พบผลลัพธ์ทั้งหมด 359 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 281/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการยกอายุความในชั้นศาล แม้มิได้ยกในชั้นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ และผลของการชำระหนี้บางส่วนต่ออายุความ
กรณีที่ผู้ร้องได้ปฏิเสธหนี้เมื่อถูกเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เรียกร้องให้ชำระตาม มาตรา 119แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 นั้นแม้ผู้ร้องจะมิได้กล่าวอ้างว่าหนี้รายนั้นขาดอายุความในชั้นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็ตาม ผู้ร้องก็มีสิทธิที่จะยกขึ้นกล่าวต่อสู้ในชั้นศาลได้
การชำระหนี้ให้บางส่วน อายุความย่อมสะดุดหยุดลงตามมาตรา 172 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และตั้งแต่นับอายุความใหม่โดยถืออายุความเดิมนั้น
การชำระหนี้ให้บางส่วน อายุความย่อมสะดุดหยุดลงตามมาตรา 172 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และตั้งแต่นับอายุความใหม่โดยถืออายุความเดิมนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 276/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิรับดอกผลจากทรัพย์สินที่เช่าหลังเลิกสัญญาและการดำเนินการของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในคดีล้มละลาย
การที่ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ให้เช่าสิ่งปลูกสร้างร้องขอให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าซึ่งผู้เช่าถูกฟ้องล้มละลายคืนแก่ตน พร้อมทั้งดอกผลของสิ่งปลูกสร้างตามคำสั่งศาลนั้น คำร้องของผู้ร้องไม่มีลักษณะเป็นการคัดค้านการยึดทรัพย์ และไม่มีสภาพเป็นกรณีที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะดำเนินการสอบสวนและมีคำสั่ง ดังนั้น แม้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะมีคำสั่งประการใด กรณีย่อมไม่เข้าพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 158 และมาตรา 186 ฉะนั้น เมื่อคดีพิพาทเกี่ยวกับสิ่งปลูกสร้างถึงที่สุดแล้วผู้ร้องก็ยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สั่งยกคำคัดค้านของผู้ร้อง ๆ ย่อมมีสิทธิยื่นคำขอต่อศาลได้ ในกรณีที่ผู้ร้องเรียกค่าเช่าอันเป็นดอกผลจากทรัพย์สินที่ให้เช่าในระยะเวลาที่ทรัพย์สินนั้นตกเป็นของผู้ร้องแล้ว เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ต้องส่งมอบเงินค่าเช่านั้นให้แก่ผู้ร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 111 และ 1336
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 311/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความหนี้ซื้อเชื่อและการทวงหนี้โดยเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในคดีล้มละลาย
การซื้อของเชื่อเป็นคราว ๆ ตามวันที่ผู้ขายส่งมอบของนั้น เมื่อผู้ซื้อผ่อนชำระเงินผู้ขายก็เลือกคืนบิลค่าของให้ทุกครั้งโดยกะจำนวนเงินที่ชำระแต่ละครั้งให้พอประมาณกับราคาของในบิล โดยผู้ซื้อหรือผู้ขายไม่เคยตกลงให้รวมยอดบัญชีหนี้สินอย่างบัญชีเดินสะพัดหรือให้รวมเป็นหนี้ก้อนเดียวกันอย่างไรไม่ ดังนี้ มิใช่เป็นการรัรบสภาพหนี้ด้วยการใช้เงินให้บางส่วน หนี้รายใดเกิน 2 ปี เป็นอันขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165 (1)
เมื่อผู้ล้มละลายเป็นเจ้าหนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่จำต้องฟ้องศาลให้บังคับตามสิทธิของผู้ล้มละลาย แต่บังคับได้ด้วยตนเองตามวิธีการในพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 21483 มาตรา 119 ฉะนั้น อายุความตามสิทธิเรียกร้องของผู้ล้มละลายจึงสดุดหยุดลงในวันที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทวงหนี้ไปยังลูกหนี้ของผู้ล้มละลาย ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 178
หนี้รายใดที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้แจ้งให้ลูกหนี้ของผู้ล้มละลายชำระ ถ้าลูกหนี้มิได้คัดค้านตอบปฏิเสธภายใน 14 วันนับแต่วันได้รับแจ้งความ ถือว่าเป็นหนี้กองทรัพย์สินของผู้ล้มละลายอยู่ตามจำนวนนั้นเป็นการเด็ดขาด ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 119
เมื่อผู้ล้มละลายเป็นเจ้าหนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่จำต้องฟ้องศาลให้บังคับตามสิทธิของผู้ล้มละลาย แต่บังคับได้ด้วยตนเองตามวิธีการในพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 21483 มาตรา 119 ฉะนั้น อายุความตามสิทธิเรียกร้องของผู้ล้มละลายจึงสดุดหยุดลงในวันที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทวงหนี้ไปยังลูกหนี้ของผู้ล้มละลาย ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 178
หนี้รายใดที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้แจ้งให้ลูกหนี้ของผู้ล้มละลายชำระ ถ้าลูกหนี้มิได้คัดค้านตอบปฏิเสธภายใน 14 วันนับแต่วันได้รับแจ้งความ ถือว่าเป็นหนี้กองทรัพย์สินของผู้ล้มละลายอยู่ตามจำนวนนั้นเป็นการเด็ดขาด ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 119
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 311/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความหนี้ซื้อของเชื่อ, การทวงหนี้โดยเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์, และผลของการไม่คัดค้านหนี้ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย
การซื้อของเชื่อเป็นคราวๆ ตามวันที่ผู้ขายส่งมอบของนั้นเมื่อผู้ซื้อผ่อนชำระเงินผู้ขายก็เลือกคืนบิลค่าของให้ทุกครั้งโดยกะจำนวนเงินที่ชำระแต่ละครั้งให้พอประมาณกับราคาของในบิลโดยผู้ซื้อหรือผู้ขายไม่เคยตกลงให้รวมยอดบัญชีหนี้สินอย่างบัญชีเดินสะพัด หรือ ให้รวมเป็นหนี้ก้อนเดียวกันอย่างไรไม่ ดังนี้ มิใช่เป็นการรับสภาพหนี้ด้วยการใช้เงินให้บางส่วน หนี้รายใดเกิน 2 ปี เป็นอันขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา165(1)
เมื่อผู้ล้มละลายเป็นเจ้าหนี้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่จำต้องฟ้องศาลให้บังคับตามสิทธิของผู้ล้มละลาย แต่บังคับได้ด้วยตนเองตามวิธีการในพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 119 ฉะนั้น อายุความตามสิทธิเรียกร้องของผู้ล้มละลายจึงสดุดหยุดลงในวันที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทวงหนี้ไปยังลูกหนี้ของผู้ล้มละลาย ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 178
หนี้รายใดที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้แจ้งให้ลูกหนี้ของผู้ล้มละลายชำระถ้าลูกหนี้มิได้คัดค้านตอบปฏิเสธภายใน 14 วันนับแต่วันได้รับแจ้งความ ถือว่าเป็นหนี้กองทรัพย์สินของผู้ล้มละลายอยู่ตามจำนวนนั้นเป็นการเด็ดขาดตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 119
เมื่อผู้ล้มละลายเป็นเจ้าหนี้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่จำต้องฟ้องศาลให้บังคับตามสิทธิของผู้ล้มละลาย แต่บังคับได้ด้วยตนเองตามวิธีการในพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 119 ฉะนั้น อายุความตามสิทธิเรียกร้องของผู้ล้มละลายจึงสดุดหยุดลงในวันที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทวงหนี้ไปยังลูกหนี้ของผู้ล้มละลาย ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 178
หนี้รายใดที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้แจ้งให้ลูกหนี้ของผู้ล้มละลายชำระถ้าลูกหนี้มิได้คัดค้านตอบปฏิเสธภายใน 14 วันนับแต่วันได้รับแจ้งความ ถือว่าเป็นหนี้กองทรัพย์สินของผู้ล้มละลายอยู่ตามจำนวนนั้นเป็นการเด็ดขาดตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 119
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 213/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในการเรียกเงินจากบัญชีที่ไม่ถูกต้อง และการโต้แย้งบัญชีในคำแก้อุทธรณ์
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สั่งให้ผู้ร้องชำระเงินที่ขาดบัญชีไป ผู้ร้องจึงร้องต่อศาล ศาลชั้นต้นเห็นว่าบัญชีเงินที่ขาดถูกต้อง แต่เมื่อพิจารณาประเด็นข้ออื่นแล้วสั่งให้เพิกถอนคำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่สั่งให้ผู้ร้องชำระเงินรายนี้เสีย ผู้ร้องจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอุทธรณ์ต่อไปอีก เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ผุ้แพ้คดีเป็นฝ่ายอุทธรณ์และผู้ร้องได้ยื่นคำแก้อุทธรณ์โต้แย้งเกี่ยวกับบัญชีนี้ว่าไม่ถูกต้องดังที่ได้ร้องคัดค้านไว้แล้วในศาลชั้นต้น ดังนี้ ย่อมมีประเด็นให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยถึงบัญชีนี้ว่าถูกต้องหรือไม่ได้ โยผู้ร้องไม่ต้องอุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 213/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในการเรียกร้องเงินจากบัญชีที่ไม่ถูกต้อง และประเด็นการโต้แย้งบัญชีในชั้นอุทธรณ์
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สั่งให้ผู้ร้องชำระเงินที่ขาดบัญชีไปผู้ร้องจึงร้องต่อศาลศาลชั้นต้นเห็นว่าบัญชีเงินที่ขาดถูกต้อง แต่เมื่อพิจารณาประเด็นข้ออื่นแล้ว สั่งให้เพิกถอนคำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่สั่งให้ผู้ร้องชำระเงินรายนี้เสีย ผู้ร้องจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอุทธรณ์ต่อไปอีก เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ผู้แพ้คดีเป็นฝ่ายอุทธรณ์ และผู้ร้องได้ยื่นคำแก้อุทธรณ์โต้แย้งเกี่ยวกับบัญชีนี้ว่าไม่ถูกต้องดังที่ได้ร้องคัดค้านไว้แล้วในศาลชั้นต้น ดังนี้ ย่อมมีประเด็นให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยถึงบัญชีนี้ว่าถูกต้องหรือไม่ได้ โดยผู้ร้องไม่ต้องอุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1482/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจจัดการทรัพย์สินหลังถูกพิทักษ์ทรัพย์: เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจแต่ผู้เดียวในการต่อสู้คดีเกี่ยวกับทรัพย์สิน
เมื่อจำเลยถูกศาลสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดก่อนโจทก์ฟ้องคดีนี้ จำเลยย่อมหมดอำนาจที่จะทำการใด ๆ เกี่ยวแก่ทรัพย์สินของจำเลย การจัดการรวมทั้งการฟ้องร้องหรือต่อสู้คดีเกี่ยวกับทรัพย์สินของจำเลยย่อมตกอยู่ในอำนาจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่จะจัดการแต่ผู้เดียว ตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย ฯ การที่จะต่อสู้ว่าการทำสัญญาขายฝากเป็นนิติกรรมอำพรางความจริงที่จำเลยจำนองไว้กับฝ่ายโจทก์นั้น จึงเป็นอำนาจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่จะดำเนินการต่อไป และเมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แถลงสละข้อต่อสู้ข้อนี้แล้วโดยจำเลยมิได้โต้แย้ง คำแถลงนี้แต่ประการใด จำเลยจะยกข้อนี้ขึ้นมาต่อสู้และจะขอสืบพยานอีกหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1482/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจจัดการทรัพย์สินหลังพิทักษ์ทรัพย์: เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจแต่เพียงผู้เดียวในการต่อสู้คดีเกี่ยวกับทรัพย์สิน
เมื่อจำเลยถูกศาลสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดก่อนโจทก์ฟ้องคดีนี้ จำเลยย่อมหมดอำนาจที่จะทำการใดๆ เกี่ยวแก่ทรัพย์สินของจำเลย การจัดการรวมทั้งการฟ้องร้องหรือต่อสู้คดีเกี่ยวกับทรัพย์สินของจำเลยย่อมตกอยู่ในอำนาจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่จะจัดการแต่ผู้เดียว ตามมาตรา22 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายการที่จะต่อสู้ว่าการทำสัญญาขายฝากเป็นนิติกรรมอำพรางความจริงที่จำเลยจำนองไว้กับฝ่ายโจทก์นั้น จึงเป็นอำนาจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่จะดำเนินการต่อไป และเมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แถลงสละข้อต่อสู้ข้อนี้แล้วโดยจำเลยมิได้โต้แย้งคำแถลงนี้แต่ประการใด จำเลยจะยกข้อนี้ขึ้นมาต่อสู้และจะขอสืบพยานอีกหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 85/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในการยึดทรัพย์ของลูกหนี้ล้มละลายก่อนมีคำพิพากษา และการดำเนินคดีเช่าซื้อควบคู่กัน
กรณีประนอมหนี้ก่อนมีคำพิพากษาให้ล้มละลายนั้น เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยังไม่หมดอำนาจและหน้าที่ในคดีล้มละลายจะนำมาตรา 63 มาใช้บังคับไม่ได้
ในคดีที่จำเลยเช่าซื้อทรัพย์ไปจากโจทก์แล้ว ไม่ชำระค่าเช่าซื้อ 2 งวด ติดกันคดียังพิพาทกันอยู่ว่าฝ่ายใดผิดสัญญาและโจทก์จะเรียกสิ่งของที่เช่าซื้อกลับคืนไปได้ หรือไม่ จำเลยก็ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในคดีอื่น และเจ้าพนักงานเข้ามาดำเนินคดีนี้แทนจำเลย ทั้งได้โอนสิ่งของที่โจทก์ฟ้องเรียกคืนในคดีนี้เข้าในกองทรัพย์สินของผู้ล้มละลายตามมาตรา 109 (3) ด้วยนั้น คดีที่พิพาทกันเรื่องเช่าซื้อก็ยังต้องดำเนินต่อไป และยังไม่มีทางที่จะให้โจทก์คดีนี้ไปขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 91 ในชั้นนี้ได้
กรณีฟ้องเรียก ทรัพย์ของโจทก์คืนจากจำเลยดังเช่นในคดีนี้ เป็นคนละเรื่องกับกรณีเรียกทรัพย์ที่ถูกยึดคืนจากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 158
ในคดีที่จำเลยเช่าซื้อทรัพย์ไปจากโจทก์แล้ว ไม่ชำระค่าเช่าซื้อ 2 งวด ติดกันคดียังพิพาทกันอยู่ว่าฝ่ายใดผิดสัญญาและโจทก์จะเรียกสิ่งของที่เช่าซื้อกลับคืนไปได้ หรือไม่ จำเลยก็ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในคดีอื่น และเจ้าพนักงานเข้ามาดำเนินคดีนี้แทนจำเลย ทั้งได้โอนสิ่งของที่โจทก์ฟ้องเรียกคืนในคดีนี้เข้าในกองทรัพย์สินของผู้ล้มละลายตามมาตรา 109 (3) ด้วยนั้น คดีที่พิพาทกันเรื่องเช่าซื้อก็ยังต้องดำเนินต่อไป และยังไม่มีทางที่จะให้โจทก์คดีนี้ไปขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 91 ในชั้นนี้ได้
กรณีฟ้องเรียก ทรัพย์ของโจทก์คืนจากจำเลยดังเช่นในคดีนี้ เป็นคนละเรื่องกับกรณีเรียกทรัพย์ที่ถูกยึดคืนจากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 158
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 85/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในคดีล้มละลายและการดำเนินคดีเช่าซื้อควบคู่กัน
กรณีประนอมหนี้ก่อนมีคำพิพากษาให้ล้มละลายนั้นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยังไม่หมดอำนาจและหน้าที่ในคดีล้มละลายจะนำ มาตรา 63 ซึ่งใช้สำหรับการประนอมหนี้หลังจากพิพากษาให้ล้มละลายแล้วมาบังคับไม่ได้
ในคดีที่โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์ที่จำเลยเช่าซื้อไปแล้วผิดนัดไม่ชำระราคาค่าเช่าซื้อ 2 งวด ติดกันคดียังพิพาทกันอยู่ว่าฝ่ายใดผิดสัญญาจำเลยก็ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในคดีล้มละลาย และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เข้ามาดำเนินคดีเช่าซื้อแทนจำเลยทั้งได้โอนสิ่งของที่โจทก์ฟ้องเรียกคืนในคดีเช่าซื้อเข้าในกองทรัพย์สินของผู้ล้มละลายตาม มาตรา 109(3) ด้วยนั้น คดีที่พิพาทกันเรื่องเช่าซื้อก็ยังต้องดำเนินต่อไป ยังไม่มีทางที่จะให้โจทก์คดีเช่าซื้อไปขอรับชำระหนี้ ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 91 ในชั้นนี้ได้
ในคดีที่โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์ที่จำเลยเช่าซื้อไปแล้วผิดนัดไม่ชำระราคาค่าเช่าซื้อ 2 งวด ติดกันคดียังพิพาทกันอยู่ว่าฝ่ายใดผิดสัญญาจำเลยก็ถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในคดีล้มละลาย และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เข้ามาดำเนินคดีเช่าซื้อแทนจำเลยทั้งได้โอนสิ่งของที่โจทก์ฟ้องเรียกคืนในคดีเช่าซื้อเข้าในกองทรัพย์สินของผู้ล้มละลายตาม มาตรา 109(3) ด้วยนั้น คดีที่พิพาทกันเรื่องเช่าซื้อก็ยังต้องดำเนินต่อไป ยังไม่มีทางที่จะให้โจทก์คดีเช่าซื้อไปขอรับชำระหนี้ ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 91 ในชั้นนี้ได้