พบผลลัพธ์ทั้งหมด 4,077 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1323/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งความเท็จต้องมีเจตนาทำให้ผู้อื่นเสียหาย หากสุจริตไม่มีความผิด แม้จะมีการแจ้งความจับกุม
แจ้งเท็จต่อเจ้าพนักงานตามกฎหมายอาญา มาตรา 158 นั้นผู้แจ้งต้องมีเจตนาแจ้งเท็จให้ผู้อื่นเสียหายจึงจะมีความผิด
โจทก์กับบิดาจำเลยทำสัญญาซื้อสวนยางพิพาทกัน ที่สุดสัญญาต้องเลิกเพราะสามีโจทก์เป็นคนต่างด้าว โจทก์ต้องคืนสวนยาง บิดาจำเลยต้องคืนมัดจำตามที่ตกลงกัน แต่โจทก์ถือว่าโจทก์ยังมีสิทธิตัดยางอยู่เพราะยังไม่ได้คืนมัดจำ และจำเลยได้ไปแจ้งตำรวจจับโจทก์หาว่าลักตัดยางของบิดาตามที่บิดาใช้ไปภายหลังที่โจทก์ได้ทราบว่าไม่มีสิทธิซื้อและต้องคืนสวนยางแล้ว เช่นนี้เห็นได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการเข้าใจโดยสุจริตหาได้เจตนาแจ้งความเท็จให้โจทก์เสียหายไม่ จำเลยจึงไม่มีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 158
โจทก์กับบิดาจำเลยทำสัญญาซื้อสวนยางพิพาทกัน ที่สุดสัญญาต้องเลิกเพราะสามีโจทก์เป็นคนต่างด้าว โจทก์ต้องคืนสวนยาง บิดาจำเลยต้องคืนมัดจำตามที่ตกลงกัน แต่โจทก์ถือว่าโจทก์ยังมีสิทธิตัดยางอยู่เพราะยังไม่ได้คืนมัดจำ และจำเลยได้ไปแจ้งตำรวจจับโจทก์หาว่าลักตัดยางของบิดาตามที่บิดาใช้ไปภายหลังที่โจทก์ได้ทราบว่าไม่มีสิทธิซื้อและต้องคืนสวนยางแล้ว เช่นนี้เห็นได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการเข้าใจโดยสุจริตหาได้เจตนาแจ้งความเท็จให้โจทก์เสียหายไม่ จำเลยจึงไม่มีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 158
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1323/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งความเท็จต้องมีเจตนาทำให้ผู้อื่นเสียหาย แม้จะแจ้งความตามที่ได้รับมอบหมาย ก็ต้องพิจารณาความสุจริตของผู้แจ้ง
แจ้งเท็จต่อเจ้าพนักงานตามกฎหมายอาญา มาตรา 158 นั้นผู้แจ้งต้องมีเจตนาแจ้งเท็จให้ผู้อื่นเสียหายจึงจะมีความผิด
โจทก์กับบิดาจำเลยทำสัญญาซื้อสวนยางพิพาทกัน ที่สุดสัญญาต้องเลิกเพราะสามีโจทก์เป็นคนต่างด้าว โจทก์ต้องคืนสวนยาง บิดาจำเลยต้องคืนมัดจำตามที่ตกลงกัน แต่โจทก์ถือว่าโจทก์ยังมีสิทธิตัดยางอยู่เพราะยังไม่ได้คืนมัดจำ และจำเลยได้ไปแจ้งตำรวจจับโจทก์หาว่าลักตัดยางของบิดาตามที่บิดาใช้ไปภายหลังที่โจทก์ได้ทราบว่าไม่มีสิทธิซื้อและต้องคืนสวนยางแล้ว เช่นนี้เห็นได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการเข้าใจโดยสุจริตหาได้เจตนาแจ้งความเท็จให้โจทก์เสียหายไม่ จำเลยจึงไม่มีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 158
โจทก์กับบิดาจำเลยทำสัญญาซื้อสวนยางพิพาทกัน ที่สุดสัญญาต้องเลิกเพราะสามีโจทก์เป็นคนต่างด้าว โจทก์ต้องคืนสวนยาง บิดาจำเลยต้องคืนมัดจำตามที่ตกลงกัน แต่โจทก์ถือว่าโจทก์ยังมีสิทธิตัดยางอยู่เพราะยังไม่ได้คืนมัดจำ และจำเลยได้ไปแจ้งตำรวจจับโจทก์หาว่าลักตัดยางของบิดาตามที่บิดาใช้ไปภายหลังที่โจทก์ได้ทราบว่าไม่มีสิทธิซื้อและต้องคืนสวนยางแล้ว เช่นนี้เห็นได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการเข้าใจโดยสุจริตหาได้เจตนาแจ้งความเท็จให้โจทก์เสียหายไม่ จำเลยจึงไม่มีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 158
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1321/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องหย่าเนื่องจากสามีมีภรรยาใหม่และละทิ้งโจทก์ แสดงเจตนาสละภรรยาเดิม
สามีแยกกับภรรยาเดิมไปประกอบพิธีแต่งงานกับหญิงอื่นใหม่เช่นนี้เป็นการกระทำแสดงออกชัดว่าสามีสละละทิ้งภรรยาเด็ดขาดไปแล้ว กล่าวคือถ้าจำเลยไม่รับรองต่อภรรยาคนใหม่ว่าเลิกกับภรรยาเดิมเด็ดขาดแล้ว ภรรยาคนใหม่และผู้ปกครองจะไม่ประกอบพิธีให้ หากเป็นการที่จำเลยตั้งใจกล่าวเท็จแก่ภรรยาคนใหม่ให้หลงเข้าใจผิดก็เป็นการกระทำที่เย้ยหยันแก่ภรรยาเดิมให้ได้รับความอัปยศอดสูเป็นอย่างยิ่งเช่นนี้ก็ดี และการที่ภรรยาใหม่อยู่กินกับสามียังบ้านเรือนสามีก็เป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภรรยากันระหว่างสามีกับภรรยาเดิมอย่างร้ายแรงก็ดี ทั้งหลายนี้เป็นเหตุให้ภรรยาฟ้องหย่าได้ อนึ่งแม้จะปรากฎภายหลังว่าภรรยาคนใหม่ได้ละทิ้งสามีไปเสียแล้วก็หาใช่ความดีของสามีที่จะนำมาเป็นเหตุแก้ตัวได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1273/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่า - ฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา - การเมาสุรา - เหตุไม่มีสาเหตุ - การพิจารณาเจตนา
ขณะเกิดเหตุจำเลยกับผู้ตายและคนอื่นต่างเมาสุรา พอคนอื่นชกและตีผู้ตายเซไปแล้ว จำเลยจึงแทงผู้ตายด้วยมีดชุบเฉพาะตัวมีดยาวคืบเศษแทงผู้ตายหนึ่งที จำเลยกับผู้ตายไม่เคยมีสาเหตุกันมาก่อน หากแทงถูกที่สำคัญผู้ตายจึงตาย เพียงเท่านี้ยังไม่พอฟังว่าจำเลยมีเจตนาจะฆ่าให้ถึงตาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1271/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความผิดฐานฆ่าคนตาย โดยคำนึงถึงวันเกิดเหตุที่แตกต่างเล็กน้อย และพฤติการณ์ขณะกระทำผิด
ฟ้องของโจทก์เป็นแต่กล่าวถึงวันกระทำผิดของจำเลยว่าเป็นวันที่ 29 มี.ค. 96 หาได้กล่าวว่าเป็นวันอะไรไม่ พยานโจทก์ทุกคนก็ว่าวันเกิดเหตุเป็นวันที่ 29 มี.ค. 96 ตรงกับฟ้อง แม้พยานโจทก์บางคนจะกล่าวว่าวันเกิดเหตุเป็นวันที่ 29 มี.ค. 96 เป็นวันเสาร์ ความจริงเป็นวันอาทิตย์ เมื่อข้อเท็จจริงอื่นๆ ยังน่าเชื่อว่าวันเกิดเหตุเป็นวันอาทิตย์ที่ 29 มี.ค.96 ซึ่งตรงกับวันที่โจทก์ฟ้อง ดังนี้ที่พยานบางคนว่าเป็นวันเสาร์จึงอาจจำผิดไปเพียงเท่านี้ ยังเรียกไม่ได้ว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง
จำเลยแทงผู้ตายขณะเมาสุรา อาวุธที่กระทำร้ายก็เป็นมีดขนาดเล็กและกระทำข้างหลังผู้ตายแต่เพียงที่เดียวเพียงเท่านี้ยังไม่พอชี้ขาดว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า
จำเลยแทงผู้ตายขณะเมาสุรา อาวุธที่กระทำร้ายก็เป็นมีดขนาดเล็กและกระทำข้างหลังผู้ตายแต่เพียงที่เดียวเพียงเท่านี้ยังไม่พอชี้ขาดว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1271/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา แม้ข้อเท็จจริงวันเกิดเหตุคลาดเคลื่อนเล็กน้อย และพฤติการณ์การกระทำ
ฟ้องของโจทก์เป็นแต่กล่าวถึงวันกระทำผิดของจำเลยว่าเป็นวันที่ 29 มี.ค. 96 หาได้กล่าวว่าเป็นวันอะไรไม่ พยานโจทก์ทุกคนก็ว่าวันเกิดเหตุเป็นวันที่ 29 มี.ค. 96 ตรงกับฟ้อง แม้พยานโจทก์บางคนจะกล่าวว่าวันเกิดเหตุเป็นวันที่ 29 มี.ค. 96 เป็นวันเสาร์ ความจริงเป็นวันอาทิตย์ เมื่อข้อเท็จจริงอื่นๆ ยังน่าเชื่อว่าวันเกิดเหตุเป็นวันอาทิตย์ที่ 29 มี.ค.96 ซึ่งตรงกับวันที่โจทก์ฟ้อง ดังนี้ที่พยานบางคนว่าเป็นวันเสาร์จึงอาจจำผิดไปเพียงเท่านี้ ยังเรียกไม่ได้ว่าข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง
จำเลยแทงผู้ตายขณะเมาสุรา อาวุธที่กระทำร้ายก็เป็นมีดขนาดเล็กและกระทำข้างหลังผู้ตายแต่เพียงที่เดียวเพียงเท่านี้ยังไม่พอชี้ขาดว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า
จำเลยแทงผู้ตายขณะเมาสุรา อาวุธที่กระทำร้ายก็เป็นมีดขนาดเล็กและกระทำข้างหลังผู้ตายแต่เพียงที่เดียวเพียงเท่านี้ยังไม่พอชี้ขาดว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1211/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์ต้องแสดงเจตนาชัดเจน การตัดไม้ทำประโยชน์เองหรือให้ผู้อื่นทำไม่ใช่การครอบครองตามกฎหมาย
เข้าไปตัดไม้แสมเอาไปทำฟืนกับให้ผู้อื่นไปตัดเอามาใช้บ้างและทำคันหวงกันป่าแสมไว้ด้านหนึ่งนั้น ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการใช้อำนาจครอบครองตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1211/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์ต้องแสดงเจตนาชัดเจน การตัดไม้ทำประโยชน์ทั่วไปยังไม่ถือเป็นการครอบครองเพื่อตนเอง
เข้าไปตัดไม้แสมเอาไปทำฟืนกับให้ผู้อื่นไปตัดเอามาใช้บ้างและทำคันหวงกันป่าแสมไว้ด้านหนึ่งนั้น ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการใช้อำนาจครอบครองตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1198/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความอาฆาตและการจ้างวานฆ่าต่อเนื่อง ศาลพิพากษายืนตามโทษฐานพยายามฆ่าและฆ่าโดยเจตนา
จำเลยที่ 1 อาฆาตผู้เสียหาย ได้พยายามหลายครั้งที่จะทำลายชีวิตผู้เสียหายต่อเนื่องกันมา ที่สุดได้จ้างจำเลยที่ 2 ให้ไปยิงผู้เสียหาย หากไม่ถูกที่สำคัญจึงไม่ตาย ดังนี้ความผิดของจำเลยที่ 2 ผู้ลงมือกระทำต้องปรับตามมาตรา 249,60 ส่วนจำเลยที่ 1 ผู้จ้างด้วยความแค้นและพยายามนั้นต้องปรับตาม มาตรา 250(3),60
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1152/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การต่อสู้วิวาทและการพิจารณาเจตนาในการทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย
การที่ผู้ตายกับจำเลยต่างฟันกันคนละทีแล้วจำเลยแทงซ้ำอีก 3 ทีในขณะที่ต่อสู้กันนั้นเป็นเรื่องต่อสู้ทำร้ายติดพันกันในการวิวาท ประกอบกับผู้ตายและจำเลยเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ไม่มีสาเหตุอันใดต่อกัน เช่นนี้แสดงให้เห็นว่าจำเลยไม่มีเจตนาจะฆ่าผู้ตาย จำเลยหามีผิดตามมาตรา 249 ไม่ แต่มีผิดเพียง มาตรา 251