พบผลลัพธ์ทั้งหมด 33 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1579/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองแทนและอายุความฟ้องแบ่งมรดก: ครอบครองแทนสิ้นสุดเมื่อเจ้าของเสียชีวิต
ฉ. เจ้าของที่ดินพิพาท อนุญาตให้จำเลยซึ่งเป็นมารดาทำกินในที่ดินพิพาทการครอบครองของจำเลยเหนือที่พิพาทอาจถือว่าเป็นการครอบครองแทน ฉ. ได้เฉพาะแต่ในระหว่าง ฉ. มีชีวิตอยู่เท่านั้น เมื่อ ฉ. ถึงแก่กรรมแล้ว จะถือว่าจำเลยครอบครองที่พิพาทซึ่งกลายเป็นมรดกแทนโจทก์ซึ่งเป็นสามี ฉ. ต่อไปหาได้ไม่
โจทก์ฟ้องคดีเกี่ยวกับมรดกเกิน 1 ปี นับแต่ ฉ. ถึงแก่กรรมฟ้องโจทก์ขาดอายุความ
โจทก์ฟ้องคดีเกี่ยวกับมรดกเกิน 1 ปี นับแต่ ฉ. ถึงแก่กรรมฟ้องโจทก์ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 173/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ห้างหุ้นส่วนสามัญเลิกสัญญาหลังผู้เป็นหุ้นส่วนเสียชีวิต และผลกระทบต่ออำนาจฟ้องเรียกชำระบัญชี
สามีโจทก์กับสามีจำเลยร่วมทุนกันจัดตั้งห้างหุ้นส่วนสามัญโดยไม่จดทะเบียนสามีโจทก์ตาย โจทก์รับมรดกและเข้าสวมสิทธิเป็นหุ้นส่วนแทนโดยความยินยอม ของสามีจำเลย ห้างหุ้นส่วนจึงยังไม่เลิกต่อมาสามีจำเลยตาย จำเลยเป็นผู้รับมรดกกลับปฏิเสธว่าสามีโจทก์มิได้เป็นหุ้นส่วนกับสามีจำเลย ดังนี้ ห้างหุ้นส่วนนั้นย่อมเลิกจากกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1055(5)
เมื่อห้างหุ้นส่วนเลิกกันแล้วก็จะต้องจัดการชำระบัญชี เว้นแต่จะได้ตกลงกันให้จัดการทรัพย์สินโดยวิธีอื่นในระหว่างผู้เป็นหุ้นส่วนด้วยกันแม้จำเลยจะเข้าดำเนินการของห้างหุ้นส่วนจำเลยก็มิได้เป็นหุ้นส่วนกับโจทก์โจทก์ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องขอให้บังคับจำเลยแสดงบัญชีรายรับรายจ่าย
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยแสดงบัญชีรายรับรายจ่ายโดยมิได้ฟ้องขอให้ชำระบัญชี ศาลจะพิพากษาให้ชำระบัญชีไม่ได้เพราะเกินคำขอ
เมื่อห้างหุ้นส่วนเลิกกันแล้วก็จะต้องจัดการชำระบัญชี เว้นแต่จะได้ตกลงกันให้จัดการทรัพย์สินโดยวิธีอื่นในระหว่างผู้เป็นหุ้นส่วนด้วยกันแม้จำเลยจะเข้าดำเนินการของห้างหุ้นส่วนจำเลยก็มิได้เป็นหุ้นส่วนกับโจทก์โจทก์ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องขอให้บังคับจำเลยแสดงบัญชีรายรับรายจ่าย
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยแสดงบัญชีรายรับรายจ่ายโดยมิได้ฟ้องขอให้ชำระบัญชี ศาลจะพิพากษาให้ชำระบัญชีไม่ได้เพราะเกินคำขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1430/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายและการทำร้ายร่างกายโดยบันดาลโทสะ กรณีขวดแตกบาดเจ็บและเสียชีวิต
เมื่อคดีฟังได้ว่าจำเลยเพียงยกขวดแตกขึ้นรับเมื่อผู้ตายโถมเข้าแทงจำเลยทำให้พับแขนของผู้ตายถูกขวดเข้าเองเป็นบาดแผล และผู้ตายถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา ฉะนั้นเมื่อจำเลยมิได้ทำร้ายผู้ตาย จำเลยจึงไม่มีความผิด
แต่สำหรับเหตุการณ์ตอนที่ผู้ตายแทงผู้อื่นพลาดมาถูกจำเลยเมื่อจำเลยเข้าห้ามการทะเลาะวิวาท แล้วจำเลยใช้ขวดสุราตีศีรษะผู้ตายบาดเจ็บนั้น ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการป้องกันโดยชอบ เพราะภยันตรายได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่การกระทำของจำเลยเนื่องมาจากการที่ผู้ตายข่มเหงโดยเหตุอันไม่เป็นธรรม จึงต้องถือว่าจำเลยมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายโดยเหตุบันดาลโทสะ
แต่สำหรับเหตุการณ์ตอนที่ผู้ตายแทงผู้อื่นพลาดมาถูกจำเลยเมื่อจำเลยเข้าห้ามการทะเลาะวิวาท แล้วจำเลยใช้ขวดสุราตีศีรษะผู้ตายบาดเจ็บนั้น ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการป้องกันโดยชอบ เพราะภยันตรายได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่การกระทำของจำเลยเนื่องมาจากการที่ผู้ตายข่มเหงโดยเหตุอันไม่เป็นธรรม จึงต้องถือว่าจำเลยมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายโดยเหตุบันดาลโทสะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1156/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสภาพหนี้หลังเจ้ามรดกเสียชีวิต และผลกระทบต่ออายุความของหนี้เงินกู้
ทายาทของลูกหนี้ชำระดอกเบี้ยให้แก่เจ้าหนี้ภายในกำหนดหนึ่งปีนับแต่วันที่ลูกหนี้ตาย ถือได้ว่าเป็นการรับสภาพหนี้
เมื่อมีการรับสภาพหนี้ อายุความสิทธิเรียกร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 ซึ่งมิให้เจ้าหนี้ฟ้องเมื่อพ้น 1 ปีนับแต่ความตายของเจ้ามรดกก็สดุดหยุดลง อายุความสำหรับสิทธิเรียกร้องของเจ้าหนี้จึงต้องตั้งต้นนับใหม่ตามอายุความแห่งมูลหนี้หากเป็นมูลหนี้เงินกู้ก็มีอายุความ 10 ปี (อ้างฎีกาที่ 1887/2506)
เมื่อมีการรับสภาพหนี้ อายุความสิทธิเรียกร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 ซึ่งมิให้เจ้าหนี้ฟ้องเมื่อพ้น 1 ปีนับแต่ความตายของเจ้ามรดกก็สดุดหยุดลง อายุความสำหรับสิทธิเรียกร้องของเจ้าหนี้จึงต้องตั้งต้นนับใหม่ตามอายุความแห่งมูลหนี้หากเป็นมูลหนี้เงินกู้ก็มีอายุความ 10 ปี (อ้างฎีกาที่ 1887/2506)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 292/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าสินไหมทดแทนการขาดอุปการะและการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์: ขอบเขตการเรียกร้อง
โจทก์ไม่ได้เสียค่าขึ้นศาลที่ให้จำเลยจ่ายมีระยะเวลาในอนาคตในศาลชั้นต้น แต่ศาลชั้นต้นก็ได้วินิจฉัยข้อเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนในอนาคตให้ในชั้นอุทธรณ์ฎีกาได้มีการปิดแสตมป์ไว้แล้วฎีกาของโจทก์ก็ขอปิดและได้ย้อนปิดเพิ่มเติมสำหรับศาลชั้นต้นไว้ครบถ้วนเหมือนกันศาลฎีกาก็มีอำนาจวินิจฉัยคำขอในอนาคตของโจทก์ได้
ในกรณีขับรถยนต์ชนคนตายบิดาของผู้ตายย่อมได้รับค่าสินไหมทดแทนการขาดไร้อุปการะจากผู้ทำละเมิด ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 443 วรรคสาม
การสูญเสียบุตรถูกรถยนต์ชนตายนั้น ไม่ต้องด้วยค่าสินไหมทดแทนลักษณะใดในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บิดาเรียกร้องไม่ได้
ในกรณีขับรถยนต์ชนคนตายบิดาของผู้ตายย่อมได้รับค่าสินไหมทดแทนการขาดไร้อุปการะจากผู้ทำละเมิด ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 443 วรรคสาม
การสูญเสียบุตรถูกรถยนต์ชนตายนั้น ไม่ต้องด้วยค่าสินไหมทดแทนลักษณะใดในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บิดาเรียกร้องไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 668/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความมรดก 1 ปี: การรู้ถึงการเสียชีวิตและกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน
คดีมรดกต้องฟ้องภายใน 1 ปี นับแต่วันเจ้ามรดกตายหรือนับแต่เมื่อทายาทโดยชอบธรรมได้รู้หรือควรจะได้รู้ถึงความตายของเจ้ามรดกตาม ม. 1754
โจทก์เป็นสามีผู้ตายเจ้ามรดกเวลาเจ้ามรดกตายโจทก์ก็รู้และนับแต่วันตายมาถึงวันฟ้องเป็นเวลาเกิน 1 ปีแล้ว ทั้งมรดกที่พิพาทกันโจทก์ก็มิได้เป็นผู้ครอบครองร่วมกับจำเลย(มารดาผู้ตาย) เช่นนี้ โจทก์จะอ้างว่าโจทก์ถูกปิดบังทรัพย์ โจทก์เพิ่งทราบว่าผู้ตายมีทรัพย์มรดกอยู่เมื่อระยะภายใน 1 ปีนี้เอง อายุความตาม ม.1754 ไม่บังคับถึงนั้นไม่ได้.
โจทก์เป็นสามีผู้ตายเจ้ามรดกเวลาเจ้ามรดกตายโจทก์ก็รู้และนับแต่วันตายมาถึงวันฟ้องเป็นเวลาเกิน 1 ปีแล้ว ทั้งมรดกที่พิพาทกันโจทก์ก็มิได้เป็นผู้ครอบครองร่วมกับจำเลย(มารดาผู้ตาย) เช่นนี้ โจทก์จะอ้างว่าโจทก์ถูกปิดบังทรัพย์ โจทก์เพิ่งทราบว่าผู้ตายมีทรัพย์มรดกอยู่เมื่อระยะภายใน 1 ปีนี้เอง อายุความตาม ม.1754 ไม่บังคับถึงนั้นไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 350/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองหลังการเสียชีวิตของคู่ครอง แม้ไม่เป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมาย ยังมีสิทธิฟ้องผู้บุกรุกได้
โจทก์ฟ้องว่า สามีโจทก์ซื้อสวนยางมาแล้วโจทก์กับสามีครอบครองตลอดมา สามีโจทก์ตายโจทก์ก็ยังคงครอบครองต่อมารวม10 ปีกว่า บัดนี้จำเลยโต้เถียงกรรมสิทธิ์จึงขอให้แสดงว่าเป็นที่ของโจทก์ และห้ามจำเลยเกี่ยวข้องดังนี้ แม้ทางพิจารณาจะได้ความว่า โจทก์ไม่ใช่ภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายประเด็นในข้อโจทก์ครอบครองที่พิพาทเพื่อตนก็ยังเหลืออยู่ จึงต้องถือว่าโจทก์ยังมีอำนาจฟ้องผู้บุกรุกเข้ามาแย่งสิทธิครอบครองหรือทำให้เสียหายได้อยู่ศาลจะด่วนพิพากษายกฟ้องโดยไม่พิจารณาประเด็นข้อครอบครองเสีย ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 236/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความมรดก: การฟ้องเรียกทรัพย์ที่ยืมจากเจ้ามรดกหลังรู้การเสียชีวิต เกิน 1 ปี ถือขาดอายุความ
ทรัพย์ที่เจ้ามฤดกยืมมา เจ้าหนี้จะฟ้องเรียกคืนจากทายาทเกิน 1 ปีนับแต่รู้ว่าเจ้ามฤดกตายนั้นไม่ได้ โดยถือว่าขาดอายุความตาม ป.ม. แพ่งฯ มาตรา 1754
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1573/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความมรดกเริ่มนับเมื่อใด: ทายาทรู้ถึงการเสียชีวิต แม้มีการฟ้องร้องเรียกทรัพย์มรดกก่อนหน้านี้
ทายาทคนหนึ่งฟ้องเรียกทรัพย์มรดกของผู้ตายจากผู้ที่ยึดถือไว้ จนชนะคดีได้ทรัพย์มรดกนั้นมาภายหลังเจ้ามรดกตายเกิน 1 ปีแล้ว ดังนี้ทายาทคนอื่นจะฟ้องขอแบ่งมรดกนี้จากทายาทผู้ได้มรดกมานั้นอีก ย่อมถึงว่าขาดอายุความมรดกตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1754
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 846/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าคนโดยประมาท: การกระทำต้องเป็นเหตุโดยตรงของการเสียชีวิต
การฝ่าฝืนข้อบังคับจะต้องเป็นเหตุโดยตรงให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายจึงจะมีผิดฐานฆ่าคนโดยประมาท