พบผลลัพธ์ทั้งหมด 57 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3200/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จต้องเป็นข้อสำคัญในคดี และคดีเดิมต้องมีการฟ้องต่อศาล
การที่จะเป็นความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 177 จะต้องได้ความด้วยว่าความเท็จที่เบิกความไปนั้นเป็นข้อสำคัญในคดี เมื่อปรากฏว่าข้อหาในคดีเดิมที่โจทก์นำมาเป็นมูลในการฟ้องคดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องเพราะเห็นว่าโจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้อง และมิได้ระบุมาตราที่ขอให้ลงโทษ ถือได้ว่าข้อหาที่โจทก์นำมาเป็นมูลในการฟ้องคดีนี้ ยังไม่เคยมีการฟ้องต่อศาลมาก่อน จึงไม่มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยว่าคำเบิกความของจำเลยในคดีนั้นเป็นข้อสำคัญในคดีอันจะเป็นความผิดฐานเบิกความเท็จหรือไม่คำเบิกความในคดีนั้นของจำเลยจึงไม่เป็นข้อสำคัญในคดี.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2200/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จต้องมีเจตนา และฟ้องต้องระบุรายละเอียดข้อสำคัญในคดี มิฉะนั้นเป็นฟ้องไม่สมบูรณ์
ความผิดฐานเบิกความเท็จตาม ป.อ. มาตรา 177 นั้น ผู้กระทำผิดจะต้องกระทำโดยเจตนา คือรู้อยู่แล้วว่าข้อความที่ตนเบิกความนั้นเป็นเท็จ แต่ฟ้องของโจทก์มิได้มีข้อความดังกล่าว และโจทก์มิได้บรรยายฟ้องให้เห็นว่าข้อความเท็จที่จำเลยเบิกความเป็นข้อสำคัญในคดีอย่างไร อันเป็นการกระทำที่อ้างว่าจำเลยกระทำความผิดพอสมควรให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ตามป.วิ.อ. มาตรา 158(5) ศาลชอบที่จะพิพากษายกฟ้องโจทก์.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4119/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเบิกความเท็จในคดีอาญาต่อศาล มีผลทำให้ฟ้องของโจทก์มีมูล
จำเลยรู้อยู่แล้วว่าได้มีการตกลงประนีประนอมในเรื่องเช็คทั้ง 23 ฉบับเสร็จสิ้นไปแล้ว กลับมาเบิกความว่าไม่ได้มีการประนีประนอม ซึ่งหากศาลในคดีก่อนฟังข้อเท็จจริงตามคำเบิกความของจำเลย อาจเป็นผลทำให้โจทก์ได้รับโดยในคดีอาญา ดังนี้ คำเบิกความของจำเลยจึงเป็นข้อสำคัญในคดี
การเบิกความเท็จอันจะเป็นข้อสำคัญในคดีหรือไม่นั้น เป็นปัญหาข้อกฎหมาย
การเบิกความเท็จอันจะเป็นข้อสำคัญในคดีหรือไม่นั้น เป็นปัญหาข้อกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4119/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเบิกความเท็จในคดีอาญาเกี่ยวกับเช็คที่ขัดแย้งกับข้อเท็จจริงในการประนีประนอม ถือเป็นข้อสำคัญในคดี
จำเลยรู้อยู่แล้วว่าได้มีการตกลงประนีประนอมในเรื่องเช็คทั้ง 23 ฉบับเสร็จสิ้นไปแล้ว กลับมาเบิกความว่าไม่ได้มีการประนีประนอม ซึ่งหากศาลในคดีก่อนฟังข้อเท็จจริงตามคำเบิกความของจำเลย อาจเป็นผลทำให้โจทก์ได้รับโดยในคดีอาญา ดังนี้ คำเบิกความของจำเลยจึงเป็นข้อสำคัญในคดี
การเบิกความเท็จอันจะเป็นข้อสำคัญในคดีหรือไม่นั้น เป็นปัญหาข้อกฎหมาย.
การเบิกความเท็จอันจะเป็นข้อสำคัญในคดีหรือไม่นั้น เป็นปัญหาข้อกฎหมาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3007/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสำคัญของข้อเท็จจริงเท็จในการเบิกความต่อศาล: ปัญหาการพิสูจน์การซื้อขายก่อนยึดทรัพย์
จำเลยเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วน เบิกความในคดีที่ห้างหุ้นส่วนดังกล่าวร้องขัดทรัพย์ว่า ในวันที่เจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดรถยนต์ จำเลยไม่อยู่โดยไปกรุงเทพมหานคร พี่น้องของจำเลยบอกจำเลยว่าได้นำเจ้าหน้าที่ศาลไปค้นหลักฐานการโอนทะเบียนรถแต่ไม่พบ แต่ในคดีร้องขัดทรัพย์นั้นมีประเด็นว่าผู้ร้องซื้อรถยนต์คันพิพาทจากจำเลยในคดีนั้นก่อนมีการยึดทรัพย์หรือไม่ ข้อความที่จำเลยเบิกความต่อศาล แม้จะเป็นเท็จก็ไม่เป็นข้อสำคัญในคดีการกระทำของจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จจริงตามป.อ. มาตรา 177.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3007/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเบิกความเท็จในคดีแพ่งต้องเป็นข้อสำคัญในคดีจึงจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177
จำเลยเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วน เบิกความในคดีที่ห้างหุ้นส่วนดังกล่าวร้องขัดทรัพย์ว่า ในวันที่เจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดรถยนต์ จำเลยไม่อยู่โดยไปกรุงเทพมหานคร พี่น้องของจำเลยบอกจำเลยว่าได้นำเจ้าหน้าที่ศาลไปค้นหลักฐานการโอนทะเบียนรถแต่ไม่พบ แต่ในคดีร้องขัดทรัพย์นั้นมีประเด็นว่าผู้ร้องซื้อรถยนต์คันพิพาทจากจำเลยในคดีนั้นก่อนมีการยึดทรัพย์หรือไม่ ข้อความที่จำเลยเบิกความต่อศาล แม้จะเป็นเท็จก็ไม่เป็นข้อสำคัญในคดีการกระทำของจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จจริงตาม ป.อ. มาตรา 177.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2721/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์ ถือเป็นข้อสำคัญในคดีอาญา
การร้องขอให้ศาลมีคำสั่งว่าที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์นั้น การได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์และระยะเวลาแห่งการครอบครองย่อมเป็นข้อสำคัญในคดีการที่จำเลยเบิกความในคดีแพ่ง ซึ่งจำเลยร้องขอแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดินมีโฉนดว่าเจ้าของที่ดินยกที่ดินให้จำเลยพร้อมกับมอบโฉนดให้และจำเลยครอบครอง ทำประโยชน์ติดต่อกันมาอย่างเป็นเจ้าของประมาณ15 ปีแล้วซึ่งเป็นความเท็จย่อมเป็นการเบิกความอันเป็นเท็จและเป็นข้อสำคัญในคดีจำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3239/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จต่อศาลมีผลต่อรูปคดี แม้ศาลมิได้หยิบยกขึ้นวินิจฉัย ถือเป็นข้อสำคัญในคดี
ตามคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยได้ความว่าจำเลยรู้เห็นใกล้ชิดกับเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุ แต่ในชั้นศาลจำเลยกลับเบิกความอันเป็นเท็จว่าไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุขณะเกิดเหตุ หากจำเลยเบิกความไปตามที่รู้เห็นดังที่ให้การไว้ในชั้นสอบสวนจำเลยย่อมเป็นพยานที่ใกล้ชิดกับเหตุการณ์สนับสนุนคำของพยานโจทก์ปากอื่นให้มีน้ำหนักมั่นคงยิ่งขึ้นอันอาจทำให้ผลแห่งคดีเปลี่ยนแปลงไปในทางตรงข้ามได้ ดังนี้ แม้ศาลจะมิได้หยิบยกคำเบิกความของจำเลยขึ้นวินิจฉัย คำเบิกความอันเป็นเท็จของจำเลยก็เป็นข้อสำคัญในคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1778/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเบิกความเท็จที่ไม่เป็นข้อสำคัญในคดีอาญา เพราะศาลไม่ได้ใช้พยานหลักฐานนั้นวินิจฉัย
จำเลยเบิกความต่อศาลในคดีอาญาซึ่งโจทก์ถูกฟ้องว่า จำเลยไม่เคยทำหนังสือเอกสารหมาย จ.1 ถึงโจทก์ แต่ศาลมิได้หยิบยกเอาคำเบิกความของจำเลยและข้อความในเอกสารหมาย จ.1 ขึ้นวินิจฉัย หากแต่ได้วินิจฉัยถึงพยานหลักฐานอื่น ๆ แล้วพิพากษาลงโทษโจทก์ ส่วนคำเบิกความของจำเลยและเอกสารหมาย จ.1 ไม่มีน้ำหนักในการวินิจฉัยของศาล หรือจะมีผลให้แพ้ชนะคดีกัน ดังนี้ คำเบิกความของจำเลยที่ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำเอกสารหมาย จ.1 ส่งให้แก่โจทก์จึงไม่เป็นข้อสำคัญในคดี จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1778/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จต้องมีผลต่อการวินิจฉัยของศาล จึงเป็นความผิดฐานเบิกความเท็จ
จำเลยเบิกความต่อศาลในคดีอาญาซึ่งโจทก์ถูกฟ้องว่าจำเลยไม่เคยทำหนังสือเอกสารหมาย จ.1 ถึงโจทก์ แต่ศาลมิได้หยิบยกเอาคำเบิกความของจำเลยและข้อความในเอกสารหมาย จ.1 ขึ้นวินิจฉัย หากแต่ได้วินิจฉัยถึงพยานหลักฐานอื่นๆ แล้วพิพากษาลงโทษโจทก์ ส่วนคำเบิกความของจำเลยและเอกสารหมาย จ.1 ไม่มีน้ำหนักในการวินิจฉัยของศาล หรือจะมีผลให้แพ้ชนะคดีกัน ดังนี้ คำเบิกความของจำเลยที่ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำเอกสารหมาย จ.1 ส่งให้แก่โจทก์จึงไม่เป็นข้อสำคัญในคดี จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จ