พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4,231 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 998/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจปกครองบุตร: บิดาจดทะเบียนรับรองสิทธิโอนมาเป็นของผู้รับรอง
กรณีที่บิดามิได้จดทะเบียนรับรองบุตรนอกสมรส อำนาจปกครองบุตรย่อมอยู่แก่มารดา แต่ถ้าบิดาได้จดทะเบียนรับรอง บุตรนั้นก็เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของบิดาอำนาจปกครองย่อมโอนมาอยู่แก่บิดา ไม่ใช่อยู่แก่บิดาและมารดาทั้งสองคน
ผู้ใช้อำนาจปกครองจะมีได้เพียงคนเดียว ผิดกับผู้ปกครองซึ่งอาจมีหลายคนได้
ผู้ใช้อำนาจปกครองจะมีได้เพียงคนเดียว ผิดกับผู้ปกครองซึ่งอาจมีหลายคนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 86/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการขอทางผ่านที่ดิน: พิจารณาความจำเป็นและผลกระทบต่อเจ้าของที่ดิน
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1349 วรรค 3 ที่บัญญัติว่า ที่และวิธีทำทางผ่านนั้นต้องเลือกให้พอควรแก่ความจำเป็นของผู้มีสิทธิจะผ่าน กับให้คำนึงถึงที่ดินที่ล้อมอยู่ให้เสียหายน้อยที่สุดที่จะเป็นได้ ถ้าจำเป้น ผู้มีสิทธิจะผ่านจะสร้างถนนเป็นทางผ่านก็ได้นั้น ความพอควรแก่ความจำเป็นของผู้มีสิทธิขอผ่านจะมีแค่ไหน เพียงไร เป็นปัญหาข้อเท็จจริงเป็นเรื่อง ๆ ไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 794/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมความโอนที่ดินมือเปล่าไม่ถือเป็นการส่งมอบการครอบครอง สิทธิยังอยู่กับเจ้าของเดิม
สามีจำเลยทำยอมความโอนที่ดินมือเปล่า ซึ่งจำเลยและสามีเป็นเจ้าของร่วมกันตีใช้หนี้ให้ผู้ร้อง โดยจะไปโอนทะเบียนให้ซึ่งศาลพิพากษาตามยอมแล้ว ถือได้ว่ามีเจตนาเพียงจะสละการครอบครองเท่านั้น หากผู้ร้องยังมิได้เข้าครอบครองที่ดินนั้นแล้ว ผู้ร้องก็ยังไม่ได้ที่ดินดังกล่าวโดยการครอบครองอย่างใด สิทธิครอบครองที่ดินนั้นยังอยู่กับจำเลยและสามีเจ้าหนี้อื่นของจำเลยมีสิทธิยึดที่ดินนั้นขายชำระหนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 774-776/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการฟ้องขับไล่และรื้อถอน ขึ้นอยู่กับนิติสัมพันธ์ระหว่างผู้ฟ้องกับผู้ถูกฟ้อง
โจทก์ซึ่งเป็นผู้เช่าที่ดินคนใหม่ จะฟ้องขับไล่และให้รื้อสิ่งปลูกสร้างที่มีผู้ปลูกไว้โดยได้รับอนุญาตจากผู้เช่าคนเดิมไม่ได้เพราะโจทก์กับผู้นั้นต่างไม่มีนิติสัมพันธ์ต่อกัน และผู้นั้นก็มิได้ครอบครองโดยอาศัยสิทธิของโจทก์แต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 770/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความถูกต้องของพินัยกรรมและการเรียกร้องสิทธิในมรดก โดยมีข้อโต้แย้งเรื่องการตอบแทนและพินัยกรรมใหม่
โจทก์บรรยายฟ้องว่า มารดาของโจทก์จำเลยได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้โจทก์จำเลยและหลาน ดังสำเนาท้ายฟ้องโจทก์ไปขอรับมรดกที่ดินตามรายการข้อ 1 ของพินัยกรรมครึ่งหนึ่งจำเลยร้องคัดค้านเจ้าพนักงานจึงงดการรับมรดกไว้ และสั่งให้โจทก์ฟ้องต่อศาล ที่จำเลยคัดค้านการรับมรดกนั้นเป็นเหตุให้โจทก์เสียหายการที่โจทก์ขอรับมรดกเพื่อลงชื่อเป็นเจ้าของนั้น เพราะโจทก์ได้ออกเงิน (ค่าที่ดิน)ทำศพ ตามคำสั่งของผู้ตายแล้ว ดังนี้ แม้รายการข้อ 1ของพินัยกรรมท้ายฟ้องจะว่าที่ดินแปลงนี้ให้โจทก์จำเลยบุตรจัดการขาย นำเงินที่ขายได้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้เมื่อตาย แต่เมื่ออ่านประกอบฟ้องก็พอจะได้ความว่ามิใช่กรณีรับมรดกเฉยๆ หากแต่มีการกระทำของโจทก์เป็นการตอบแทนอยู่ ครั้นเมื่อจำเลยให้การ จำเลยมิได้เถียงถึงสิทธิของโจทก์อันจะได้จากพินัยกรรมนี้เลย เป็นแต่เถียงว่าผู้ตายทำพินัยกรรมใหม่แล้วยกเลิกพินัยกรรมที่โจทก์อ้าง ประเด็นในคดีคงมีแต่เพียงว่าพินัยกรรมที่ฝ่ายใดอ้างเป็นพินัยกรรมที่ใช้ได้ ศาลจะต้องดำเนินการพิจารณาต่อไป จะว่าโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องขอแบ่งทรัพย์มรดกครึ่งหนึ่ง และพิพากษายกฟ้องเสียโดยไม่ฟังข้อเท็จจริงต่อไปนั้น ไม่ชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 725/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับจำนองและการเพิกถอนการชำระหนี้: สิทธิของผู้รับจำนองรายหลัง
จำเลยจำนองที่ดินมือเปล่าไว้แก่โจทก์แล้วออกโฉนดนำไปจำนองไว้แก่ผู้อื่น ต่อมาโอนที่รายนี้ให้แก่ผู้รับจำนองรายหลังเป็นการชำระหนี้โจทก์ทราบจึงฟ้องบังคับจำนองและขอให้เพิกถอนการโอนนั้น ศาลพิพากษาบังคับจำนองและเพิกถอนการโอนตามขอ ดังนี้ แม้หนี้จำนองรายหลังหมดไปเมื่อจำเลยโอนที่ให้ก็จริง แต่เมื่อศาลพิพากษาเพิกถอนการโอนชำระหนี้เสียแล้ว การชำระหนี้ก็เป็นอันไร้ผล ผู้รับจำนองรายหลังจึงมีสิทธิร้องขอรับชำระหนี้จำนองของตนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 46/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการฟ้องขับไล่จำกัดเฉพาะผู้เช่าที่ดิน การเช่าตึกอย่างเดียวไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่บนที่ดิน
ผู้ที่เช่าเฉพาะอาคาร ไม่ได้เช่าที่ดิน ย่อมไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่ผู้ใดให้ออกจากที่ดิน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 451/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภารจำยอมต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนจึงมีผล โจทก์ผู้รับโอนที่ดินแปลงอื่นไม่มีสิทธิอาศัยสิทธิภารจำยอมของเจ้าของเดิม
ฎีกาจำเลยกล่าวถึงฟ้อง คำให้การและคำวินิจฉัยศาลล่าง แล้วฎีกาว่า ตามที่ศาลอุทธรณ์ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นยังขัดต่อข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงซึ่งได้จากคำให้การของโจทก์อันเป็นการอธิบายฟ้องของโจทก์ที่จะปรับเข้ากับข้อกฎหมายได้แล้ว แม้จะให้สืบพยานโจทก์จำเลยต่อไปอีกก็ไม่มีเหตุที่จะทำข้อกฎหมายที่จะนำมาใช้บังคับตามฟ้องเปลี่ยนแปลงไปได้ ที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบและยกฟ้อง โจทก์จึงชอบแล้ว ดังนี้ ไม่ใช่ฎีกาย่อ ไม่ขัดต่อ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225, 247
ข้อตกลงระหว่างทายาทที่ให้แบ่งที่ดินส่วนหนึ่งไว้เป็นทางภารจำยอมนั้น ถ้าไม่ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียน ย่อมไม่บริบูรณ์ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 ผู้รับโอน ที่ดินแปลงอื่นจากทายาทคนหนึ่งไม่มีสิทธิจะฟ้องทายาทเหล่านั้นให้เปิดทางภารจำยอมได้
ข้อตกลงระหว่างทายาทที่ให้แบ่งที่ดินส่วนหนึ่งไว้เป็นทางภารจำยอมนั้น ถ้าไม่ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียน ย่อมไม่บริบูรณ์ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 ผู้รับโอน ที่ดินแปลงอื่นจากทายาทคนหนึ่งไม่มีสิทธิจะฟ้องทายาทเหล่านั้นให้เปิดทางภารจำยอมได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 451/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภารจำยอมต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนจึงสมบูรณ์ ผู้รับโอนไม่มีสิทธิฟ้อง
ข้อตกลงระหว่างทายาทที่ให้แบ่งที่ดินส่วนหนึ่งไว้เป็นทางภารจำยอมนั้น ถ้าไม่ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนย่อมไม่บริบูรณ์ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 ผู้รับโอนที่ดินบางส่วนจากทายาทคนหนึ่ง ไม่มีสิทธิฟ้องให้เปิดทางภารจำยอม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 420/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้เสียหาย: ครอบครองทรัพย์ = ได้รับความเสียหาย แม้ไม่ใช่เจ้าของ
'ผู้เสียหาย' นั้น ไม่จำต้องเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ที่ถูกทำให้เสียหายบุคคลที่เป็นผู้ครอบครองทรัพย์ก็เป็นผู้เสียหายได้หากได้รับการเสียหายเกี่ยวกับสิทธิครอบครอง
บรรยายฟ้องว่า ทรัพย์เป็นของผู้เสียหาย แต่ทางพิจารณาได้ความว่า ทรัพย์นั้นเป็นของบุคคลอื่น ผู้เสียหายครอบครองอยู่ ดังนี้ ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง
บรรยายฟ้องว่า ทรัพย์เป็นของผู้เสียหาย แต่ทางพิจารณาได้ความว่า ทรัพย์นั้นเป็นของบุคคลอื่น ผู้เสียหายครอบครองอยู่ ดังนี้ ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง