คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
การรับสารภาพ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 52 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 676/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ความผิดทางอาญาต้องอาศัยพยานหลักฐานที่น่าเชื่อถือ การรับสารภาพที่ไม่ปรากฏหลักฐานสนับสนุนและโอกาสซักค้านพยานจึงฟังไม่ได้
คดีความผิดฐานฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นซึ่งมีอัตราโทษสูงแม้จำเลยจะให้การรับสารภาพต่อศาลโจทก์ก็ยังต้องนำพยานมาสืบให้เป็นที่พอใจศาลว่าจำเลยเป็นผู้กระทำผิดจริง.ศาลจึงจะลงโทษจำเลยได้ลำพังคำรับสารภาพนอกศาลแต่ในชั้นศาลจำเลยให้การปฏิเสธย่อมไม่มีน้ำหนักเพียงพอให้ศาลรับฟังลงโทษจำเลยได้การที่โจทก์ส่งคำให้การพยานชั้นสอบสวนแต่นำตัวพยานมาเบิกความต่อศาลไม่ได้.จำเลยไม่มีโอกาสซักค้านพยานดังกล่าวคำให้การพยานในชั้นสอบสวนจึงไม่มีน้ำหนัก.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2033/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาและเหตุบรรเทาโทษ ศาลมีอำนาจลดโทษได้แม้ไม่มีการอุทธรณ์
จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนว่าได้ใช้อาวุธปืนยิงและตีผู้ตายจนถึงแก่ความตายจริง โดยมิได้อ้างเหตุในเรื่องป้องกันตัวขึ้นต่อสู้ในชั้นพิจารณาจำเลยก็เบิกความรับข้อเท็จจริงดังกล่าวและรับด้วยว่าได้ลงชื่อไว้ในคำให้การจริงทั้งศาลชั้นต้นก็ได้ยกเอาคำให้การดังกล่าวขึ้นมารับฟังประกอบการวินิจฉัยคดีด้วยดังนี้ ถือได้ว่าคำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวนและคำเบิกความของจำเลยในชั้นพิจารณาเป็นการให้ความรู้แก่ศาลอันเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา เป็นเหตุบรรเทาโทษ
การที่ศาลลงโทษจำเลยน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดเพราะจำเลยกระทำความผิดโดยบันดาลโทสะแล้วนั้น ศาลยังลดโทษให้จำเลยในกรณีที่มีเหตุบรรเทาโทษในประการอื่นได้อีก
เมื่อคดีขึ้นมาสู่การพิจารณาของศาลอุทธรณ์แล้วหากศาลอุทธรณ์เห็นว่ามีเหตุบรรเทาโทษแก่จำเลยในข้อหาความผิดที่มิได้อุทธรณ์ขึ้นมาด้วยเพราะจำเลยให้การรับสารภาพศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยและลดโทษให้แก่จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2278/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาด้วยวาจาและการแก้ไขวันกระทำผิดในบันทึก ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยได้
โจทก์ฟ้องด้วยวาจาเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2524 ว่าจำเลยกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายถึงสาหัสและกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติจราจรทางบก ปรากฏในบันทึกคำฟ้องของศาลว่าจำเลยกระทำความผิดเมื่อวันที่ 31มิถุนายน 2524 อันเป็นวันภายหลังที่โจทก์ฟ้อง แต่ปรากฏตามบันทึกการตกลงชดใช้ค่าเสียหายและคำร้องขอผัดฟ้องและฝากขังว่าจำเลยกระทำผิดเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2524 และต่อมาเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2524 จำเลยมอบตัวต่อพนักงานสอบสวนและให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน ในวันที่โจทก์ฟ้องจำเลยก็ยังได้ยื่นคำร้องยอมรับสารภาพว่าได้กระทำความผิดจริงแสดงว่าจำเลยทราบดีถึงการกระทำความผิดของจำเลย ทั้งจำเลยมิได้หลงต่อสู้ การที่ศาลบันทึกวันกระทำผิดของจำเลยผิดพลาดไปเป็นเรื่องของความพลั้งเผลอจึงหาใช่เป็นการฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิดภายหลังวันที่โจทก์ฟ้องไม่ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1554/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งข้อหาและการสอบสวนความผิดฐานฉ้อโกงทางการค้า จำเลยให้การรับสารภาพ
เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้จับกุมจำเลยได้แจ้งข้อหาว่าจำเลยมีเครื่องชั่งผิดอัตราไว้ในความครอบครองเพื่อเอาเปรียบทางการค้า พนักงานสอบสวนได้สอบสวนจำเลยในวันเดียวกัน จำเลยให้การรับสารภาพ แม้บันทึกคำให้การของจำเลยจะไม่มีข้อความว่าได้แจ้งข้อหาในความผิดเกี่ยวกับการค้า แต่ก็ได้แจ้งข้อหาความผิดตามพระราชบัญญัติมาตราชั่ง ตวง วัด อันเป็นเรื่องประธานแล้วจึงถือได้ว่ามีการสอบสวนในความผิดเกี่ยวกับการค้าด้วยแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2504/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การร่วมกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่น แม้จะให้การรับสารภาพแล้วเบิกความปฏิเสธ ศาลพิจารณาจากพฤติการณ์ที่ร่วมกันก่อเหตุ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยร่วมกับพวกที่หลบหนี ใช้ปืนยิงผู้ตายโดยเจตนาฆ่า แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพตามฟ้องก็อ้างตนเองเข้าเบิกความเป็นพยานว่าไม่ได้กระทำผิด โดยไม่ต้องถอนคำให้การเดิมได้
ผู้ตายเป็นหลานของ ท. ท. กับสามีไปทวงหนี้จากสามีจำเลยเกิดทะเลาะกันจนเกือบต่อสู้กัน ผู้ตายเข้าห้ามและว่าให้ไปพูดกันที่บ้านสามีจำเลย เมื่อไปพูดกันก็ทะเลาะกันอีกผู้ตายเข้าห้ามไว้อีกเมื่อผู้ตายกลับบ้านแล้ว หลังจากนั้น 1 ชั่วโมง จำเลยกับสามีและชายอีกคนหนึ่งมาร้องถามหาผู้ตาย พอผู้ตายออกมา ชายที่มากับจำเลยถามว่าคนไหนคือผู้ตาย จำเลยชี้มือบอก ชายคนนั้นก็ยิงผู้ตาย แล้วจำเลยกับพวกก็วิ่งหนีไปทางเดียวกัน ถือว่าจำเลยร่วมกระทำผิดฐานฆ่าผู้ตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 247/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วันเวลาในคำฟ้องไม่ใช่สาระสำคัญ หากจำเลยให้การรับสารภาพและพฤติกรรมตามฟ้องเป็นความผิด
ฟ้องว่าเหตุเกิดวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2510 แต่ทางพิจารณาได้ความว่าเหตุเกิดวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2510 ข้อเท็จจริงจึงต่างกับฟ้อง แต่วันเวลาในคำฟ้องไม่เป็นสารสำคัญของคำฟ้อง เป็นแต่เพียงรายละเอียดเพื่อให้จำเลยเข้าใจข้อหาเท่านั้น และทั้งจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้ เพราะจำเลยให้การรับสารภาพ หากทางพิจารณาฟังได้ว่าจำเลยกระทำความผิดตามสารสำคัญของคำฟ้องแล้ว ศาลย่อมพิพากษาลงโทษจำเลยได้ (อ้างฎีกาที่ 926/2510).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 262/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดโทษจำเลยที่ให้การรับสารภาพเพื่อหวังผลประโยชน์อื่น และกลับให้การต่อสู้คดีภายหลัง
ในกรณีที่จำเลยเข้ามอบตัวต่อเจ้าพนักงานและให้การรับสารภาพแต่ด้วยความมุ่งหมายที่จะให้เจ้าพนักงานกันจำเลยไว้เป็นพยาน ครั้นการไม่เป็นไปตามความประสงค์เมื่อคดีมาสู่ศาล จำเลยก็กลับให้การต่อสู้คดีตลอดมา เช่นนี้ แม้คำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยจะเป็นประโยชน์ก็สมควรลดโทษให้จำเลยหนึ่งในสามเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 262/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดโทษจำเลยที่ให้การรับสารภาพแต่มีเจตนาอื่น ศาลพิจารณาจากพฤติการณ์และคำให้การที่เป็นประโยชน์
ในกรณีที่จำเลยเข้ามอบตัวต่อเจ้าพนักงานและให้การรับสารภาพแต่ด้วยความมุ่งหมายที่จะให้เจ้าพนักงานกันจำเลยไว้เป็นพยานครั้นการไม่เป็นไปตามความประสงค์เมื่อคดีมาสู่ศาลจำเลยก็กลับให้การต่อสู้คดีตลอดมา เช่นนี้แม้คำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยจะเป็นประโยชน์ก็สมควรลดโทษให้จำเลยหนึ่งในสามเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 679/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องอาญาฐานปลอมแปลงเอกสารต้องแสดงหลักฐานการสมคบร่วมกัน การให้การรับสารภาพเพียงอย่างเดียวไม่ถือเป็นความผิด
ฟ้องที่ไม่มีข้อความอันแสดงว่าจำเลยได้สมคบหรือร่วมมือกับผู้อื่นในการปลอมเอกสารหรือใช้เอกสารปลอม ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 264,265,268,83 ที่โจทก์อ้าง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 265/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีรับของโจรต่างกรรมต่างวาระ ศาลรับฟังการรับสารภาพจำเลยได้ แม้มีข้อเท็จจริงเกี่ยวกับของกลางร่วมกัน
โจทก์ฟ้องจำเลยคนเดียวเป็น 2 คดี คดีแรกฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรโค จำเลยรับสารภาพฐานรับของโจร ศาลลงโทษไปแล้วคดีหลังฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรกระบือ โดยโจทก์บรรยายฟ้องให้เห็นว่ามีผู้พบเห็นจำเลยครอบครองโคกระบือของกลางทั้งสองคดีอยู่ในขณะเดียวกัน และแถลงรับว่าฟ้องคดีโดยอาศัยข้อเท็จจริงที่มีผู้พบเห็นจำเลยครอบครองของกลางดังกล่าว จำเลยรับสารภาพฐานรับของโจรอีก กับแถลงรับตามที่ศาลสอบถามว่าจำเลยกระทำผิดต่างกรรมต่างวาระกันกับคดีก่อนเช่นนี้ แม้โจทก์ไม่สืบพยาน ศาลก็ลงโทษจำเลยฐานรับของโจรในคดีหลังได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำและการที่ศาลถามจำเลยดังกล่าวก็เป็นการสอบถามในรายละเอียดแห่งข้อเท็จจริงไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 235 วรรค 2
of 6