พบผลลัพธ์ทั้งหมด 36 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 905/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้มาซึ่งที่ดินมรดกและที่งอกหน้าดิน โดยการยกให้ด้วยวาจาไม่สมบูรณ์ และสิทธิในการแบ่งมรดก
การยกที่ดินมีโฉนดให้โดยเพียงแต่พูดด้วยวาจาไม่ได้ทำเป็นหนังสือจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ทำชอบด้วยกฏหมายไม่
ทรัพย์มรดก เมื่อทายาทได้ปกครองร่วมกันมาแม้จะล่วงพ้นกำหนด 1 ปี หลังจากเจ้ามรดกตายแล้วก็ตาม แต่ยังไม่ถึง 10 ปี ทายาทย่อมมีสิทธิฟ้องขอแบ่งมรดกนั้นได้
ที่งอกหน้าที่ดินย่อมตกเป็นทรัพย์สินของเจ้าของที่ดินแปลงนั้น
ที่งอกหน้าที่ดิน เมื่อมีผู้ครอบครองเป็นส่วนสัดโดยความสงบและเปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของมากว่า 10 ปี ที่งอกนั้นย่อมตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ครอบครอง
ทรัพย์มรดก เมื่อทายาทได้ปกครองร่วมกันมาแม้จะล่วงพ้นกำหนด 1 ปี หลังจากเจ้ามรดกตายแล้วก็ตาม แต่ยังไม่ถึง 10 ปี ทายาทย่อมมีสิทธิฟ้องขอแบ่งมรดกนั้นได้
ที่งอกหน้าที่ดินย่อมตกเป็นทรัพย์สินของเจ้าของที่ดินแปลงนั้น
ที่งอกหน้าที่ดิน เมื่อมีผู้ครอบครองเป็นส่วนสัดโดยความสงบและเปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของมากว่า 10 ปี ที่งอกนั้นย่อมตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ครอบครอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 844/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนที่ดินมือเปล่าโดยการยกให้มีผลทำให้ผู้ให้สละการครอบครอง กรรมสิทธิ์จึงตกแก่ผู้รับ
ก่อนผู้ให้ตาย ได้ยกที่ดินและบ้านเรือนให้ผู้รับเข้าครอบครองแล้ว แม้การยกให้จะมิได้จดทะเบียนก็ตาม ที่ดินรายนี้เป็นที่ดินมือเปล่า การที่ผู้ให้ยกให้ ถือได้ว่าเป็นการสละเจตนาครอบครองที่ดินและบ้านเรือน การครอบครองของผู้ให้ก็สิ้นลงและผู้รับซึ่งเป็นผู้รับโอนก็ได้ไปซึ่งการครอบครองนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1657/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกให้ที่ดินมีโฉนดต้องจดทะเบียนตามกฎหมายจึงสมบูรณ์ การครอบครองยังไม่ทำให้ได้กรรมสิทธิ์
การทำหนังสือยกให้ที่ดินมีโฉนดโดยมิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ สัญญายกให้นั้นย่อมไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย
คำว่า "ทรัพย์สิน" ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 523 หมายถึงเฉพาะสังหาริมทรัพย์ ทั่ว ๆ ไปเท่านั้น มิได้หมายถึงอสังหาริมทรัพย์ หรืออสังหาริมทรัพย์บางชนิดซึ่งถ้าจะซื้อขายต้องทำเป็นหนังสือ และจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 456 วรรค 1 ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์หรือสังหาริมทรัพย์บางชนิดซึ่งถ้าจะซื้อขายต้องทำเป็นหนังสือ และจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 456 วรรค 1 ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์หรือสังหาริมทรัพย์ดังระบุไว้ตาม มาตรา 456 วรรค 1 แล้ว การให้ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงจะสมบูรณ์
คำสั่งของศาลชั้นต้นอันเป็นการวินิจฉัยในประเด็นแห่งคดี มิใช่เป็นการวินิจฉัยว่าฟ้องไม่ชอบหรือไม่ถูกต้องแล้วในลักษณะอันแท้จริงจึงเป็นยกฟ้อง หาใช่ไม่รับฟ้องไม่
คำว่า "ทรัพย์สิน" ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 523 หมายถึงเฉพาะสังหาริมทรัพย์ ทั่ว ๆ ไปเท่านั้น มิได้หมายถึงอสังหาริมทรัพย์ หรืออสังหาริมทรัพย์บางชนิดซึ่งถ้าจะซื้อขายต้องทำเป็นหนังสือ และจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 456 วรรค 1 ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์หรือสังหาริมทรัพย์บางชนิดซึ่งถ้าจะซื้อขายต้องทำเป็นหนังสือ และจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 456 วรรค 1 ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์หรือสังหาริมทรัพย์ดังระบุไว้ตาม มาตรา 456 วรรค 1 แล้ว การให้ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงจะสมบูรณ์
คำสั่งของศาลชั้นต้นอันเป็นการวินิจฉัยในประเด็นแห่งคดี มิใช่เป็นการวินิจฉัยว่าฟ้องไม่ชอบหรือไม่ถูกต้องแล้วในลักษณะอันแท้จริงจึงเป็นยกฟ้อง หาใช่ไม่รับฟ้องไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1583/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิ์จากครอบครองปรปักษ์ แม้การยกให้ไม่เป็นไปตามกฎหมาย
เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นซึ่งรวมใจความได้ว่า จำเลยได้ยกที่พิพาทให้แก่โจทก์และโจทก์ได้ครอบครองที่พิพาทเพื่อตนตลอดมาเป็นเวลา 15-16 ปีแล้ว โจทก์ย่อมได้กรรมสิทธิ์ ดังนี้ แม้จะยอมฟังตามข้อฎีกาของจำเลยว่าการที่จำเลยยกที่พิพาทให้โจทก์ มิได้ทำเป็นหนังสือจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่โจทก์ก็ยังได้สิทธิทางครอบครองมานานเกินกว่า 10 ปี เห็นได้ชัดว่าปัญหาข้อกฎหมายประการนี้ไม่เป็นประโยชน์แก่คดีของจำเลย และไม่เป็นเหตุที่จะกระทำให้จำเลยกลับเป็นฝ่ายชนะคดีขึ้นมาได้ ศาลฎีกามีอำนาจไม่วินิจฉัยข้อกฎหมายนี้ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1583/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ แม้การยกให้เดิมไม่ชอบด้วยกฎหมาย
เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นซึ่งรวมใจความได้ว่า จำเลยได้ยกที่พิพาทให้แก่โจทก์ และโจทก์ได้ครอบครองที่พิพาทเพื่อตนตลอดมาเป็นเวลา 15-16 ปีแล้ว โจทก์ย่อมได้กรรมสิทธิ์ ดังนี้ แม้จะยอมฟังตามข้อฎีกาของจำเลยว่าการที่จำเลยยกที่พิพาทให้โจทก์ มิได้ทำเป็นหนังสือจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่โจทก์ก็ยังได้สิทธิทางครอบครองมานานเกินกว่า 10 ปี เห็นได้ชัดว่าปัญหาข้อกฎหมายประการนี้ไม่เป็นประโยชน์แก่คดีของจำเลย และไม่เป็นเหตุที่จะกระทำให้จำเลยกลับเป็นฝ่ายชนะคดีขึ้นมาได้ ศาลฎีกามีอำนาจไม่วินิจฉัยข้อกฎหมายนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1651-1652/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในที่ดิน: การครอบครองเพื่อรักษาไว้เป็นของกลาง ไม่ทำให้ได้กรรมสิทธิ์, การยกให้และการครอบครอง
โจทก์จำเลยพิพาทเป็นคดีสองเรื่อง เรื่องหนึ่งเป็นคดีมีทุนทรัพย์เกิน 2,000 บาท อีกคดีหนึ่งเป็นคดีพิพาทกันโดยไม่มีทุนทรัพย์ ศาลชั้นต้นยกฟ้องโจทก์ทั้งสองสำนวน ศาลอุทธรณ์คงพิพากษาแก้เฉพาะสำนวนมีทุนทรัพย์ให้แบ่งทรัพย์ที่ฟ้องคนละครึ่ง จำเลยเป็นฝ่ายฎีกาขึ้นมาแต่ก็ไม่ได้โต้เถียงอะไร ในคดีพิพาทไม่มีทุนทรัพย์ทั้งไม่มีเหตุสำหรับฎีกา ประกอบทั้งคดีที่พิพาทกันโดยไม่มีทุนทรัพย์ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ยกฟ้องโจทก์ จึงต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 และถือว่าจำเลยฎีกาขึ้นมาเพียงคดีมีทุนทรัพย์เกิน 2,000 บาทคดีเดียว
ฟ้องขอให้ศาลแสดงกรรมสิทธิ์ว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์โดยผู้มีชื่อยกให้โจทก์เข้าปกครองมา 25 ปีแล้ว เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าผู้มีชื่อหาได้ยกที่ให้โจทก์ไม่ เป็นแต่มอบให้โจทก์และผู้อื่นปกครองรักษาไว้เป็นของกลางเท่านั้น โจทก์จึงไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ และจะขอศาลสั่งว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิของโจทก์ไม่ได้
การปกครองรักษาที่พิพาทไว้ในฐานะของกลางตามคำสั่งของผู้ตายโดยไม่ปรากฏว่าผู้ครอบครองจะไม่ปกครองที่พิพาทไว้ตามคำสั่งของผู้ตาย ภายหลังจากผู้ตายได้ตายแล้ว กับทั้งผู้ครอบครองไม่เคยแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ว่าตนเป็นเจ้าของที่พิพาทรายนี้ การเสียภาษีบำรุงท้องที่ผู้อื่นก็เป็นผู้เสีย ดังนี้ ถือว่าเป็นการปกครองรักษาไว้เป็นของกลางเท่านั้น มิใช่เป็นการปกครองเพื่อเอากรรมสิทธิ์
ฟ้องขอให้ศาลแสดงกรรมสิทธิ์ว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์โดยผู้มีชื่อยกให้โจทก์เข้าปกครองมา 25 ปีแล้ว เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าผู้มีชื่อหาได้ยกที่ให้โจทก์ไม่ เป็นแต่มอบให้โจทก์และผู้อื่นปกครองรักษาไว้เป็นของกลางเท่านั้น โจทก์จึงไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ และจะขอศาลสั่งว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิของโจทก์ไม่ได้
การปกครองรักษาที่พิพาทไว้ในฐานะของกลางตามคำสั่งของผู้ตายโดยไม่ปรากฏว่าผู้ครอบครองจะไม่ปกครองที่พิพาทไว้ตามคำสั่งของผู้ตาย ภายหลังจากผู้ตายได้ตายแล้ว กับทั้งผู้ครอบครองไม่เคยแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ว่าตนเป็นเจ้าของที่พิพาทรายนี้ การเสียภาษีบำรุงท้องที่ผู้อื่นก็เป็นผู้เสีย ดังนี้ ถือว่าเป็นการปกครองรักษาไว้เป็นของกลางเท่านั้น มิใช่เป็นการปกครองเพื่อเอากรรมสิทธิ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 564/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดิน - การบุกรุก - ฟ้องซ้ำ: เจ้าของกรรมสิทธิ์มีสิทธิฟ้อง แม้จะยกให้บุตรแล้วแต่การให้ไม่สมบูรณ์ คดีไม่ซ้ำเพราะไม่ใช่คู่ความเดิม
ที่พิพาทเป็นที่บ้านที่สวนโจทก์นำสืบได้ว่ามีสิทธิในที่นั้นตามกฎหมายลักษณะเบ็ดเสร็จ บทที่ 42 แม้โจทก์จะได้ยกที่พิพาทให้แก่บุตร เมื่อ 4 ปีมาแล้ว แต่การให้ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ที่พิพาทก็ยังเป็นของโจทก์อยู่ โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยผู้กระทำการบุกรุกได้
คดีก่อนบุตรโจทก์ฟ้องจำเลยส่วนคดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยในกรณีเดียวกันไม่ใช่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะคดีก่อนโจทก์มิได้เป็นคู่ความกับจำเลย
คดีก่อนบุตรโจทก์ฟ้องจำเลยส่วนคดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยในกรณีเดียวกันไม่ใช่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะคดีก่อนโจทก์มิได้เป็นคู่ความกับจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 576/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงกรรมสิทธิในที่ดินที่ได้จากการยกให้และการครอบครอง การเปลี่ยนแปลงสภาพคดีจากคำร้องเป็นคดีมีข้อพิพาท
ยื่นคำร้องขอให้ศาลแสดงว่าตนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิในที่ดินที่มีโฉนด ซึ่งมีผู้ยกให้ตนปกครองมาจนได้กรรมสิทธิตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1382 และขอให้ศาลสั่งเจ้าพนักงานที่ดินจดทะเบียนให้ผู้ร้องนั้น เมื่อบิดาผู้ร้องคัดค้านโต้แย้งเข้ามาทำให้คดีแปรสภาพเป็นคดีมีข้อพิพาทขึ้นตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 188(4) ก็ตามและการที่ผู้คัดค้านเข้ามามีฐานะเป็นคู่ความ ไม่ใช่เป็นการกระทำของผู้ร้อง ดังนั้นจึงเรียกไม่ได้ว่าผู้ร้องได้ฟ้องบุพพการีของตน คดีจึงไม่ต้องห้ามตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1534
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 565/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิที่ดินโดยครอบครองปรปักษ์ แม้ผู้ยกให้ไม่มีกรรมสิทธิสมบูรณ์
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยได้เข้าครอบครองที่ดินโดยสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของมาเกิน 10 ปีแล้ว จำเลยก็ย่อมได้กรรมสิทธิตามมาตรา 1382 ป.พ.พ. โดยไม่ต้องคำนึงว่าผู้ที่ยกที่ดินให้จำเลยเข้าครอบครองนั้นจะเป็นเจ้าของที่ดินหรือไม่ และหนังสือยกให้นั้นจะใช้ได้ตามกฎหมายหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 565/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ แม้ผู้ยกให้ไม่มีกรรมสิทธิ์สมบูรณ์
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยได้เข้าครอบครองที่ดินโดยสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเกินกว่า 10 ปีแล้ว
จำเลยก็ย่อมได้กรรมสิทธิ์ตามมาตรา 1382ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์โดยไม่ต้องคำนึงว่าผู้ที่ยกที่ดินให้จำเลยเข้าครอบครองนั้นจะเป็นเจ้าของที่ดินหรือไม่และหนังสือยกให้นั้นจะใช้ได้ตามกฎหมายหรือไม่
จำเลยก็ย่อมได้กรรมสิทธิ์ตามมาตรา 1382ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์โดยไม่ต้องคำนึงว่าผู้ที่ยกที่ดินให้จำเลยเข้าครอบครองนั้นจะเป็นเจ้าของที่ดินหรือไม่และหนังสือยกให้นั้นจะใช้ได้ตามกฎหมายหรือไม่