พบผลลัพธ์ทั้งหมด 60 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2215/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขคำฟ้องและการหลงต่อสู้: ศาลอนุญาตแก้ไขได้หากไม่ทำให้จำเลยหลงต่อสู้
ในวันนัดสืบพยานโจทก์นัดสุดท้าย โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขคำฟ้องเกี่ยวกับเดือนที่จำเลยกระทำผิดจากเดือนกรกฎาคม 2530เป็นเดือนพฤษภาคม 2530 ซึ่งเป็นเดือนที่เกิดเหตุจริงตามที่พยานโจทก์เบิกความ เมื่อปรากฏว่าจำเลยให้การปฏิเสธลอย แม้จำเลยจะนำสืบว่าเดือนกรกฎาคม 2530 จำเลยถูกขังอยู่ในเรือนจำก็เป็นการถูกขังระหว่างสอบสวนในคดีนี้ จึงถือไม่ได้ว่าเป็นกรณีที่จำเลยหลงต่อสู้ ชอบที่ศาลจะอนุญาตให้โจทก์แก้ไขคำฟ้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 871/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ศาลต้องฟังข้อเท็จจริงเหตุเลิกจ้างก่อนวินิจฉัยการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม การงดสืบพยานโดยไม่ฟังข้อเท็จจริงเป็นวิธีพิจารณาที่ไม่ถูกต้อง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยไม่เป็นธรรม จำเลยให้การว่าโจทก์กระทำการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับและผิดวินัยตามระเบียบของจำเลยโดยทุจริตและจงใจทำให้จำเลยเสียหาย การเลิกจ้างโจทก์จึงมิใช่การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม ดังนี้ ศาลจำต้องฟังข้อเท็จจริงถึงเหตุแห่งการเลิกจ้างว่าเป็นเพราะเหตุใด และเหตุดังกล่าวเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมหรือไม่ ส่วนการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนจะชอบด้วยระเบียบของจำเลยหรือไม่ ไม่เกี่ยวกับการที่ศาลจะวินิจฉัยในกรณีนี้ การที่ศาลแรงงานกลางเพียงแต่ฟังคำแถลงด้วยวาจาของฝ่ายโจทก์และฝ่ายจำเลยซึ่งเป็นการแถลงของแต่ละฝ่ายโดยอีกฝ่ายมิได้ยอมรับข้อเท็จจริงด้วย แล้วมีคำสั่งงดสืบพยานและวินิจฉัยว่าการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนไม่ชอบด้วยระเบียบของจำเลย การเลิกจ้างจึงเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมนั้น เป็นเรื่องที่มิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายวิธีพิจารณาความว่าด้วยการพิจารณาพิพากษาศาลฎีกาให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลแรงงานกลางพิจารณาพิพากษาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3629/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่อนุญาตระบุพยานเพิ่มเติมหลังสืบพยานหลักฐานเสร็จสิ้น ต้องพิจารณาเหตุผลความจำเป็นและประเด็นสำคัญที่ต้องสืบ
จำเลยยื่นคำร้องขอระบุพยานเพิ่มเติมโดยขอเปลี่ยนตัวพยานจาก ร. มาเป็น ท. ภายหลังจากโจทก์ซึ่งมีหน้าที่สืบพยานก่อนได้สืบพยานหลักฐานเสร็จแล้ว ในคำร้องอ้างเหตุเพียงว่า ร. ได้ลาออกจากการเป็นกรรมการและพนักงานของจำเลยแล้ว ไม่สามารถตามตัวได้ มิได้อ้างเหตุที่เกี่ยวกับพยานที่ระบุเพิ่มเติมซึ่งไม่ใช่เหตุอันสมควรตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรคสาม ที่ศาลจะมีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยระบุพยานเพิ่มเติมได้ ทั้งประเด็นที่จะสืบ ท. ก็มีเพียงเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัยและกิจการของจำเลยซึ่งโจทก์ได้นำสืบยอมรับแล้วว่าจำเลยมีความรับผิดตามข้อความในกรมธรรม์ประกันภัยเท่านั้นดังนั้น ประเด็นที่จำเลยจะสืบ ท. จึงไม่ใช่ข้อสำคัญแห่งประเด็นที่จำเลยจำเป็นจะต้องนำสืบเพื่อให้คำวินิจฉัยของศาลเป็นไปโดยเที่ยงธรรม ชอบที่จะไม่อนุญาตให้จำเลยระบุ ท. เป็นพยานเพิ่มเติม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1843/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำให้การขัดแย้งและผลกระทบต่อการสืบพยาน: คำให้การที่ไม่ชัดเจนถือว่าไม่ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหา
คำสั่งของศาลที่ให้งดสืบพยานเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา หลังจากศาลชั้นต้นชี้สองสถานและมีคำสั่งให้งดสืบพยานแล้วจำเลยยื่นคำร้องว่า ตามที่ศาลได้จดรายงานกระบวนพิจารณาว่าคำให้การของจำเลยไม่ชัดแจ้ง จึงไม่เป็นประเด็นแห่งคดีนั้น จำเลยเห็นว่า คำให้การของจำเลยชัดเจนแล้ว จึงขอให้ศาลกำหนดประเด็นเพิ่มขึ้น ดังนี้ถือได้ว่าจำเลยได้โต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้งดสืบพยานแล้ว จำเลยชอบที่จะยกประเด็นดังกล่าวขึ้นอุทธรณ์ฎีกาได้ โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยในฐานะทายาทของ ย. ชำระหนี้ตามสัญญากู้เบิกเกินบัญชี สัญญาเพิ่มวงเงินและสัญญากู้ที่ ย.กู้ยืมไปจากโจทก์ จำเลยให้การว่า ย. ไม่ได้เป็นลูกหนี้ ไม่เคยทำสัญญากู้เบิกเกินบัญชีสัญญาเพิ่มวงเงินและสัญญากู้เงินตามเอกสารท้ายฟ้อง ลายมือชื่อในเอกสารดังกล่าวไม่ใช่ลายมือชื่ออันแท้จริงของย.หรือหากย. จะลงชื่อไว้ก็โดยบุคคลอื่นหลอกลวง ดังนี้เป็นคำให้การที่ขัดกัน จึงเป็นคำให้การที่ไม่ได้แสดงโดยชัดแจ้งว่าจำเลยยอมรับหรือปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสอง ถือไม่ได้ว่าจำเลยให้การปฏิเสธ และไม่เป็นประเด็นในคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1383/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานหลักฐานประกอบอื่น แม้ไม่หนักแน่นเพียงพอต่อการลงโทษ ก็สามารถนำสืบประกอบการพิจารณาได้
คำเบิกความของพยานโจทก์ซึ่งเบิกความโดยที่จำเลยไม่มีโอกาสถามค้านและคำให้การในชั้นสอบสวนของพยานนั้น แม้ไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะลงโทษจำเลยได้ แต่ศาลอาจรับฟังประกอบพยานหลักฐานอื่น ๆ ที่โจทก์นำสืบได้.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1356/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลื่อนคดีซ้ำโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ถือเป็นการประวิงคดี ศาลไม่อนุญาตให้เลื่อนได้
ทนายจำเลยขอเลื่อนคดีเพราะทนายเองป่วยมาครั้งหนึ่งแล้วศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนคดีและกำชับว่านัดหน้า ให้เตรียมพยานมาให้พร้อม จะไม่ให้เลื่อนคดีอีก นัดต่อมาทนายจำเลยขอเลื่อนคดีอ้างว่าตัวจำเลยป่วยกะทันหันอยู่ที่ต่างจังหวัดโดยในคำร้องก็ไม่ระบุว่าจำเลยคนใดป่วย ป่วยเป็นอะไร อยู่ที่จังหวัดใด ทั้งพยานอื่นทนายจำเลยก็ไม่จัดให้มาเบิกความ พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าจำเลยประวิงคดี ศาลไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4763/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่อนุญาตให้จำเลยยื่นบัญชีพยานเนื่องจากไม่ยื่นตามกำหนด และผลกระทบต่อการสืบพยาน
ฎีกาดุลพินิจของศาลในการรับฟังพยานและว่าโจทก์คิดดอกเบี้ยซ้ำเป็นฎีกาในข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นนัดสืบพยานโจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายมีหน้าที่นำสืบก่อนในวันที่ 6 ธันวาคม 2526 ในวันดังกล่าวเมื่อสืบพยานโจทก์แล้วจำเลยขอสืบพยานในนัดต่อไป พร้อมกับยื่นบัญชีพยานจำเลยต่อศาล โดยทนายจำเลยแถลงว่า ตั้งใจจะยื่นในวันที่ 2 เดือนนั้น แต่ทนายจำเลยติดว่าความจึงลืมยื่น ดังนี้จำเลยมิได้ยื่นบัญชีพยานก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าสามวัน ทั้งมิได้ยื่นคำร้องต่อศาลขออนุญาตยื่นบัญชีพยานตามมาตรา 88 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ศาลย่อมอนุญาตให้จำเลยยื่นบัญชีพยานมิได้
ศาลชั้นต้นนัดสืบพยานโจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายมีหน้าที่นำสืบก่อนในวันที่ 6 ธันวาคม 2526 ในวันดังกล่าวเมื่อสืบพยานโจทก์แล้วจำเลยขอสืบพยานในนัดต่อไป พร้อมกับยื่นบัญชีพยานจำเลยต่อศาล โดยทนายจำเลยแถลงว่า ตั้งใจจะยื่นในวันที่ 2 เดือนนั้น แต่ทนายจำเลยติดว่าความจึงลืมยื่น ดังนี้จำเลยมิได้ยื่นบัญชีพยานก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าสามวัน ทั้งมิได้ยื่นคำร้องต่อศาลขออนุญาตยื่นบัญชีพยานตามมาตรา 88 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ศาลย่อมอนุญาตให้จำเลยยื่นบัญชีพยานมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1051/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่โต้แย้งคำสั่งศาลทันที ทำให้คำสั่งนั้นมีผลบังคับใช้ และจำเลยไม่อาจสืบพยานได้
เมื่อศาลชั้นต้นสั่งไม่รับบัญชีพยานของจำเลยก็ดี หรือสั่งเพิกถอนคำสั่งที่ได้รับบัญชีพยานของจำเลยไว้แล้วก็ดี จำเลยไม่ได้โต้แย้งคำสั่งดังกล่าวนั้นเลย เพิ่งมาโต้แย้งเมื่อศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานจำเลย ดังนี้เป็นการโต้แย้งคำสั่งงดสืบพยานเพื่อผลในการอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226 คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับบัญชีพยานและที่สั่งเพิกถอนคำสั่งรับบัญชีพยานของจำเลยจึงยังคงมีอยู่ ซึ่งมีผลเท่ากับว่าจำเลยไม่ได้ยื่นบัญชีพยานเลย กรณีจึงไม่มีเหตุที่จะอนุญาตให้จำเลยนำพยานเข้าสืบได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 269/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐาน (ต้นขั้วใบเสร็จ) แม้มิได้ส่งสำเนาให้คู่ความก่อนสืบพยาน หากเป็นประโยชน์ต่อความยุติธรรม
คดีฟ้องขับไล่ซึ่งโจทก์อ้างต้นขั้วใบเสร็จค่าเช่าบ้านเป็นพยานแม้มิได้ส่งสำเนาให้จำเลยก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า 3 วัน แต่ถ้าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลก็มีอำนาจรับฟังต้นขั้วใบเสร็จเช่นว่านั้นได้ เพราะเป็นเอกสารสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดีดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2276/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกฟ้องโดยอ้างข้อเท็จจริงที่มิได้นำสืบในกระบวนการพิจารณา ศาลมิอาจยกขึ้นเองได้
จำเลยให้การต่อสู้คดีว่า จำเลยครอบครองที่ดินที่จำเลยเช่าไม่ได้รุกล้ำที่ดินที่โจทก์เช่า มิได้ต่อสู้ว่าจำเลยครอบครองมาก่อนโจทก์เช่า ที่ศาลยกฟ้องโจทก์โดยอ้างว่าจำเลยครอบครองอยู่ก่อนโจทก์เช่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง จึงเป็นข้อกฎหมายที่มิได้มาจากข้อเท็จจริงในกระบวนพิจารณาโดยชอบ ศาลอ้างขึ้นเองไม่ได้