คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ลักทรัพย์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,595 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3209/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทรัพย์ของกลางต้องพิสูจน์ความเชื่อมโยงกับความผิดฐานลักทรัพย์ก่อน จึงจะรับฟังได้ว่าจำเลยมีความผิดฐานรับของโจร
เมื่อคดียังฟังไม่ได้ว่าเงินของกลางเป็นทรัพย์ของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายลักไป ก็ไม่อาจรับฟังได้ว่าเงินของกลางดังกล่าวเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ อันจะทำให้จำเลยมีความผิดฐานรับของโจร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3200/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับซื้อทรัพย์สินที่ได้มาจากการลักทรัพย์ โดยรู้ว่าเป็นของผิดกฎหมาย ถือเป็นความผิดฐานรับของโจร
จำเลยได้รับซื้อรถจักรยานยนต์ของกลางไว้ซึ่งเป็นรถที่มีทะเบียนแต่จำเลยก็ยังรับซื้อมาในราคาเพียง3,000บาทซึ่งเป็นราคาถูกผิดปกติอย่างมากโดยมิได้สนใจเรื่องการโอนทะเบียนรถพฤติการณ์มีเหตุบ่งชี้ชัดแจ้งว่าจำเลยรับซื้อรถจักรยานยนต์ของกลางไว้โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาโดยการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์จำเลยจึงมีความผิดฐานรับของโจร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 249/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดลักทรัพย์ที่รวมอยู่ในความผิดปล้นทรัพย์ ศาลลงโทษฐานลักทรัพย์ได้
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองกับพวกร่วมกันปล้นเอาเงินสดของส.ไป โดยร่วมกันใช้อาวุธมีดปลายแหลมแทง ส. เป็นเหตุให้ ส.ถึงแก่ความตายขอให้ลงโทษตาม ป.อ. มาตรา 288, 289 และ 340 คดีฟังได้แต่เพียงว่า จำเลยที่ 2 ได้ล้วงเอาเงินสดจากผู้ตายไปจริง อันเป็นความผิดฐานร่วมกับพวกอีกคนหนึ่งลักทรัพย์ของทายาทผู้ตายเท่านั้น ข้อเท็จจริงไม่อาจรับฟังเลยไปถึงว่า จำเลยที่ 2ได้ร่วมกับคนร้ายอื่นชิงทรัพย์หรือปล้นทรัพย์หรือฆ่าผู้ตายตามฟ้อง ซึ่งความผิดฐานลักทรัพย์เป็นความผิดที่มีการกระทำรวมอยู่ในความผิดฐานปล้นทรัพย์ และเป็นความผิดได้อยู่ในตัวเอง ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานลักทรัพย์ได้ ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 192 วรรคท้าย
ลำพังแต่คำให้การซัดทอดในชั้นสอบสวนของจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นคนร้ายด้วยกัน ย่อมไม่อาจฟังลงโทษจำเลยที่ 1 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 249/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงข้อกล่าวหาจากปล้นทรัพย์ฆ่าเป็นลักทรัพย์ และการรับฟังคำซัดทอดของจำเลยร่วม
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองกับพวกร่วมกันปล้นเอาเงินสดของส.ไปโดยร่วมกันใช้อาวุธมีดปลายแหลมแทง ส. เป็นเหตุให้ ส. ถึงแก่ความตายขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา288,289และ340คดีฟังได้แต่เพียงว่าจำเลยที่2ได้ล้วงเอาเงินสดจากผู้ตายไปจริงอันเป็นความผิดฐานร่วมกับพวกอีกคนหนึ่งลักทรัพย์ของทายาทผู้ตายเท่านั้นข้อเท็จจริงไม่อาจรับฟังเลยไปถึงว่าจำเลยที่2ได้ร่วมกับคนร้ายอื่นชิงทรัพย์หรือปล้นทรัพย์หรือฆ่าผู้ตายตามฟ้องซึ่งความผิดฐานลักทรัพย์เป็นความผิดที่มีการกระทำรวมอยู่ในความผิดฐานปล้นทรัพย์และเป็นความผิดได้อยู่ในตัวเองศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยที่2ฐานลักทรัพย์ได้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา192วรรคท้าย ลำพังแต่คำให้การซัดทอดในชั้นสอบสวนของจำเลยที่2ซึ่งเป็นคนร้ายด้วยกันย่อมไม่อาจฟังลงโทษจำเลยที่1ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2298/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาลงโทษนอกเหนือจากคำฟ้อง: ศาลฎีกาแก้ไขโทษฐานลักทรัพย์ ให้เป็นไปตามฟ้องเดิม
โจทก์บรรยายฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ในเคหสถานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(8) การที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยในความผิดฐานลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใด ๆ อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335(3) ด้วย จึงเป็นการพิพากษาถึงข้อที่โจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสี่ ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา 225

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2298/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาลงโทษเกินกว่าที่ฟ้อง การฟ้องเฉพาะลักทรัพย์ในเคหสถาน ศาลลงโทษฐานบุกรุกทำอันตรายสิ่งกีดกั้นด้วยไม่ได้
โจทก์บรรยายฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ในเคหสถานตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา335(8)การที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยในความผิดฐานลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา335(3)ด้วยจึงเป็นการพิพากษาถึงข้อที่โจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา192วรรคสี่ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา195วรรคสองประกอบด้วยมาตรา225

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2182/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์เอกสารสำคัญของชุมชน ทำให้ผู้เสียหายไม่สามารถดำเนินการปลดประธานชุมชนได้
จำเลยเอาเอกสารบัญชีรายชื่อหัวหน้าครอบครัวในเขตชุมชนซึ่งประชาชนนำมามอบให้ผู้เสียหายเป็นผู้เก็บรักษาไว้ไปแล้วไม่คืนให้ผู้เสียหายเป็นเหตุให้ผู้เสียหายไม่สามารถนำไปยื่นต่อผู้อำนวยการเขตเพื่อให้ความเห็นชอบให้จำเลยพ้นจากตำแหน่งประธานชุมชนได้เป็นการกระทำที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหายหรือประชาชนมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา188

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2046/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษจำเลยในความผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร จำเป็นต้องสืบพยานให้ชัดเจนถึงฐานความผิดที่จำเลยกระทำ
ฟ้องขอให้ลงโทษลักทรัพย์หรือรับของโจร แสดงว่าโจทก์ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยข้อหาใดข้อหาหนึ่งเพียงข้อหาเดียวเพราะเป็นความผิดคนละฐานกัน จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องโจทก์ทุกประการ ไม่ชัดเจนพอที่จะชี้ขาดว่าจำเลยกระทำผิดฐานใดแม้จะเป็นแบบพิมพ์คำให้การที่โรเนียวล่วงหน้าไว้ก็ตามก็เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องสืบพยานให้ได้ความถึงการกระทำผิดฐานใดฐานหนึ่งของจำเลย มิฉะนั้นลงโทษไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2046/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษจำเลยในความผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร ต้องมีการสืบพยานให้ชัดเจนถึงฐานความผิดที่จำเลยกระทำ
ฟ้องขอให้ลงโทษ ลักทรัพย์หรือ รับของโจร แสดงว่า โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยข้อหาใดข้อหาหนึ่งเพียงข้อหาเดียวเพราะเป็นความผิดคนละฐานกันจำเลยให้การ รับสารภาพตามฟ้องโจทก์ทุกประการไม่ชัดเจนพอที่จะชี้ขาดว่าจำเลยกระทำผิดฐานใดแม้จะเป็น แบบพิมพ์ คำให้การที่โรเนียวล่วงหน้าไว้ก็ตามก็เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้อง สืบพยานให้ได้ความถึงการกระทำผิดฐานใดฐานหนึ่งของจำเลยมิฉะนั้นลงโทษไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1670/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์ข้อหาลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงเป็นรับของโจร ศาลมีอำนาจลงโทษได้หากโจทก์ไม่โต้แย้ง
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสี่ในความผิดฐาน ลักทรัพย์ จำเลยทั้งสี่ให้การปฏิเสธและนำสืบอ้างฐานที่อยู่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าพยานหลักฐานโจทก์ไม่มีน้ำหนักพอฟังลงโทษจำเลยทั้งสี่ในความผิดฐานลักทรัพย์แต่มิได้วินิจฉัยว่าข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิจารณาจำเลยทั้งสี่กระทำความผิดฐานรับของโจรหรือไม่เมื่อโจทก์เห็นว่าข้อเท็จจริงตามพยานหลักฐานที่นำสืบจำเลยที่1ถึงที่3มีความผิดฐานรับของโจร ก็ชอบจะอุทธรณ์ให้ศาลลงโทษจำเลยที่1ถึงที่3ในความผิดฐานดังกล่าวได้ โจทก์นำสืบพยานหลักฐานว่าจำเลยทั้งสี่กระทำผิดฐานลักทรัพย์ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่ามีคนร้ายลักทรัพย์จริงแต่พยานหลักฐานโจทก์ไม่มีน้ำหนักพอฟังลงโทษจำเลยทั้งสี่แล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์โจทก์ไม่อุทธรณ์ในข้อหาความผิดฐานลักทรัพย์ต้องถือว่าจำเลยทั้งสี่มิได้กระทำผิดฐานลักทรัพย์คงมีปัญหาในชั้นอุทธรณ์ตามที่โจทก์อุทธรณ์ว่าจำเลยที่1ถึงที่3กระทำผิดฐานรับของโจรหรือไม่เท่านั้นการที่ศาลอุทธรณ์ภาค2พิจารณาว่าพฤติการณ์ของจำเลยที่1ถึงที่3ฟังได้ว่าเป็นการช่วยพาเอาไปเสียซึ่งทรัพย์อันได้มาโดยการกระทำผิดฐานลักทรัพย์และพิพากษาลงโทษฐานรับของโจรจึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา192วรรคสามแล้ว
of 160