คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เจตนา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4,077 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 235/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าคนตาย: ความเชื่อมั่นในการสักและการพิสูจน์ผลที่ควรเกิดขึ้น
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยจับงูเห่ากัดผู้ตายโดยเจตนาจำเลยจะผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนานั้น โจทก์จะต้องสืบให้ได้ความว่างูเห่านั้นกัดผู้ใดแล้วผลธรรมดาอันควรเกิดขึ้นและน่าจะเกิดขึ้นก็คือผู้นั้นจะถึงแก่ความตายเมื่อโจทก์ไม่สืบและข้อเท็จจริงกลับฟังได้ว่าจำเลยกระทำไปโดยมีความเชื่อมั่นว่าผู้ตายซึ่งได้รับการสัก(จากจำเลย)แล้วถูกงูเห่ากัดจะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต ทั้งพยานโจทก์ว่าถ้ารักษาดีหรือกินยาก็หายได้ดังนี้กลับยังลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 227/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สมคบปล้นทรัพย์: การขู่เข็ญฉวยโอกาสช่วงเล่นการพนัน และเจตนาเอาทรัพย์สิน
เมื่อ่จำเลยฉวยโอกาศในขณะที่ผู้เสียหายกำลังเล่นการพนันโดยใช้ไม้ตะบองขู่เข็ญว่าจะทำร้ายและค้นเอาเงินจากผู้เสียหายไป แล้วหาได้จับกุมฐานเล่นการพนันไม่ ดังนี้ จำเลยมีผิดฐานสมคบกันปล้นทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 210/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาในการทำให้เกิดการระเบิดเป็นสำคัญ ความผิดมาตรา 188 ต้องมีเจตนา หากประมาทต้องลงโทษตามมาตรา 201
การทำให้เกิดการระเบิดขึ้นอันเป็นความผิดตามมาตรา 188 นั้นจะต้องประกอบด้วยเจตนาเป็นสำคัญ ดังจะเห็นได้ชัดจากมาตรา 201 ซึ่งบัญญัติว่าความผิดเช่นนี้ ถ้าทำโดยประมาทก็ให้ลงโทษตามมาตรา 201
จำเลยนั่งเป่าเล่นทำทองอยู่ตามปรกติและเคยทำมาช้านานแล้ว โต๊ะทำทองของจำเลยอยู่หน้าร้านติดกับถนนที่มีคนสัญจรขณะนั้นเป็นเวลา 15.00 น.ท่อยางที่จำเลยเป่าอยู่เกิดระเบิดขึ้น เพียงเท่านี้ยังไม่มีอะไรแสดงให้เห็นว่าจำเลยเจตนาที่จะทำให้เกิดการระเบิดขึ้น จำเลยจึงไม่ผิดตามมาตรา 188

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 210/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาในการทำให้เกิดการระเบิดเป็นสำคัญตามมาตรา 188 หากไม่มีเจตนาเป็นความผิดฐานประมาท
การทำให้เกิดการระเบิดขึ้นอันเป็นความผิดตามมาตรา 188นั้นจะต้องประกอบด้วยเจตนาเป็นสำคัญ ดังจะเห็นได้ชัดจากมาตรา 201 ซึ่งบัญญัติว่าความผิดเช่นนี้ ถ้าทำโดยประมาทก็ให้ลงโทษตามมาตรา 201
จำเลยนั่งเป่าแล่นทำทองอยู่ตามปรกติและเคยทำมาช้านานแล้วโต๊ะทำทองของจำเลยอยู่หน้าร้านติดกับถนนที่มีคนสัญจรขณะนั้นเป็นเวลา 15.00 น. ท่อยางที่จำเลยเป่าอยู่เกิดระเบิดขึ้น เพียงเท่านี้ยังไม่มีอะไรแสดงให้เห็นว่าจำเลยเจตนาที่จะทำให้เกิดการระเบิดขึ้นจำเลยจึงไม่ผิดตามมาตรา 188

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 184/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย ศาลพิจารณาความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา และการกระทำต่อเจ้าพนักงาน
จำเลยใช้ไม้สากตำข้าวโตเท่าแข้งยาว 1 วาตีลงกลางศีรษะผู้ตายโดยแรง เป็นบาดแผลยาว 11 ซม. กว้าง6ซม.ดังนี้จำเลยมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา
แม้ผู้ตายเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านแต่ข้อเท็จจริงไม่ได้ความว่าการที่ผู้ตายเข้าจับกุมจำเลยนั้น ผู้ตายได้รับมอบหมายจากผู้ใหญ่บ้านให้กระทำผู้ตายกระทำไปโดยลำพังเช่นนี้จึงไม่เป็นการกระทำตามอำนาจหน้าที่ของผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ตาม มาตรา 28 ทวิ แห่ง พระราชบัญญัติปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2)พ.ศ.2486 มาตรา 7 จำเลยจึงผิดตาม มาตรา 249 ไม่ใช่ มาตรา 250(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 177/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตายโดยเจตนา พิจารณาจากลักษณะบาดแผลและการใช้กำลัง
ใช้มีดพกยาวประมาณ 1 คืบ แทงตรงชายโครงซ้าย แผลกว้าง2 ซม.ยาว4ซม.ลำไส้ใหญ่มีแผลกว้าง1/2ซม.ยาว21/2ซม.ลำไส้ไหลออกมาข้างนอก มีดที่แทงจึงต้องทั้งยาวและใหญ่และได้แทงโดยแรงแสดงว่าย่อมอาจแลเห็นผลได้ว่าอาจทำให้ผู้ถูกทำร้ายถึงแก่ความตายจึงเป็นความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 175/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: เจตนา, การกระทำโดยบันดาลโทสะ, และการลดโทษ
ใช้ซอไม้ไผ่ผ่าซีกขนาดกว้าง 3 นิ้ว ยาว 20 นิ้ว ตีในที่มืด เจาะจงไม่ได้ถนัดว่า จะให้ถูกตรงไหนนั้นยังไม่พอชี้ได้ว่าผู้ตีอาจแลเห็นผลได้ว่าผู้ถูกตีจะต้องตาย จึงคงมีผิดเพียงฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 175/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: เจตนาในการกระทำและฐานความผิด
ใช้ซอไม้ไผ่ผ่าซีกขนาดกว้าง 3 นิ้ว ยาว 20 นิ้วตีในที่มืดเจาะจงไม่ได้ถนัดว่าจะให้ถูกตรงไหนนั้นยังไม่พอชี้ได้ว่าผู้ตีอาจแลเห็นผลได้ว่าผู้ถูกตีจะต้องตายจึงคงมีผิดเพียงฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1739/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนกรรมสิทธิ์สิ่งปลูกสร้างโดยเจตนาให้เป็นส่วนควบของที่ดิน กรณีตกลงมอบให้วัดหลังเลิกใช้
โจทก์ขออนุญาตปลูกเรือนพิพาทในที่วัดโดยตกลงกับวัดไว้ตามความตอนหนึ่ง ในหนังสือของโจทก์ที่มีไปถึงวัดดังนี้ "บ้านพักซึ่งหม่อมฉันปลูกไว้ในที่ดินขออาศัยนี้ หากหม่อมฉันเป็นตายร้ายดีหรือจะอยู่ในที่นั้นไม่ได้ต่อไป ก็ขอน้อถวายให้เป็นสมบัติของวัดพระมหาธาตุต่อไปด้วย" เช่นนี้ย่อมเป็นการแสดงออกซึ่งเจตนาโดยชัดแจ้งว่าให้สิ่งปลูกสร้างนั้นเป็นส่วนควบกับที่ดินจะไม่รื้อถอนเอาไป เรือนพิพาทย่อมตกได้แก่เจ้าของที่ดินตาม ป.พ.พ.ม. 107 กรณีไม่เข้าข้อยกเว้นตาม ม.109 ดังนี้เมื่อโจทก์ไม่พอใจอยู่บ้านนั้นต่อไปแล้ว โจทก์ก็ไม่มีสิทธิรื้อถอนเรือนไปด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1739/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาให้สิ่งปลูกสร้างเป็นส่วนควบกับที่ดิน ทำให้เรือนเป็นของเจ้าของที่ดินตามหลักกฎหมาย
โจทก์ขออนุญาตปลูกเรือนพิพาทในที่วัดโดยตกลงกับวัดไว้ตามความตอนหนึ่ง ในหนังสือของโจทก์ที่มีไปถึงวัดดังนี้ " บ้านพักซึ่งหม่อมฉันปลูกไว้ในที่ดินขออาศัยนี้ หากหม่อมฉันเป็นตายร้ายดีลง หรือจะอยู่ในที่นั้นไม่ได้ต่อไป ก็ขอน้อมถวายให้เป็นสมบัติของวัดพระมหาธาตุต่อไปด้วย" เช่นนี้ย่อมเป็นการแสดงออกซึ่งเจตนาโดยชัดแจ้งว่าให้สิ่งปลูกสร้างนั้นเป็นส่วนควบกับที่ดินจะไม่รื้อถอนเอาไป เรือนพิพาทย่อมตกได้แก่เจ้าของที่ดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 107 กรณีไม่เข้าข้อยกเว้นตาม มาตรา 109 ดังนี้เมื่อโจทก์ไม่พอใจอยู่บ้านนั้นต่อไปแล้วโจทก์ก็ไม่มีสิทธิรื้อถอนเรือนไปด้วย
of 408