คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เบิกความเท็จ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 461 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 532/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จต้องเป็นข้อสำคัญแก่คดี จึงจะมีความผิดฐานเบิกความเท็จ
ที่จะเป็นผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 นั้น ความเท็จนั้นจะต้องเป็นข้อสำคัญในคดี
โจทก์จ่ายเช็คให้นายหว่องหวั่นหลีเป็นค่าจ้างในการทำรั้วสังกะสี นายหว่องหวั่นหลีไม่ทำรั้วสังกะสีตามสัญญา โจทก์จึงอายัดเช็คไว้และไม่นำเงินเข้าบัญชีให้พอจ่ายตามเช็ค ภายหลังมีบุคคลที่ 3 อ้างว่าเป็นผู้ทรงเช็คนำเช็คนั้นมาฟ้องอาญาแก่โจทก์ฐานจ่ายเช็คไม่มีเงิน ศาลพิพากษายกฟ้องเรื่องเช็ค โดยเห็นว่าโจทก์อายัดเช็คไว้โดยไม่มีเจตนาทุจริตเพราะนายหว่องหวั่นหลีไม่ทำรั้วให้ตามสัญญา ระหว่างพิจารณาคดีอาญาเรื่องเช็ค จำเลยได้เข้าเบิกความเป็นพยานในคดีอาญาเรื่องเช็คนั้นว่า นายหว่องหวั่นหลีได้นำเช็คนั้นมาแลกเงินสดของจำเลยไป และจำเลยถูกจับเรื่องเล่นการพนันไพ่เผร่วมกับนายหว่องหวั่นหลี แต่มิได้ถูกตำรวจยึดเช็คนั้นไปด้วย ดังนี้ แม้ข้อความที่จำเลยเบิกความต่อศาลนั้นจะเป็นเท็จก็ไม่ใช่ข้อสำคัญแก่คดีที่จะทำให้โจทก์ต้องรับโทษในคดีเรื่องเช็คนั้นแต่อย่างใด การกระทำของจำเลยยังไม่เป็นผิดฐานเบิกความเท็จ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 532/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบิกความเท็จต้องเป็นข้อสำคัญในคดี จึงจะมีความผิดฐานเบิกความเท็จ
ที่จะเป็นผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา177 นั้นความเท็จนั้นจะต้องเป็นข้อสำคัญในคดี
โจทก์จ่ายเช็คให้นายหว่องหวั่นหลีเป็นค่าจ้างในการทำรั้วสังกะสี นายหว่องหวั่นหลีไม่ทำรั้วสังกะสีตามสัญญาโจทก์จึงอายัดเช็คไว้และไม่นำเงินเข้าบัญชีให้พอจ่ายตามเช็ค ภายหลังมีบุคคลที่ 3 อ้างว่าเป็นผู้ทรงเช็คนำเช็คนั้นมาฟ้องอาญาแก่โจทก์ฐานจ่ายเช็คไม่มีเงิน ศาลพิพากษายกฟ้องเรื่องเช็ค โดยเห็นว่าโจทก์อายัดเช็คไว้โดยไม่มีเจตนาทุจริตเพราะนายหว่องหวั่นหลีไม่ทำรั้วให้ตามสัญญาระหว่างพิจารณาคดีอาญาเรื่องเช็ค จำเลยได้เข้าเบิกความเป็นพยานในคดีอาญาเรื่องเช็คนั้นว่านายหว่องหวั่นหลีได้นำเช็คนั้นมาแลกเงินสดของจำเลยไปและจำเลยถูกจับเรื่องเล่นการพนันไพ่เผร่วมกับนายหว่องหวั่นหลีแต่มิได้ถูกตำรวจยึดเช็คนั้นไปด้วยดังนี้ แม้ข้อความที่จำเลยเบิกความต่อศาลนั้นจะเป็นเท็จก็ไม่ใช่ข้อสำคัญแก่คดีที่จะทำให้โจทก์ต้องรับโทษในคดีเรื่องเช็คนั้นแต่อย่างใด การกระทำของจำเลยยังไม่เป็นผิดฐานเบิกความเท็จ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 326/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จเกี่ยวกับราคาสัญญาขายฝาก ไม่เป็นสารสำคัญในคดี
คดีแพ่งจำเลยฟ้องโจทก์ว่าผิดสัญญาเช่าบ้านที่ขายฝากและละเมิดนั้น แม้โจทก์ขายฝากเรือนแก่จำเลย 4,000 บาท แต่จำเลยเบิกความเป็นพยานในคดีแพ่งว่าขายฝากกันราคา 6,400 บาท ก็ไม่มีผลกระทบกระเทือนสัญญาขายฝาก ไม่มีผลเปลี่ยนแปลงสิทธิหน้าที่หรือความรับผิดระหว่างโจทก์จำเลยในคดี และการรับเงินระหว่างโจทก์จำเลยจะรับกันต่อหน้าเจ้าพนักงานหรือไม่ก็ไม่สำคัญ คำเบิกความของจำเลยจึงไม่ใช่ข้อสำคัญในคดี คดีโจทก์ไม่มีมูลฐานเบิกความเท็จตามมาตรา 177

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 326/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จเรื่องราคาสัญญาขายฝาก ไม่เป็นสารสำคัญในคดี ไม่เข้าข่ายความผิดฐานเบิกความเท็จ
คดีแพ่งจำเลยฟ้องโจทก์ว่าผิดสัญญาเช่าบ้านที่ขายฝากและละเมิดนั้น แม้โจทก์ขายฝากเรือนแก่จำเลย 4,000 บาท แต่จำเลยเบิกความเป็นพยานในคดีแพ่งว่าขายฝากกันราคา 6,400 บาท ก็ไม่มีผลกระทบกระเทือนสัญญาขายฝาก ไม่มีผลเปลี่ยนแปลงสิทธิหน้าที่หรือความรับผิดระหว่างโจทก์จำเลยในคดีและการรับเงินระหว่างโจทก์จำเลยจะรับกันต่อหน้าเจ้าพนักงานหรือไม่ก็ไม่สำคัญคำเบิกความของจำเลยจึงไม่ใช่ข้อสำคัญในคดีคดีโจทก์ไม่มีมูลฐานเบิกความเท็จตามมาตรา 177

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1150/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบิกความเท็จที่ไม่เป็นสาระสำคัญในคดีแพ่ง ไม่เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
คู่ความพิพาทกันในเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดิน โจทก์อ้างว่าผู้ตายได้ยกที่พิพาทให้และโจทก์ได้ครอบครองตลอดมา จำเลยต่อสู้ว่าเป็นทายาทและได้รับมรดก แต่ได้ให้โจทก์ดูแลแทน คู่ความรับกันว่าผู้ตายไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ จำเลยเบิกความเป็นพยานในคดีนั้นว่าได้ไปที่บ้านผู้ตายเพื่อทำพินัยกรรม แต่ผู้ตายไม่รู้สึกตัวจึงไม่ได้ทำพินัยกรรม ข้อความที่จำเลยเบิกความนี้ ไม่ใช่ประเด็นแห่งคดี จึงไม่ใช่ข้อสำคัญในคดี แม้จะเป็นความเท็จ ก็ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1150/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความเท็จในการเบิกความที่ไม่เป็นสาระสำคัญในคดีแพ่ง ไม่เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177
คู่ความพิพาทกันในเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดิน โจทก์อ้างว่าผู้ตายได้ยกที่พิพาทให้และโจทก์ได้ครอบครองตลอดมา จำเลยต่อสู้ว่าเป็นทายาทและได้รับมรดก แต่ได้ให้โจทก์ดูแลแทน คู่ความรับกันว่าผู้ตายไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ จำเลยเบิกความเป็นพยานในคดีนั้นว่าได้ไปที่บ้านผู้ตายเพื่อทำพินัยกรรมแต่ผู้ตายไม่รู้สึกตัวจึงไม่ได้ทำพินัยกรรม ข้อความที่จำเลยเบิกความนี้ ไม่ใช่เป็นประเด็นแห่งคดี จึงไม่ใช่ข้อสำคัญในคดี แม้จะเป็นความเท็จ ก็ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1082/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องเบิกความเท็จ: จำเลยยังไม่มีสิทธิฎีกาจนกว่าศาลชั้นต้นจะประทับฟ้อง
ชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ศาลชั้นต้นพิจารณายกฟ้อง แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนและพิจารณาพิพากษาต่อไปตามมูลคดี ดังนี้ จำเลยจะฎีกาหาได้ไม่เพราะประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 165 วรรค 3 ก่อนที่ศาลชั้นต้นจะประทับฟ้อง มิให้ถือว่าจำเลยอยู่ในฐานะเช่นนั้น ฉะนั้น จึงเป็นเรื่องระหว่างศาลกับโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 649/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบิกความเท็จเพื่อสนับสนุนคดีแพ่ง และการไม่คืนสัญญากู้ ทำให้เกิดการฟ้องร้องโดยใช้เอกสารปลอม
จำเลยที่ 2 เบิกความอันเป็นเท็จเพื่อแสดงว่าโจทก์ได้กู้เงินจำเลยที่ 1 และยังได้เบิกความเท็จอีกว่าโจทก์ได้พักอยู่กับจำเลยที่ 2 โจทก์ได้บอกจำเลยที่ 2 ว่าไปบ้านยางสินไชยได้เงินมา 1,000 บาท เพื่อส่งเสริมให้น่าเชื่อว่าโจทก์ได้กู้เงินจำเลยที่ 1 จริง ข้อความที่จำเลยที่ 2 เบิกความต่อศาลในการพิจารณานั้น จึงเป็นข้อสำคัญในคดีที่จำเลยที่ 1 ฟ้องเรียกเงินจากโจทก์ตามสัญญากู้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 649/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จเกี่ยวกับสัญญากู้เงินเป็นข้อสำคัญในคดีอาญา และการไม่คืนสัญญาทำให้เกิดการปลอมแปลง
จำเลยที่ 2 เบิกความอันเป็นเท็จเพื่อแสดงว่าโจทก์ได้กู้เงินจำเลยที่ 1 และยังได้เบิกความเท็จอีกว่าโจทก์ได้พักอยู่กับจำเลยที่ 2 โจทก์ได้บอกจำเลยที่ 2 ว่าไปบ้านยางสินไชยได้เงินมา 1,000 บาท เพื่อส่งเสริมให้น่าเชื่อว่าโจทก์ได้กู้เงินจำเลยที่ 1 จริงข้อความที่จำเลยที่ 2 เบิกความต่อศาลในการพิจารณานั้นจึงเป็นข้อสำคัญในคดีที่จำเลยที่ 1 ฟ้องเรียกเงินจากโจทก์ตามสัญญากู้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 224/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำฐานเบิกความเท็จ-แจ้งความเท็จ: กรรมเดียววาระเดียว สิทธิฟ้องระงับตามกฎหมาย
จำเลยแจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจสายตรวจระบุว่า โจทก์ลักทรัพย์ของจำเลย เป็นเหตุให้โจทก์ถูกอัยการฟ้องคดีอาญา ศาลยกฟ้องเพราะจำเลยซึ่งเป็นเจ้าทรัพย์เบิกความว่าไม่ได้ระบุใครเป็นคนร้าย คดีถึงที่สุด อัยการจึงฟ้องหาว่าจำเลยเบิกความเท็จโดยความจริงจำเลยแจ้งระบุชื่อโจทก์เป็นคนร้าย จำเลยรับสารภาพ ศาลพิพากษาลงโทษ คดีถึงที่สุด โจทก์จึงฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้หาว่าจำเลยแจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจสายตรวจดังกล่าวข้างต้นเป็นเท็จ และเบิกความในคดีที่โจทก์ถูกฟ้องว่าโจทก์เป็นคนร้ายลักทรัพย์เป็นเท็จ ดังนี้ ข้อหาฐานเบิกความเท็จสิทธินำคดีมาฟ้องระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 39(4) แม้ฟ้องจะกล่าวหาว่าจำเลยเบิกความเท็จเป็นคนละตอนกับคดีที่อัยการเป็นโจทก์ฟ้อง แต่เป็นกรรมเดียววาระเดียว เป็นการกระทำอันเดียวกัน ตามหลักกฎหมายทั่วไปพึงฟ้องร้องได้ครั้งเดียว ส่วนข้อหาแจ้งความเท็จยังมิได้มีการฟ้องมีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดแต่ประการใด แม้ศาลพิพากษาว่าจำเลยเบิกความเท็จแล้ว ถ้อยคำที่จำเลยแจ้งความอาจไม่เป็นความจริงก็ได้ และศาลก็พิพากษาว่าเบิกความเท็จในข้อหาอื่น ไม่ใช่ในข้อว่าโจทก์เป็นคนร้าย ตามรูปคดีและที่โจทก์นำสืบ เห็นว่า คดีของโจทก์ฐานแจ้งความเท็จมีมูล..
of 47