พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4,077 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1436/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาพาผู้อื่นเพื่ออนาจารเป็นความผิด แม้ไม่ได้ชำเราและผู้เสียหายยินยอม
ศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงตามศาลล่างทั้งสองว่าจำเลยสมคบกันใช้อุบายทุจริตล่อลวงพานางสุมล (อายุ 17 ปี 6 เดือน) ไปเพื่ออนาจาร ฉะนั้นความผิดของจำเลยจึงต้องด้วย มาตรา 276 เท่านั้น ไม่ผิด มาตรา 275 ด้วย เพราะมิใช่เป็นเรื่องเกลี้ยกล่อมพาเด็กไปเสียจากบิดามารดาหรือผู้มีอำนาจคุ้มครองโดยเจตนาหากำไรหรือเพื่อการอนาจารถึงเด็กจะเต็มใจไปด้วย
เมื่อผู้ใดมีเจตนาพาผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจารก็ย่อมเป็นความผิดสมบูรณ์ตาม มาตรา 276 แล้ว ไม่จำเป็นถึงต้องถูกชำเราหรือถูกทำอนาจารด้วย
เมื่อผู้ใดมีเจตนาพาผู้เสียหายไปเพื่อการอนาจารก็ย่อมเป็นความผิดสมบูรณ์ตาม มาตรา 276 แล้ว ไม่จำเป็นถึงต้องถูกชำเราหรือถูกทำอนาจารด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1370-1371/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำพินัยกรรมตามแบบธรรมดา มิใช่เอกสารลับ แม้จะฝากเก็บรักษาไว้กับอำเภอ
พินัยกรรมนั้นจะทำได้ก็แต่ตามแบบใดแบบหนึ่ง (ม. 1655) โดยลงลายมือชื่อไว้ต่อหน้าพยานอย่างน้อย 2 คนพร้อมกัน (ม.1656) โดยทำเป็นเอกสารเขียนเองทั้งฉบับก็ได้ (ม.1657) ฯลฯ
เมื่อปรากฎว่าพินัยกรรมนั้นทำขึ้นโดยเปิดเผยเป็นสามฉบับข้อความตรงกัน มอบให้ผู้รับพินัยกรรมไว้ 1 ฉบับ ผู้ทำเก็บไว้ 1 ฉบับ การทำมิได้มีการปิดบังอย่างใด เช่นนี้มิใช่เป็นพินัยกรรมทำตามแบบเอกสารลับ แม้จะระบุไว้ว่าฉบับหนึ่งให้ฝากอำเภอเก็บเป็นเอกสารลับนั้นก็เป็นการเข้าใจของผู้ทำว่าเอกสารที่ฝากอำเภอนั้น อำเภอย่อมเก็บลับเท่านั้นเอง ผู้ทำมิได้เจตนาทำเป็นแบบเอกสารลับและเพียงเท่านี้ยังมิทำให้พินัยกรรมนั้นกลายเป็นพินัยกรรมทำตามแบบเอกสารลับไปไม่ +
เมื่อปรากฎว่าพินัยกรรมนั้นทำขึ้นโดยเปิดเผยเป็นสามฉบับข้อความตรงกัน มอบให้ผู้รับพินัยกรรมไว้ 1 ฉบับ ผู้ทำเก็บไว้ 1 ฉบับ การทำมิได้มีการปิดบังอย่างใด เช่นนี้มิใช่เป็นพินัยกรรมทำตามแบบเอกสารลับ แม้จะระบุไว้ว่าฉบับหนึ่งให้ฝากอำเภอเก็บเป็นเอกสารลับนั้นก็เป็นการเข้าใจของผู้ทำว่าเอกสารที่ฝากอำเภอนั้น อำเภอย่อมเก็บลับเท่านั้นเอง ผู้ทำมิได้เจตนาทำเป็นแบบเอกสารลับและเพียงเท่านี้ยังมิทำให้พินัยกรรมนั้นกลายเป็นพินัยกรรมทำตามแบบเอกสารลับไปไม่ +
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1370-1371/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมเปิดเผยทำตามแบบธรรมดา ไม่เป็นพินัยกรรมลับ แม้ฝากอำเภอเก็บรักษา
พินัยกรรมนั้นจะทำได้ก็แต่ตามแบบใดแบบหนึ่ง (มาตรา1655)โดยลงลายมือชื่อไว้ต่อหน้าพยานอย่างน้อย 2 คนพร้อมกัน(มาตรา 1656)โดยทำเป็นเอกสารเขียนเองทั้งฉบับก็ได้(มาตรา 1657) ฯลฯ
เมื่อปรากฏว่าพินัยกรรมนั้นทำขึ้นโดยเปิดเผยเป็นสามฉบับข้อความตรงกัน มอบให้ผู้รับพินัยกรรมไว้ 1 ฉบับ ผู้ทำเก็บไว้ 1 ฉบับ การทำมิได้มีการปิดบังอย่างใดเช่นนี้มิใช่เป็นพินัยกรรมทำตามแบบเอกสารลับแม้จะระบุไว้ว่าฉบับหนึ่งให้ฝากอำเภอเก็บเป็นเอกสารลับนั้น ก็เป็นการเข้าใจของผู้ทำว่าเอกสารที่ฝากอำเภอนั้น อำเภอย่อมเก็บลับเท่านั้นเอง ผู้ทำมิได้เจตนาทำเป็นแบบเอกสารลับและเพียงเท่านี้ยังมิทำให้พินัยกรรมนั้นกลายเป็นพินัยกรรมทำตามแบบเอกสารลับไปไม่
เมื่อปรากฏว่าพินัยกรรมนั้นทำขึ้นโดยเปิดเผยเป็นสามฉบับข้อความตรงกัน มอบให้ผู้รับพินัยกรรมไว้ 1 ฉบับ ผู้ทำเก็บไว้ 1 ฉบับ การทำมิได้มีการปิดบังอย่างใดเช่นนี้มิใช่เป็นพินัยกรรมทำตามแบบเอกสารลับแม้จะระบุไว้ว่าฉบับหนึ่งให้ฝากอำเภอเก็บเป็นเอกสารลับนั้น ก็เป็นการเข้าใจของผู้ทำว่าเอกสารที่ฝากอำเภอนั้น อำเภอย่อมเก็บลับเท่านั้นเอง ผู้ทำมิได้เจตนาทำเป็นแบบเอกสารลับและเพียงเท่านี้ยังมิทำให้พินัยกรรมนั้นกลายเป็นพินัยกรรมทำตามแบบเอกสารลับไปไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1370-1371/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมเปิดเผยทำตามแบบธรรมดา มิใช่พินัยกรรมลับ แม้ฝากอำเภอเก็บรักษา
พินัยกรรมนั้นจะทำได้ก็แต่ตามแบบใดแบบหนึ่ง (มาตรา1655)โดยลงลายมือชื่อไว้ต่อหน้าพยานอย่างน้อย 2 คนพร้อมกัน(มาตรา 1656)โดยทำเป็นเอกสารเขียนเองทั้งฉบับก็ได้(มาตรา 1657) ฯลฯ
เมื่อปรากฏว่าพินัยกรรมนั้นทำขึ้นโดยเปิดเผยเป็นสามฉบับข้อความตรงกัน มอบให้ผู้รับพินัยกรรมไว้ 1 ฉบับ ผู้ทำเก็บไว้ 1 ฉบับ การทำมิได้มีการปิดบังอย่างใดเช่นนี้มิใช่เป็นพินัยกรรมทำตามแบบเอกสารลับแม้จะระบุไว้ว่าฉบับหนึ่งให้ฝากอำเภอเก็บเป็นเอกสารลับนั้น ก็เป็นการเข้าใจของผู้ทำว่าเอกสารที่ฝากอำเภอนั้น อำเภอย่อมเก็บลับเท่านั้นเอง ผู้ทำมิได้เจตนาทำเป็นแบบเอกสารลับและเพียงเท่านี้ยังมิทำให้พินัยกรรมนั้นกลายเป็นพินัยกรรมทำตามแบบเอกสารลับไปไม่
เมื่อปรากฏว่าพินัยกรรมนั้นทำขึ้นโดยเปิดเผยเป็นสามฉบับข้อความตรงกัน มอบให้ผู้รับพินัยกรรมไว้ 1 ฉบับ ผู้ทำเก็บไว้ 1 ฉบับ การทำมิได้มีการปิดบังอย่างใดเช่นนี้มิใช่เป็นพินัยกรรมทำตามแบบเอกสารลับแม้จะระบุไว้ว่าฉบับหนึ่งให้ฝากอำเภอเก็บเป็นเอกสารลับนั้น ก็เป็นการเข้าใจของผู้ทำว่าเอกสารที่ฝากอำเภอนั้น อำเภอย่อมเก็บลับเท่านั้นเอง ผู้ทำมิได้เจตนาทำเป็นแบบเอกสารลับและเพียงเท่านี้ยังมิทำให้พินัยกรรมนั้นกลายเป็นพินัยกรรมทำตามแบบเอกสารลับไปไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1350/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา พิจารณาจากพฤติการณ์แห่งการกระทำและการเลือกทำร้าย
จำเลยกับผู้ตายทุ่มเถียงกันมาก่อนเกิดเหตุ พอมาพบกันอีก ณ ที่เกิดเหตุจำเลยก็ใช้มีดแหลมยาวราว 1 คืบแทงไป 1 ที ตรงช่องท้อง เหนือสดือผู้ตายได้ตายใน 4ช.ม. ต่อมาโดยแม้จะได้ส่งไปโรงพยาบาลทันทีก็ตาม การกระทำของจำเลยเป็นการฆ่าคนตายโดยเจตนา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1350/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฆ่าโดยเจตนา: การแทงตามช่องท้องแสดงเจตนาทำร้ายถึงแก่ชีวิต
จำเลยกับผู้ตายทุ่มเถียงกันมาก่อนเกิดเหตุ พอมาพบกันอีก ณ ที่เกิดเหตุจำเลยก็ใช้มีดแหลมยาวราว 1 คืบแทงไป 1 ที ตรงช่องท้องเหนือสดือ ผู้ตายได้ตายใน4ช.ม.ต่อมา โดยแม้จะได้ส่งไปโรงพยาบาลทันทีก็ตาม การกระทำของจำเลยเป็นการฆ่าคนตายโดยเจตนา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1350/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฆ่าโดยเจตนา: การกระทำที่แสดงถึงเจตนาในการทำให้ถึงแก่ความตาย
จำเลยกับผู้ตายทุ่มเถียงกันมาก่อนเกิดเหตุ พอมาพบกันอีก ณ ที่เกิดเหตุจำเลยก็ใช้มีดแหลมยาวราว 1 คืบแทงไป 1 ที ตรงช่องท้องเหนือสดือ ผู้ตายได้ตายใน4ช.ม.ต่อมา โดยแม้จะได้ส่งไปโรงพยาบาลทันทีก็ตาม การกระทำของจำเลยเป็นการฆ่าคนตายโดยเจตนา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1344/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากวิวาทปืน: การประเมินเจตนาจากพฤติการณ์ยิง และผลกระทบต่อความผิดฐานพยายามฆ่า
ต่างใช้ปืนแก๊บยิงกันฝ่ายละนัด โดยสมัครใจวิวาทกันกระสุนถูกฝ่ายเดียวในที่ไม่สำคัญจึงเพียงแต่มีบาดเจ็บ หากถูกที่สำคัญก็ทำให้ตายได้ ต่างฝ่ายต่างมีความผิดตาม มาตรา 249,60
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1344/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากวิวาทปืน: การพิจารณาเจตนาจากพฤติการณ์ยิง และการใช้ดุลพินิจของศาล
ต่างใช้ปืนแก๊บยิงกันฝ่ายละนัด โดยสมัครใจวิวาทกันกระสุนถูกฝ่ายเดียวในที่ไม่สำคัญจึงเพียงแต่มีบาดเจ็บ หากถูกที่สำคัญก็ทำให้ตายได้ ต่างฝ่ายต่างมีความผิดตาม มาตรา 249,60
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1323/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาแจ้งความเท็จ – ความเข้าใจโดยสุจริต – ไม่เป็นความผิดตาม ม.158
แจ้งเท็จต่อเจ้าพนักงานตาม ก.ม. อาญา ม. 158 นั้นผู้แจ้งต้องมีเจตนาแจ้งเท็จให้ผู้อื่นเสียหายจึงจะมีความผิด
โจทก์กับบิดาจำเลยทำสัญญาซื้อสวนยางพิพาทกันที่สุดสัญญาต้องเลิกเพราะสามีโจทก์เป็นคนต่างด้าว โจทก์ต้องคืนสวนยาง บิดาจำเลยต้องคืนมัดจำตามที่ศาลตกลงกัน แต่โจทก์ถือว่าโจทก์ยังมีสิทธิตัดยางอยู่เพราะยังไม่ได้คืนมัดจำและจำเลยได้ไปแจ้งตำรวจจับโจทก์หาว่าลักตัดยางของบิดาตามที่บิดาใช้ไปภายหลังที่โจทก์ได้ทราบว่าไม่มีสิทธิซื้อและต้องคืนสวนยางแล้ว เช่นนี้เห็นได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการเข้าใจโดยสุจริตหาได้เจตนาแจ้งความเท็จให้โจทก์เสียหายไม่ จำเลยจึงไม่มีความผิดตาม ก.ม. อาญา ม. 158
โจทก์กับบิดาจำเลยทำสัญญาซื้อสวนยางพิพาทกันที่สุดสัญญาต้องเลิกเพราะสามีโจทก์เป็นคนต่างด้าว โจทก์ต้องคืนสวนยาง บิดาจำเลยต้องคืนมัดจำตามที่ศาลตกลงกัน แต่โจทก์ถือว่าโจทก์ยังมีสิทธิตัดยางอยู่เพราะยังไม่ได้คืนมัดจำและจำเลยได้ไปแจ้งตำรวจจับโจทก์หาว่าลักตัดยางของบิดาตามที่บิดาใช้ไปภายหลังที่โจทก์ได้ทราบว่าไม่มีสิทธิซื้อและต้องคืนสวนยางแล้ว เช่นนี้เห็นได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการเข้าใจโดยสุจริตหาได้เจตนาแจ้งความเท็จให้โจทก์เสียหายไม่ จำเลยจึงไม่มีความผิดตาม ก.ม. อาญา ม. 158