พบผลลัพธ์ทั้งหมด 411 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 67/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องอาญาไม่ระบุวันเวลาที่แน่นอน ศาลฎีกาตัดสินว่าไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม หากโจทก์แถลงเหตุผลความจำเป็นในการระบุช่วงเวลา
โจทก์บรรยายฟ้องว่าเมื่อระหว่างวันที่ 5 มิ.ย. 95 + เวลากลางวัน จำเลยสมคบกันใช้ปืนยิงผู้ตายตายและโจทก์ได้แถลงให้ทราบแล้วว่าวันใดวันหนึ่งระหว่าง 14 วันที่กล่าวในฟ้อง ดังนี้ ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 651/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องเคลือบคลุมเรื่องพินัยกรรม: ข้อหาปลอมแปลง vs. ถูกหลอกลวงลงนาม ทำให้ฟ้องไม่ชัดเจน
ฟ้องอ้างว่าพินัยกรรมปลอมเจ้ามรดกมิได้ทำขึ้นและว่าถ้าหากมีลายมือชื่อเจ้ามรดกก็เป็นเพราะถูกหลอกลวงให้หลงผิด ฯลฯ ทั้งพฤติการณ์ที่ทำให้เกิดพินัยกรรมนี้ก็ไม่ชอบด้วย ก.ม.นับเป็นการแสดงสภาพแห่งข้อหาขัดแย้งกันจึงเป็นฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องว่าเจ้ามรดกทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาให้โจทก์เป็นผู้รับมรดกตามพินัยกรรมและขอให้สั่งว่าพินัยกรรมฉบับที่จำเลยอ้างว่าเจ้ามรดกทำให้จำเลยภายหลังนั้นไม่สมบูรณ์ด้วย
เมื่อปรากฎว่าคำฟ้องที่เกี่ยวกับขอให้ทำลายพินัยกรรมเคลือบคลุมก็ยังคงเหลือประเด็นตามคำฟ้องที่โจทก์ขอให้ศาลสั่งว่าโจทก์เป็นผู้รับมรดกตามพินัยกรรมฉบับแรก ศาลต้องพิพากษาคดีต่อไป จะยกฟ้องเสียทีเดียวไม่ได้
โจทก์ฟ้องว่าเจ้ามรดกทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาให้โจทก์เป็นผู้รับมรดกตามพินัยกรรมและขอให้สั่งว่าพินัยกรรมฉบับที่จำเลยอ้างว่าเจ้ามรดกทำให้จำเลยภายหลังนั้นไม่สมบูรณ์ด้วย
เมื่อปรากฎว่าคำฟ้องที่เกี่ยวกับขอให้ทำลายพินัยกรรมเคลือบคลุมก็ยังคงเหลือประเด็นตามคำฟ้องที่โจทก์ขอให้ศาลสั่งว่าโจทก์เป็นผู้รับมรดกตามพินัยกรรมฉบับแรก ศาลต้องพิพากษาคดีต่อไป จะยกฟ้องเสียทีเดียวไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 651/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องเคลือบคลุมเรื่องพินัยกรรม: ข้อหาปลอมแปลง vs. ถูกหลอกลวงลงชื่อ ทำให้การพิจารณาไม่ชัดเจน
ฟ้องอ้างว่าพินัยกรรมปลอมเจ้ามรดกมิได้ทำขึ้นและว่าถ้าหากมีลายมือชื่อเจ้ามรดกก็เป็นเพราะถูกหลอกลวงให้หลงผิด ฯลฯ ทั้งพฤติการณ์ที่ทำให้เกิดพินัยกรรมนี้ก็ไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้นเป็นการแสดงสภาพแห่งข้อหาขัดแย้งกันจึงเป็นฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องว่าเจ้ามรดกทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาให้โจทก์เป็นผู้รับมรดกตามพินัยกรรมและขอให้สั่งว่าพินัยกรรมฉบับที่จำเลยอ้างว่าเจ้ามรดกทำให้จำเลยภายหลังนั้นไม่สมบูรณ์ด้วย
เมื่อปรากฏว่าคำฟ้องที่เกี่ยวกับขอให้ทำลายพินัยกรรมเคลือบคลุมก็ยังคงเหลือประเด็นตามคำฟ้องที่โจทก์ขอให้ศาลสั่งว่าโจทก์เป็นผู้รับมรดกตามพินัยกรรมฉบับแรกศาลต้องพิพากษาคดีต่อไป จะยกฟ้องเสียทีเดียวไม่ได้
โจทก์ฟ้องว่าเจ้ามรดกทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาให้โจทก์เป็นผู้รับมรดกตามพินัยกรรมและขอให้สั่งว่าพินัยกรรมฉบับที่จำเลยอ้างว่าเจ้ามรดกทำให้จำเลยภายหลังนั้นไม่สมบูรณ์ด้วย
เมื่อปรากฏว่าคำฟ้องที่เกี่ยวกับขอให้ทำลายพินัยกรรมเคลือบคลุมก็ยังคงเหลือประเด็นตามคำฟ้องที่โจทก์ขอให้ศาลสั่งว่าโจทก์เป็นผู้รับมรดกตามพินัยกรรมฉบับแรกศาลต้องพิพากษาคดีต่อไป จะยกฟ้องเสียทีเดียวไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 30/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องเคลือบคลุมทำให้จำเลยเสียเปรียบ: ลักทรัพย์ vs. รับของโจร
ในคดีความผิดฐานลักทรัพย์และรับของโจรนั้น เมื่อโจทก์ฟ้องกล่าวขัดแย้งกันในตัวโดยบรรยายฟ้องข้อ 1.ยืนยันว่าจำเลยลักทรัพย์โจทก์ แต่ในข้อ 2 กลับกล่าวแถมว่าจำเลยทำผิดฐานรับของโจรมิหนำซ้ำยังเพิ่มความในวงเล็บอันทำให้เข้าใจไปได้ว่าทรัพย์เหล่านั้นได้หายมาก่อนวันตามฟ้องข้อ 1 ดีงนี้เป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่อาจทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 30/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องเคลือบคลุมทำให้จำเลยเสียเปรียบ: การบรรยายฟ้องที่ขัดแย้งกันในข้อหาลักทรัพย์และรับของโจร
ในคดีความผิดฐานลักทรัพย์และรับของโจรนั้นเมื่อโจทก์ฟ้องกล่าวขัดแย้งกันในตัวโดยบรรยายฟ้องข้อ 1 ยืนยันว่าจำเลยลักทรัพย์โจทก์ แต่ในข้อ 2 กลับกล่าวแถมว่าจำเลยทำผิดฐานรับของโจรมิหนำซ้ำยังเพิ่มความในวงเล็บอันทำให้เข้าใจไปได้ว่าทรัพย์เหล่านั้นได้หายมาก่อนวันตามฟ้องข้อ 1 ดังนี้เป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่อาจทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1733/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดินของคนต่างด้าว, ฟ้องเคลือบคลุม, การครอบครองปรปักษ์ และการยกเหตุไม่รับคำร้องของศาล
พ.ร.บ.ที่ดินในส่วนที่เกี่ยวกับคนต่างด้าว พ.ศ.2486 มิได้ห้ามเด็ดขาดว่าคนต่างด้าวถือกรรมสิทธิที่ดินไม่ได้ และแม้จะเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนก็ตามอยู่ในดุลยพินิจของศาลที่จะยกขึ้นพิจารณาหรือไม่ตาม วิ.แพ่ง ม.225 วรร 2 ประกอบด้วย ม. 247
จำเลยยื่นคำให้การเพิ่มเติมอ้างว่าโจทก์เป็นคนต่างด้าวไม่มีสิทธิถือกรรมสิทธิ เมื่อศาลชั้นต้นยกคำร้องและจำเลยไม่ได้โต้แย้งคำสั่งนั้น ประการใดจึงหมดสิทธิอุทธรณ์ตาม วิ.แพ่ง ม.226(2)
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ถือกรรมสิทธิในที่ดินโดยพี่สาวโจทก์ซื้อมาแล้วตกได้แก่โจทก์จำเลยขัดขวาง แม้โจทก์มิได้บรรยายลักษณะที่ดินและโจทก์มิได้ส่งสำเนาเอกสารซื้อขายก็ตามก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะจำเลยเข้าใจฟ้องได้แล้วส่วนสำเนาเอกสารโจทก์จะต้องส่งหรือไม่นั้นเป็นเรื่องรับฟังพยานเอกสารได้หรือไม่เพียงใดตาม ป.วิ.แพ่ง ม.88 ไม่เกี่ยวกับเรื่องฟ้องเคลือบคลุม
จำเลยยื่นคำให้การเพิ่มเติมอ้างว่าโจทก์เป็นคนต่างด้าวไม่มีสิทธิถือกรรมสิทธิ เมื่อศาลชั้นต้นยกคำร้องและจำเลยไม่ได้โต้แย้งคำสั่งนั้น ประการใดจึงหมดสิทธิอุทธรณ์ตาม วิ.แพ่ง ม.226(2)
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ถือกรรมสิทธิในที่ดินโดยพี่สาวโจทก์ซื้อมาแล้วตกได้แก่โจทก์จำเลยขัดขวาง แม้โจทก์มิได้บรรยายลักษณะที่ดินและโจทก์มิได้ส่งสำเนาเอกสารซื้อขายก็ตามก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะจำเลยเข้าใจฟ้องได้แล้วส่วนสำเนาเอกสารโจทก์จะต้องส่งหรือไม่นั้นเป็นเรื่องรับฟังพยานเอกสารได้หรือไม่เพียงใดตาม ป.วิ.แพ่ง ม.88 ไม่เกี่ยวกับเรื่องฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1733/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดินของคนต่างด้าว, การฟ้องเคลือบคลุม, และการครอบครองปรปักษ์: ศาลฎีกายืนตามคำพิพากษาเดิม
พระราชบัญญัติที่ดินในส่วนที่เกี่ยวกับคนต่างด้าว พ.ศ.2486มิได้ห้ามเด็ดขาดว่าคนต่างด้าวถือกรรมสิทธิ์ที่ดินไม่ได้ และแม้จะเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนก็ตามก็อยู่ในดุลพินิจของศาลที่จะยกขึ้นพิจารณาหรือไม่ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 วรรคสองประกอบด้วย มาตรา 247
จำเลยยื่นคำให้การเพิ่มเติมอ้างว่าโจทก์เป็นคนต่างด้าวไม่มีสิทธิถือกรรมสิทธิ์ เมื่อศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง และจำเลยไม่ได้โต้แย้งคำสั่งนั้นประการใดจึงหมดสิทธิอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226(2)
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ถือกรรมสิทธิในที่ดินโดยพี่สาวโจทก์ซื้อมาแล้วตกได้แก่โจทก์จำเลยขัดขวาง แม้โจทก์มิได้บรรยายลักษณะที่ดินและโจทก์มิได้ส่งสำเนาเอกสารซื้อขายก็ตามก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะจำเลยเข้าใจฟ้องได้แล้วส่วนสำเนาเอกสารโจทก์จะต้องส่งหรือไม่นั้นเป็นเรื่องรับฟังพยานเอกสารได้หรือไม่เพียงใดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 ไม่เกี่ยวกับเรื่องฟ้องเคลือบคลุม
จำเลยยื่นคำให้การเพิ่มเติมอ้างว่าโจทก์เป็นคนต่างด้าวไม่มีสิทธิถือกรรมสิทธิ์ เมื่อศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง และจำเลยไม่ได้โต้แย้งคำสั่งนั้นประการใดจึงหมดสิทธิอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226(2)
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ถือกรรมสิทธิในที่ดินโดยพี่สาวโจทก์ซื้อมาแล้วตกได้แก่โจทก์จำเลยขัดขวาง แม้โจทก์มิได้บรรยายลักษณะที่ดินและโจทก์มิได้ส่งสำเนาเอกสารซื้อขายก็ตามก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะจำเลยเข้าใจฟ้องได้แล้วส่วนสำเนาเอกสารโจทก์จะต้องส่งหรือไม่นั้นเป็นเรื่องรับฟังพยานเอกสารได้หรือไม่เพียงใดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 ไม่เกี่ยวกับเรื่องฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1654/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกร้องค่าเช่าหลังจดทะเบียนนิติบุคคล, ฟ้องซ้ำ, ฟ้องเคลือบคลุม และผลของการอุทิศที่ดิน
คดีเดิมโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยต่อสู้กรรมสิทธิศาลพิพากษาขับไล่ โจทก์จึงฟ้องเรียกค่าเช่าที่จำเลย+ยังค้างอยู่ในคดีเดิมเป็นคดีใหม่ขึ้นเช่นนี้ไม่เป็นฟ้องซ้ำต้องห้าม
ผู้ที่อุทิศที่ดินให้แก่ผู้อื่น (นิติบุคคล) ไปแล้วและเข้าร่วมกับนิติบุคคลเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยเช่นนี้ไม่ทำให้เป็นฟ้องเคลือบคลุม
ผู้ที่อุทิศที่ดินให้แก่ผู้อื่น (นิติบุคคล) ไปแล้วและเข้าร่วมกับนิติบุคคลเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยเช่นนี้ไม่ทำให้เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1654/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการฟ้องเรียกค่าเช่าหลังจดทะเบียนนิติบุคคล และประเด็นฟ้องซ้ำ/เคลือบคลุม
คดีเดิมโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยต่อสู้กรรมสิทธิ์ ศาลพิพากษาขับไล่ โจทก์จึงฟ้องเรียกค่าเช่าที่จำเลยเก็บรักษาไว้และยังค้างอยู่ในคดีเดิมเป็นคดีใหม่ขึ้นเช่นนี้ไม่เป็นฟ้องซ้ำต้องห้าม
ผู้ที่อุทิศที่ดินให้แก่ผู้อื่น (นิติบุคคล) ไปแล้วและ เข้าร่วมกับนิติบุคคลเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยเช่นนี้ไม่ทำให้เป็นฟ้องเคลือบคลุม
ผู้ที่อุทิศที่ดินให้แก่ผู้อื่น (นิติบุคคล) ไปแล้วและ เข้าร่วมกับนิติบุคคลเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยเช่นนี้ไม่ทำให้เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1654/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกค่าเช่าหลังจดทะเบียนนิติบุคคล, ฟ้องซ้ำ, และฟ้องเคลือบคลุม: กรณีสุเหร่าวัดคิด
คดีเดิมโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยต่อสู้กรรมสิทธิ์ ศาลพิพากษาขับไล่ โจทก์จึงฟ้องเรียกค่าเช่าที่จำเลยเก็บรักษาไว้และยังค้างอยู่ในคดีเดิมเป็นคดีใหม่ขึ้นเช่นนี้ไม่เป็นฟ้องซ้ำต้องห้าม
ผู้ที่อุทิศที่ดินให้แก่ผู้อื่น (นิติบุคคล) ไปแล้วและ เข้าร่วมกับนิติบุคคลเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยเช่นนี้ไม่ทำให้เป็นฟ้องเคลือบคลุม
ผู้ที่อุทิศที่ดินให้แก่ผู้อื่น (นิติบุคคล) ไปแล้วและ เข้าร่วมกับนิติบุคคลเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยเช่นนี้ไม่ทำให้เป็นฟ้องเคลือบคลุม