พบผลลัพธ์ทั้งหมด 382 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 164/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร: ศาลยืนตามคำพิพากษาเดิม หากมีเหตุเปลี่ยนแปลงอาจขอแก้ไขได้
ค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรที่ศาลกำหนดให้นั้น ต่อไปถ้ามีเหตุอันควรแก้ไขประการใดอาจร้องขอต่อศาลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1596 ได้
คดีที่พิพาทกันด้วยเรื่องค่าเลี้ยงดูบุตร เป็นคดีเกี่ยวด้วยสิทธิในครอบครัว ฎีกาได้ ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 248 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
คดีที่พิพาทกันด้วยเรื่องค่าเลี้ยงดูบุตร เป็นคดีเกี่ยวด้วยสิทธิในครอบครัว ฎีกาได้ ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 248 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1584/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีเครื่องชั่งที่ถูกแก้ไขไว้เพื่อใช้ในกิจการค้า เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด
คำฟ้องของโจทก์บรรยายไว้ว่า จำเลยมีเครื่องชั่งที่ถูกแก้ไขนั้นไว้ และได้ใช้เครื่องชั่งนั้นในกิจการต่อเนื่องกับประชาชนในทางพาณิชย์กิจการของจำเลย ดังนี้ เป็นที่เข้าใจว่าจำเลยมีเครื่องชั่งไว้เพื่อใช้ด้วยจำเลยย่อมมีผิดตาม พ.ร.บ.มาตราชั่ง ตวง วัด 2466 มาตรา 31
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1584/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีเครื่องชั่งที่ถูกแก้ไขไว้เพื่อใช้ในกิจการค้า เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.มาตราชั่ง ตวง วัด
คำฟ้องของโจทก์บรรยายไว้ว่า จำเลยมีเครื่องชั่งที่ถูกแก้ไขนั้นไว้ และได้ใช้เครื่องชั่งนั้นในกิจการต่อเนื่องกับประชาชนในทางพาณิชย์กิจการของจำเลย ดังนี้ เป็นที่เข้าใจว่าจำเลยมีเครื่องชั่งไว้เพื่อใช้ด้วย จำเลยย่อมมีผิดตาม พ.ร.บ.มาตรา ชั่ง ตวง วัด 2466 มาตรา 31
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1434/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับใช้กฎกระทรวงย้อนหลังไม่ได้ แม้กฎหมายมีการแก้ไขภายหลังการกระทำผิด
จำเลยขนน้ำสุรา 16 ขวดมีน้ำสุรา 10 ลิตรไปจากเขตต์ท้องที่จังหวัดพระนคร มายังตำบลบางปลาสร้อย อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ขณะกล่าวหามีกฎกระทรวงการคลังลงวันที่ 17 กรกฎาคม 2487 ห้ามขนสุราโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเขตต์ท้องที่ ๆ ระบุไว้ท้ายกฎ แต่ไม่มีระบุถึงจังหวัดพระนคร จำเลยจึงยังไม่มีผิดตามกฏนี้ ต่อมาเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2491 อันเป็นวันหลังจากที่กล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิด ได้มีกฎกระทรวงการคลังยกเลิกกฎกระทรวงการคลังซึ่งออกมาแล้วทุกฉะบับ และระบุห้ามขนสุราจากท้องที่ตามที่ระบุไว้ท้ายกฏอันมีจังหวัดพระนครอยู่ด้วย ต่อมาวันที่ 12 ตุลาคม 2491 จึงได้มีกฎกระทรวงการคลังให้ถือเขตต์จังหวัดแต่ละจังหวัดตาม พ.ร.บ.ปกครองท้องที่ เป็นเขตต์ซึ่งอยู่ในอำนาจและหน้าที่ของเจ้าพนักงานผู้ทำการเก็บภาษีสุรา ซึ่งกฎกระทรวงการคลังที่ออกภายหลังวันที่กล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิดในคดีนี้ จะใช้บังคับแก่การกระทำของจำเลยในคดีนี้ไม่ได้ จำเลยจึงไม่มีผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 993/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขเครื่องชั่งตวงวัด, การลงโทษตามบทหนัก, และสิทธิในการเรียกร้องค่าสินบนนำจับ
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีและใช้เครื่องชั่งที่ถูกแก้ไขและมีคำรับรองของเจ้าพนักงานและอ้าง พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด 2466 มาตรา 31, 32 จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยตามมาตรา 32 ซึ่งเป็นบทหนักได้
เงินค่าสินบลผู้จับในคดีผิด พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัดนั้น ไม่มี ก.ม.ใดให้อำนาจอัยยการจะฟ้องเรียกสินบลให้แก่ผู้จับ
(อ้างฎีกา 362/2481, 218/2482)
เงินค่าสินบลผู้จับในคดีผิด พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัดนั้น ไม่มี ก.ม.ใดให้อำนาจอัยยการจะฟ้องเรียกสินบลให้แก่ผู้จับ
(อ้างฎีกา 362/2481, 218/2482)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 993/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษฐานแก้ไขเครื่องชั่งตวงวัด และสิทธิการเรียกร้องค่าสินบนนำจับ
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีและใช้เครื่องชั่งที่ถูกแก้ไขและมีคำรับรองของเจ้าพนักงานและอ้างพระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัด 2466 มาตรา 31,32 จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลมีอำนาจลงโทษจำเลยตามมาตรา 32 ซึ่งเป็นบทหนักได้
เงินค่าสินบนผู้จับในคดีผิดพระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัดนั้น ไม่มีกฎหมายใดให้อำนาจอัยการจะฟ้องเรียกสินบนให้แก่ผู้จับ (อ้างฎีกา 362/2481,218/2482)
เงินค่าสินบนผู้จับในคดีผิดพระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัดนั้น ไม่มีกฎหมายใดให้อำนาจอัยการจะฟ้องเรียกสินบนให้แก่ผู้จับ (อ้างฎีกา 362/2481,218/2482)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 31/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปลอมหนังสือจากการแก้ไขสมุดลงเวลามาทำงานโดยจงใจ
ข้าราชการขีดฆ่าข้อความที่พนักงานเจ้าหน้าที่เขียนและหมายเหตุไว้ตามหน้าที่ในสมุดลงเวลามาทำงาน แล้วตกเติมข้อความใหม่เปลี่ยนความหมายแห่งถ้อยคำให้เป็นอย่างอื่นโดยจงใจเปลี่ยนแปลงความเป็นจริงในสมุดนั้น เพื่อใช้เป็นหลักฐานลวงให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่าความจริงเป็นดังที่แก้ไขเปลี่ยนแปลงนั้น เป็นความผิดฐานปลอมหนังสือตามมาตรา 224
โจทก์ฟ้องขอให้ลงจำเลยตามมาตรา 230 แต่ความผิดของจำเลยต้องด้วยมาตรา 224 ซึ่งเป็นบทมีอัตราโทษเบากว่าศาลย่อมลงโทษจำเลยตามมาตรา 224 ได้
โจทก์ฟ้องขอให้ลงจำเลยตามมาตรา 230 แต่ความผิดของจำเลยต้องด้วยมาตรา 224 ซึ่งเป็นบทมีอัตราโทษเบากว่าศาลย่อมลงโทษจำเลยตามมาตรา 224 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 914/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีเลิกหุ้นส่วน-การตั้งผู้ชำระบัญชี: ศาลอุทธรณ์แก้ไขเล็กน้อยไม่อุทธรณ์ข้อเท็จจริงได้
ฟ้องขอให้แสดงว่าห้างหุ้นส่วนเลิกกันและขอให้ตั้งผู้ชำระบัญชีนั้น เป็นคดีขอให้ปลดเปลื้องทุกข์ กำหนดเป็นราคาเงินมิได้ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขศาลชั้นต้นเพียงเล็กน้อย จะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 เป็นหุ้นส่วนขอให้ชำระบัญชีจำเลยที่ 1 ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นหุ้นส่วน และว่าเป็นเจ้าของโรงมหรสพแต่ผู้เดียว เมื่อได้ความตามทางพิจารณาว่าจำเลยครอบครองโรงมหรสพใน ฐานะเป็นผู้จัดการของหุ้นส่วนก็เป็นการสมควรที่จะต้องกล่าวคำวินิจฉัยให้แจ้งชัดตามประเด็นข้อต่อสู้ของจำเลยเองว่า จำเลยครอบครองในฐานะอันใดการกล่าวคำวินิจฉัยเช่นนี้หาใช่เป็นการวินิจฉัยเกินประเด็นไม่
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่าห้างหุ้นส่วนสามัญเลิกกันและให้ตั้งผู้ชำระบัญชีศาลชั้นต้นพิพากษาว่าห้างหุ้นส่วนเลิกกันแล้ว ทรัพย์สินของหุ้นส่วนเป็นกรรมสิทธิรวม จึงให้บังคับคดีตาม ป.พ.พ. มาตรา 1364 โดยให้จัดการประมูลขายหรือขายทอดตลาดทรัพย์สิน แบ่งให้ผู้ถือหุ้นตามส่วนศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า ให้ตั้งผู้ชำระบัญชีตาม ป.พ.พ.มาตรา 1061-1062-1063 ดังนี้ ถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขศาลชั้นต้นแต่เพียงเล็กน้อย.
ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 เป็นหุ้นส่วนขอให้ชำระบัญชีจำเลยที่ 1 ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นหุ้นส่วน และว่าเป็นเจ้าของโรงมหรสพแต่ผู้เดียว เมื่อได้ความตามทางพิจารณาว่าจำเลยครอบครองโรงมหรสพใน ฐานะเป็นผู้จัดการของหุ้นส่วนก็เป็นการสมควรที่จะต้องกล่าวคำวินิจฉัยให้แจ้งชัดตามประเด็นข้อต่อสู้ของจำเลยเองว่า จำเลยครอบครองในฐานะอันใดการกล่าวคำวินิจฉัยเช่นนี้หาใช่เป็นการวินิจฉัยเกินประเด็นไม่
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่าห้างหุ้นส่วนสามัญเลิกกันและให้ตั้งผู้ชำระบัญชีศาลชั้นต้นพิพากษาว่าห้างหุ้นส่วนเลิกกันแล้ว ทรัพย์สินของหุ้นส่วนเป็นกรรมสิทธิรวม จึงให้บังคับคดีตาม ป.พ.พ. มาตรา 1364 โดยให้จัดการประมูลขายหรือขายทอดตลาดทรัพย์สิน แบ่งให้ผู้ถือหุ้นตามส่วนศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า ให้ตั้งผู้ชำระบัญชีตาม ป.พ.พ.มาตรา 1061-1062-1063 ดังนี้ ถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขศาลชั้นต้นแต่เพียงเล็กน้อย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 96/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขูดลบแก้ไขกรรมสิทธิในโฉนดที่ดินถือเป็นการปลอมแปลงเอกสารตามกฎหมาย
การขูดลบลายมือชื่อผู้ถือกรรมสิทธิที่ดินในหนังสือใบแทนโฉนดที่แท้จริงแล้วเขียนชื่อจำเลยเป็นผู้ถือกรรมสิทธิแทนนั้น เป็นการปลอมครบถ้วนตามกฎหมายอาญามาตรา 222 (2) แม้การปลอมนั้นจะเห็นได้ชัดก็ไม่ทำให้ไม่เป็นปลอม.