พบผลลัพธ์ทั้งหมด 558 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2271/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความมีผลผูกพันเด็ดขาด ศาลไม่สามารถวินิจฉัยข้อเท็จจริงเดิมที่เคย争กันได้
โจทก์จำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในประเด็นแห่งคดีศาลชั้นต้นพิพากษาไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น จำเลยไม่ได้อุทธรณ์ตามข้อยกเว้นที่จะอุทธรณ์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 138(1)(2) และ (3)คดีจึงถึงที่สุดไปตามคำพิพากษาตามยอมแล้ว ศาลจะดำเนินกระบวนพิจารณาในเรื่องที่จำเลยอ้างอันเป็นข้อเท็จจริง ในประเด็นแห่งคดีที่ศาลได้พิพากษาถึงที่สุดไปแล้ว และวินิจฉัยคดีใหม่อีกย่อมไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144 วรรคแรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2147/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อผิดพลาดในการวินิจฉัยศาล: การหยิบยกข้อเท็จจริงนอกสำนวนและการสันนิษฐานซ้อนสันนิษฐาน
โจทก์ฎีกาว่า ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์หยิบยกข้อเท็จจริงนอกสำนวนขึ้นวินิจฉัย และทำการสันนิษฐานซ้อนสันนิษฐานหลายประการขึ้นอ้าง โดยมิได้กล่าวให้ชัดว่าได้แก่การรับฟังข้อความใดบ้างและข้อวินิจฉัยใดบ้าง เป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 วรรคสอง และ มาตรา 195 ประกอบด้วยมาตรา 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2082/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอคืนของกลางที่ศาลวินิจฉัยแล้วว่าผู้ร้องไม่ใช่เจ้าของ ถือเป็นการฟ้องซ้ำที่ต้องห้ามตามกฎหมาย
ผู้ร้องร้องขอให้คืนของกลางที่ศาลพิพากษาให้ริบ ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วสั่งว่าพยานหลักฐานของผู้ร้องยังรับฟังไม่ได้ว่าผู้ร้องเป็นเจ้าของของกลาง ให้ยกคำร้องดังนี้เท่ากับฟังว่าผู้ร้องไม่ได้เป็นเจ้าของของกลางอันแท้จริงนั่นเอง ผู้ร้องมายื่นคำร้องขอคืนของกลางอีก จึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลนั้นอันเกี่ยวกับคดีหรือประเด็นที่ได้วินิจฉัยชี้ขาดแล้ว ต้องห้ามตามประมวลพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144 จะอ้างว่าคำสั่งตามคำร้องฉบับก่อนนั้นยังไม่ได้วินิจฉัยชี้ขาดว่าผู้ร้องไม่ได้เป็นเจ้าของแท้จริงหาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2289/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำ: คำร้องขอถอนการยึดทรัพย์ที่ถูกวินิจฉัยแล้ว
ชั้นบังคับคดี ศาลวินิจฉัยสั่งคำร้องขอให้ถอนการยึดทรัพย์ของจำเลยไปแล้วว่าการมอบอำนาจของโจทก์ใช้บังคับได้ จำเลยมาร้องใหม่ในเหตุเดียวกับคำร้องเดิม เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2094/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดพิจารณาคดีและการอุทธรณ์คำสั่ง ศาลฎีกาวินิจฉัยได้แม้ไม่มีการฎีกา
ศาลชั้นต้นยกคำร้องที่จำเลยอ้างว่าไม่จงใจขาดนัดและขอให้รับคำให้การ จำเลยไม่โต้แย้งคำสั่งนี้ จำเลยอุทธรณ์ไม่ได้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกฟ้อง โจทก์ฎีกา จำเลยอ้างในคำแก้ฎีกาขอให้ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหานี้ได้โดยจำเลยไม่ต้องฎีกา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2075/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประเด็นความประมาทเลินเล่อในการวินิจฉัยข้อเท็จจริงของศาลอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นรับอุทธรณ์โจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกอุทธรณ์โดยเห็นว่าเป็นข้อเท็จจริง โจทก์ฎีกาได้ อุทธรณ์นั้นรับข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัย แต่คัดค้านว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงดังนี้ เป็นปัญหากฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 992/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่ชอบ: โจทก์ฎีกาคัดค้านข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ไม่ได้วินิจฉัย แทนที่จะคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นสั่งเกี่ยวกับคำร้องขอให้มีการพิจารณาใหม่ของจำเลย แล้วดำเนินกระบวนพิจารณาและพิพากษาใหม่ตามรูปคดี โจทก์ฎีกาว่าข้อเท็จจริงควรฟังว่าที่พิพาทเป็นที่ไม่มีโฉนด โจทก์ซื้อและครอบครองด้วยเจตนาเป็นเจ้าของมากว่า 20 ปีโจทก์ฟ้องคดีโดยสุจริต ดังนี้ โจทก์มิได้ฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่ามีเหตุผลประการใดที่ศาลอุทธรณ์ไม่ควรพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น แต่กลับไปฎีกาคัดค้านข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ไม่ได้หยิบยกขึ้นวินิจฉัย จึงเป็นฎีกาไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2833/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยประเด็นแย่งการครอบครองที่ดิน ศาลต้องยึดตามข้อต่อสู้ของจำเลย และไม่ยกขึ้นวินิจฉัยเองหากไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยและให้รื้อถอนบ้านเรือนของจำเลยซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินที่โจทก์ซื้อมาและครอบครองอยู่ จำเลยให้การต่อสู้ว่าที่ดินที่จำเลยปลูกเรือนเป็นของนายเอิบ นางไข่ บัวงาม หรือเป็นที่ดินที่ทางราชการหวงห้ามไว้ให้เป็นที่ว่างเปล่า และโจทก์ไม่ได้ซื้อที่ดินกับรับโอนโดยทุจริต ดังนั้น ตามคำให้การจำเลยไม่อาจมีเรื่องจำเลยแย่งการครอบครองที่ดินที่จำเลยปลูกเรือนอยู่จากโจทก์ จึงไม่มีการอ้างสิทธ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 ได้ ศาลก็ไม่อาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เพราะเป็นการวินิจฉัยขัดแย้งกับประเด็นที่จำเลยต่อสู้ไว้ในคำให้การ และไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลจะยกขึ้นวินิจฉัยเองไม่ได้ ฉะนั้น ที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยแล้วยกเรื่องการอ้างสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 ขึ้นวินิจฉัยจึงเป็นการไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 967/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องร้องเช็ค: ศาลไม่จำเป็นต้องกะประเด็นใหม่หากศาลล่างวินิจฉัยแล้วว่าไม่ขาดอายุความ
แม้ศาลชั้นต้นจะไม่ได้กะประเด็นเรื่องอายุความไว้ตามที่จำเลยให้การต่อสู้คดี แต่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ก็ได้วินิจฉัยในประเด็นนี้แล้วว่า คดีไม่ขาดอายุความ จึงไม่มีเหตุสมควรที่ศาลฎีกาจะต้องให้ศาลชั้นต้นกะประเด็นแล้วพิจารณาพิพากษาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 967/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยอายุความของเช็ค แม้ศาลชั้นต้นไม่ได้กะประเด็นไว้โดยชัดแจ้ง แต่หากศาลได้วินิจฉัยแล้ว ศาลฎีกาไม่จำเป็นต้องย้อนสำนวน
แม้ศาลชั้นต้นจะไม่ได้กะประเด็นเรื่องอายุความไว้ตามที่จำเลยให้การต่อสู้คดีแต่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ก็ได้วินิจฉัยในประเด็นนี้แล้วว่า คดีไม่ขาดอายุความ จึงไม่มีเหตุสมควรที่ศาลฎีกาจะต้องให้ศาลชั้นต้นกะประเด็นแล้วพิจารณาพิพากษาใหม่