พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4,077 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1750/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขนข้าวไปกองริมตลิ่งยังไม่ถือเป็นความผิดฐานนำข้าวออกนอกราชอาณาจักร ต้องพิสูจน์เจตนาและลงมือกระทำจริง
จำเลยขนข้าวไปกองไว้ที่ริมตลิ่งแม่น้ำโขง 8 กระสอบมีข้าวอยู่กระสอบละครึ่งและมีเชือกหนึ่งเส้นยาว ประมาณ 4 วากองอยู่บนกระสอบริมตลิ่ง จำเลยว่าข้าวนี้เป็นของจำเลยจะนำขนไปที่บ้านเช่นนี้ถือว่ารูปคดียังห่างไกลกับความผิดสำเร็จในฐานนำข้าวออกนอกราชอาณาจักร เพราะยังเชื่อหรือสันนิษฐานไม่ได้ว่าแน่ว่าจำเลยจะนำลงเรือพาออกนอกพระราชอาณาจักร แม้หากจะมีเจตนาอยู่ก่อนแล้วว่าจะนำข้าวออกนอกพระราชอาณาจักรจำเลยก็อาจยังยั้งไม่กระทำดังที่ตั้งใจไว้นั้นได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นแต่เพียงอยู่ในชั้นตระเตรียมการและยังไม่เข้าคั่นพยายามนำข้าวออกนอกราชอาณาจักร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1750/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขนข้าวไปกองริมตลิ่งยังไม่ถึงขั้นพยายามนำออกนอกราชอาณาจักร ต้องมีเจตนาและกระทำไปในทางที่จะออกนอกราชอาณาจักร
จำเลยขนข้าวไปกองไว้ที่ริมตลิ่งแม่น้ำโขง 8 กระสอบมีข้าวอยู่กระสอบละครึ่งและมีเชือกหนึ่งเส้นยาวประมาณ 4 วากองอยู่บนกระสอบริมตลิ่ง จำเลยว่าข้าวนี้เป็นของจำเลยจะนำขนไปที่บ้าน เช่นนี้ถือว่ารูปคดียังห่างไกลกับความผิดสำเร็จในฐานนำข้าวออกนอกราชอาณาจักรเพราะยังเชื่อหรือสันนิษฐานไม่ได้แน่ว่าจำเลยจะนำลงเรือพาออกนอกพระราชอาณาจักร แม้หากจะมีเจตนาอยู่ก่อนแล้วว่าจะนำข้าวออกนอกพระราชอาณาจักรจำเลยก็อาจยับยั้งไม่กระทำดังที่ตั้งใจไว้นั้นได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นแต่เพียงอยู่ในขั้นตระเตรียมการและยังไม่เข้าขั้นพยายามนำข้าวออกนอกราชอาณาจักร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1561/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาความผิดอาญา: การวางขวากกีดขวางทางเดินและการพิสูจน์เจตนาทำร้าย
จำเลยกระทำอย่างไรเป็นปัญหาข้อเท็จจริง แต่การกระทำนั้นจะเป็นความผิดหรือไม่เป็นปัญหาข้อ ก.ม.
ในการวินิจฉัยข้อกฎหมายจำต้องอาศัยข้อเท็จจริงต่าง ๆ ประกอบ เมื่อขาดข้อเท็จจริงบางอย่างเช่นขวากวางห่างหัวคันนาเพียงใดแล้วก็หาอาจวินิจฉัยได้ไม่ว่าจำเลยมีเจตนาจะให้ผู้เดินนอกนาต้องได้รับบาดเจ็บจากขวาก.
ในการวินิจฉัยข้อกฎหมายจำต้องอาศัยข้อเท็จจริงต่าง ๆ ประกอบ เมื่อขาดข้อเท็จจริงบางอย่างเช่นขวากวางห่างหัวคันนาเพียงใดแล้วก็หาอาจวินิจฉัยได้ไม่ว่าจำเลยมีเจตนาจะให้ผู้เดินนอกนาต้องได้รับบาดเจ็บจากขวาก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1561/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาในการกระทำความผิดทางอาญา: การประเมินจากพฤติการณ์และข้อเท็จจริงที่ปรากฏ
จำเลยกระทำอย่างไรเป็นปัญหาข้อเท็จจริง แต่การกระทำนั้นจะเป็นความผิดหรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมาย
ในการวินิจฉัยข้อกฎหมายจำต้องอาศัยข้อเท็จจริงต่างๆประกอบ เมื่อขาดข้อเท็จจริงบางอย่างเช่นขวากวางห่างหัวคันนาเพียงใด แล้วก็หาอาจวินิจฉัยได้ไม่ว่าจำเลยมีเจตนาจะให้ผู้เดินนอกนาต้องได้รับบาดเจ็บจากขวาก
ในการวินิจฉัยข้อกฎหมายจำต้องอาศัยข้อเท็จจริงต่างๆประกอบ เมื่อขาดข้อเท็จจริงบางอย่างเช่นขวากวางห่างหัวคันนาเพียงใด แล้วก็หาอาจวินิจฉัยได้ไม่ว่าจำเลยมีเจตนาจะให้ผู้เดินนอกนาต้องได้รับบาดเจ็บจากขวาก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1491/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อนจากความขัดแย้งเรื่องชู้สาว ศาลยืนตามคำพิพากษาเดิม
การที่ใช้มีดถางหญ้าฟันเขาถึง 3 แผล แผลที่คอเป็นแผลฉกรรจ์และถึงแก่ความตายในขณะนั้น อันมีสาเหตุเพราะจำเลยเป็นชู้กับเมียผู้ตายและอยากจะอยู่ด้วยกัน การที่จำเลยขุดดินร่วมครึ่งชั่วโมงลอดตัวเข้าไปฆ่าผู้ตายซึ่งนอนอยู่ในโรงได้สมประสงค์ เช่นนี้ย่อมแสดงว่าจำเลยกระทำโดยพยายามด้วยความพยาบาทมาดหมายตาม มาตรา 250
การลดโทษประหารชีวิตตาม มาตรา 5937 นั้นต้องควบกัน มาตรา 37 เป็นหลักเกณฑ์การลดโทษว่ามากน้อยเพียงไร มาตรา 59เป็นดุลพินิจในการลดโทษให้
การลดโทษประหารชีวิตตาม มาตรา 5937 นั้นต้องควบกัน มาตรา 37 เป็นหลักเกณฑ์การลดโทษว่ามากน้อยเพียงไร มาตรา 59เป็นดุลพินิจในการลดโทษให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1429/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจองสลากและการเล่นพนัน แม้ยังไม่ได้ชำระเงิน หากมีเจตนาชัดเจน ถือเป็นความผิดฐานพนันได้
มีการจองเลขสลากกินรวบไว้แล้ว แม้จะยังไม่ได้ชำระเงินกัน แต่ก็ได้กำหนดแน่นอนว่าจะชำระภายหลัง ย่อมถือได้ว่าเป็นการเล่นพนันเอาทรัพย์สินกันแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1411/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแปลคำฟ้องและการระบุประเด็นความรับผิดชอบทางอาญา หากโจทก์มิได้ระบุเจตนาหรือความรับผิดชอบโดยตรง ศาลยึดตามที่ระบุ
บรรยายฟ้องว่าจำเลยบังอาจใช้ขวดสุราตีศีร์ษะนายคำไม่มีบาดเจ็บ ขวดแตกเศษขวดกระเด็นไปถูกคอนางทิงเป็นแผลถึงบาดเจ็บ. เช่นนี้ย่อมต้องแปลว่าโจทก์มิได้ประสงค์จะฟ้องไปถึงว่าจำเลยทำร้ายนางทิงด้วยแต่พรรณาพฤติการณ์เข้ามาลอย ๆ. การที่นางทิงได้รับบาดเจ็บโดยจำเลยตั้งใจประสงค์ต่อผลหรืออาจแลเห็นผลเช่นนี้หรือไม่โจทก์ไม่ได้ระบุยืนยันเพื่อเป็นขอให้ศาลวินิจฉัย จึงไม่มีประเด็นในข้อนี้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1411/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตคำฟ้องอาญา: การระบุเจตนาและผลของการกระทำ
บรรยายฟ้องว่าจำเลยบังอาจใช้ขวดสุราตีศีรษะนายดำไม่มีบาดเจ็บ ขวดแตกเศษขวดกระเด็นไปถูกคอนางทิงเป็นแผลถึงบาดเจ็บเช่นนี้ย่อมต้องแปลว่า โจทก์มิได้ประสงค์จะฟ้องไปถึงว่าจำเลยทำร้ายนางทิงด้วยเป็นแต่พรรณาพฤติการณ์เข้ามาลอยๆ การที่นางทิงได้รับบาดเจ็บโดยจำเลยตั้งใจประสงค์ต่อผลหรืออาจแลเห็นผลเช่นนี้หรือไม่ โจทก์ไม่ได้ระบุยืนยันเพื่อเป็นข้อให้ศาลวินิจฉัย จึงไม่มีประเด็นในข้อนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1330/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พฤติการณ์แสดงเจตนาข่มขืนและการสมคบคิดเป็นตัวการในความผิดฐานพยายามข่มขืน
ชายเตะขาหญิงล้มแล้วตบเตะจิกผมขึ้นคร่อมนอนทับแล้วปลดกระดุมกางเกงและเลิกผ้าถุงหญิงขึ้นไปถึงโคนขา หญิงเอามือกดผ้าถุงปิดของลับและยันอกชายไว้ร้องให้คนช่วย ชายอุดปากบีบคอจับนมและจูบแก้มหญิง จนมีคนวิ่งมาร้องถามชายจึงผละหนีไปดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่าชายมีเจตนาจะข่มขืนกระทำชำเราหญิง พฤติการณ์จึงเป็นการพยายามข่มขืนกระทำชำเรา
การที่จำเลยพูดกับชายนั้นแล้วเดินตามหญิงมากับชายนั้นขณะที่ชายกอดปล้ำหญิง จำเลยยืนถือมีดห่างหญิง 1 ศอกทั้งยังช่วยตบเตะและพูดขู่ไม่ให้หญิงร้อง เมื่อชายให้จำเลยไปคอยจำเลยก็ไป ตอนที่มีคนวิ่งไล่ชายนั้นจำเลยก็วิ่งหนีแล้วหันกลับมาท้าคนไล่ ชายนั้นยังเอามีดของจำเลยมาขู่คนไล่จนจำเลยกับชายนั้นวิ่งเข้าป่าไปพฤติการณ์เหล่านี้ย่อมส่อแสดงว่าจำเลยได้สมคบกับชายนั้นมาแต่ต้นจำเลยจึงต้องมีความผิดฐานเป็นตัวการด้วย
การที่จำเลยพูดกับชายนั้นแล้วเดินตามหญิงมากับชายนั้นขณะที่ชายกอดปล้ำหญิง จำเลยยืนถือมีดห่างหญิง 1 ศอกทั้งยังช่วยตบเตะและพูดขู่ไม่ให้หญิงร้อง เมื่อชายให้จำเลยไปคอยจำเลยก็ไป ตอนที่มีคนวิ่งไล่ชายนั้นจำเลยก็วิ่งหนีแล้วหันกลับมาท้าคนไล่ ชายนั้นยังเอามีดของจำเลยมาขู่คนไล่จนจำเลยกับชายนั้นวิ่งเข้าป่าไปพฤติการณ์เหล่านี้ย่อมส่อแสดงว่าจำเลยได้สมคบกับชายนั้นมาแต่ต้นจำเลยจึงต้องมีความผิดฐานเป็นตัวการด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1321/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา และการรอการลงโทษ จำเลยต้องรับผิดชอบต่อการกระทำที่เกิดจากการถูกยั่วยุ
อัยการฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตาย ตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 249 ภริยาผู้ตายเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมด้วยศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยผิดตามมาตรา 251 เมื่อลดโทษในกรณีต่างๆ แล้ว คงจำคุก 2 ปี อัยการอุทธรณ์ขอให้ลงโทษตามมาตรา 249 แต่โจทก์ร่วมมิได้อุทธรณ์ ครั้นศาลอุทธรณ์พิพากษายืนในเรื่องความผิดตามมาตรา 251 แต่แก้ให้รอการลงโทษจำเลยไว้ โจทก์ร่วมจะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 249 ไม่ได้