลอาจใช้วิธีสอบถามก็ได้
การที่ศาลสั่งว่า จำเลยขาดนัดพิจารณาและให้นัดสืบพยานโจทก์ต่อไปนั้นเป็นอันเข้าใจได้ว่า ศาลสั่งตัดหรืองดสืบพยานจำเลยแล้ว
ประเด็นแห่งคดีมี 2 ตอน ซึ่งจำเลยจะสืบแก้ได้ภายหลังอีกนั้น เมื่อศาลสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาและให้นัดสืบพยานโจทก์ ศาลสืบพยานโจทก์จนโจทก์แถลงไม่ติดใจสืบพยานต่อไป จำเลยมิได้แถลงขอสืบพยานจำเลยในตอน 2 อีกเลยทั้งๆ ที่มีเวลา ดังนี้ จำเลยจะมาคัดค้านเมื่อศาลพิพากษาคดีแล้ว หาชอบไม่
ผู้รับมอบฉันทะจากทนายความให้มาฟังคำสั่งศาลและกำหนดวันนัดจะถือว่าผู้รับมอบฉันทะนั้นเป็นตัวแทนของตัวความหรือทนายความในการดำเนินคดีไม่ได้ เพราะไม่มีอำนาจที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาใดๆ แทนตัวความ ถือไม่ได้ว่าตัวความหรือทนายตัวความมาศาล
การไต่สวนคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ศาลอาจใช้วิธีสอบถามก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1078-1079/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดพิจารณาคดี: ศาลอุทธรณ์ให้พิจารณาใหม่หากไม่ได้จงใจขาดนัด แม้การขอเลื่อนไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
ขอเลื่อนการสืบพยานโจทก์นัดแรกซึ่งโจทก์มีหน้าที่สืบก่อนโดยวิทยุมาแจ้งให้ศาลทราบก่อนวันนัด 1 วัน ความว่าทนายโจทก์ขอเลื่อนคดีเพราะไม่มีรถมา มาศาลไม่ทัน ตัวโจทก์มาศาลในตอนสายวันนั้นหลังจากศาลสั่งให้โจทก์ขาดนัดพิจารณาแล้วแถลงว่ารอทนายอยู่ที่บ้าน แม้การขอเลื่อนของทนายทางวิทยุจะไม่ชอบด้วยกฎหมายแต่ก็แสดงว่า ทนายและโจทก์มิได้จงใจขาดนัดพิจารณาหากแต่มีความจำเป็นเกิดขึ้นที่ทนายไม่อาจมาศาลได้