คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ความผิดซ้ำ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 80 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6711/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การล้างมลทินและการเพิ่มโทษ: ผลของ พ.ร.บ. ล้างมลทิน ต่อการเพิ่มโทษในความผิดซ้ำ
มาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติล้างมลทินในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระชนมพรรษา 60 พรรษาพ.ศ. 2530 ให้ล้างมลทินให้แก่บรรดาผู้ต้องโทษในกรณีความผิดต่าง ๆซึ่งได้กระทำก่อนหรือในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2530 และได้พ้นโทษไปแล้วก่อนหรือในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ โดยให้ถือว่าผู้นั้นมิได้เคยถูกลงโทษในกรณีความผิดนั้น ๆ การล้างมลทินตามพระราชบัญญัติ นี้มิได้จำกัดความผิดของผู้ต้องโทษไว้ ผู้ต้องโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษจึงอยู่ในข่ายได้รับผลด้วยจำเลยพ้นโทษฐานมียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครองไปก่อนวันที่ 5ธันวาคม 2530 ซึ่งเป็นวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับจึงถือว่าจำเลยไม่เคยถูกลงโทษในความผิดนี้มาก่อน เพิ่มโทษจำเลยในคดีหลังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 267/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานออกเช็คไร้เงิน การกระทำความผิดซ้ำและการเกิดความผิดขึ้นใหม่
จำเลยออกเช็คพิพาทชำระหนี้โจทก์ ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินมาครั้งหนึ่งแล้ว ต่อมาจำเลยแก้ไขวันเดือนปีในเช็คพิพาทให้โจทก์นำเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงินอีก ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเช่นเดียวกันโจทก์จึงนำเช็คพิพาทมาฟ้อง ดังนี้ เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินในครั้งแรกความผิดย่อมเกิดขึ้นแล้ว การที่โจทก์นำเช็คที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินครั้งหลังมาฟ้องจึงหาเป็นความผิดขึ้นอีกไม่ เพราะการกระทำอันเดียวกันจะเกิดเป็นความผิดสองครั้งหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1510-1511/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกจ้างพนักงาน: เหตุผลความผิดซ้ำคำเตือนต้องชัดเจนและต่อเนื่อง หากไม่ชัดเจน นายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชย
จำเลยที่ 14 หยุดงานโดยฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการลากิจ ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับที่เคยได้รับคำเตือนในเรื่องขาดงานโดยยื่นใบลาป่วยและมาสายกับเรื่องแจ้งในใบลาเท็จดังนั้นยังถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 14 ฝ่าฝืนคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายและระเบียบข้อบังคับของโจทก์ซึ่งโจทก์ได้ตักเตือนเป็นหนังสือแล้ว อันจะเป็นการกระทำผิดซ้ำคำเตือน ซึ่งเป็นเหตุให้โจทก์เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3622/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวความผิดซ้อน: จัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้มีคำพิพากษาในคดีก่อน ศาลยังฟ้องซ้ำได้หากคดีแรกเป็นฟ้องซ้อน
จำเลยถูกฟ้องข้อหาจัดหางานโดยเรียกและรับค่าบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนตามมาตรา 19 แห่งพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2511 สองคดี เมื่อระยะเวลาเกิดเหตุในอีกคดีหนึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระยะเวลาเกิดเหตุในคดีนี้ ทั้งไม่มีการหยุดดำเนินกิจการในช่วงระยะเวลาเกิดเหตุตามฟ้องทั้งสองคดี แสดงว่าจำเลยมีเจตนาที่จะดำเนินการในการจัดหางานคราวเดียวกัน จึงเป็นความผิดกรรมเดียว แม้อีกคดีหนึ่งศาลชั้นต้นจะพิพากษาก่อนคดีนี้ให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ก็ตาม เมื่อปรากฏว่าศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องเนื่องจากเป็นฟ้องซ้อนกับคดีนี้แสียแล้ว การกระทำความผิดในข้อหานี้จึงถือไม่ได้ว่าได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดที่ได้ฟ้อง โจทก์ฟ้องคดีนี้ได้ไม่เป็นฟ้องซ้ำ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3032/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลกระทบของ พ.ร.บ.ล้างมลทิน ต่อการเพิ่มโทษจำเลยในคดีความผิดซ้ำ
ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติล้างมลทินในโอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี พ.ศ. 2526 มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2526 ตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวบัญญัติให้ล้างมลทินให้แก่บรรดาผู้ต้องโทษในกรณีความผิดต่าง ๆ ซึ่งได้กระทำก่อนหรือในวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2525 และได้พ้นโทษไปแล้วก่อนหรือในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับหรือซึ่งได้พ้นโทษไปโดยผลแห่งพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2525 โดยให้ถือว่าผู้นั้นมิได้เคยถูกลงโทษในความผิดนั้น ๆ จำเลยพ้นโทษคดีก่อนก่อนที่พระราชบัญญัติล้างมลทินในโอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี พ.ศ. 2526 ใช้บังคับ จำเลยย่อมได้รับประโยชน์จากพระราชบัญญัตินี้ ต้องถือว่ามิได้เคยถูกลงโทษมาก่อน จึงเพิ่มโทษจำเลยตามคำขอของโจทก์ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3470/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แจ้งสัญชาติเท็จเพื่อออกบัตรประจำตัวประชาชนเป็นความผิดซ้ำ แม้เคยได้รับบัตรมาแล้ว
ตามพระราชบัญญัติบัตรประจำตัวประชาชน พ.ศ. 2505 มาตรา 5 ได้บัญญัติให้ผู้มีสิทธิที่จะขอให้นายทะเบียนออกบัตรประจำตัวประชาชนได้ต้องเป็นผู้ที่มีสัญชาติไทย เมื่อจำเลยเป็นคนต่างด้าวจึงไม่มีสิทธิที่จะขอมีบัตรประจำตัวประชาชนได้โดยชอบด้วยกฎหมาย การที่จำเลยอ้างและนำหลักฐานแสดงต่อนายทะเบียน เพื่อขอมีบัตรประจำตัวประชาชนจึงเป็นการแจ้งเท็จต่อเจ้าพนักงาน แม้จำเลยจะเคยมีบัตรประจำตัวประชาชนที่นายทะเบียนเคยออกให้มาก่อน เพราะหลงเชื่อว่าจำเลยมีสัญชาติไทยก็ตาม ก็หาใช่เป็นข้ออ้างที่จะนำมาใช้เพื่อขอให้มีการทำบัตรใหม่แทนฉบับเดิมที่หมดอายุ ซึ่งได้มาโดยไม่ถูกต้องและฝ่าฝืนกฎหมายนั้นไม่
การอ้างสัญชาติของจำเลยต่อนายทะเบียนในครั้งก่อน และครั้งหลังแม้จะเป็นการอ้างและนำหลักฐานแสดงความเป็นสัญชาติไทยอันเป็นเท็จ ในลักษณะเดียวกันก็ตาม แต่ก็เป็นการอ้างและนำหลักฐานแสดงเท็จต่อนายทะเบียนคนละเวลาต่างกรรมต่างวาระกัน เป็นการกระทำความผิดซ้ำขึ้นมาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3470/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งสัญชาติเท็จเพื่อขอออกบัตรประจำตัวประชาชนถือเป็นความผิดซ้ำ แม้เคยได้รับบัตรมาแล้ว
ตามพระราชบัญญัติบัตรประจำตัวประชาชน พ.ศ.2505 มาตรา 5ได้บัญญัติให้ผู้มีสิทธิที่จะขอให้นายทะเบียนออกบัตรประจำตัวประชาชนได้ต้องเป็นผู้ที่มีสัญชาติไทย เมื่อจำเลยเป็นคนต่างด้าวจึงไม่มีสิทธิที่จะขอมีบัตรประจำตัวประชาชนได้โดยชอบด้วยกฎหมาย การที่จำเลยอ้างและนำหลักฐานแสดงต่อนายทะเบียนเพื่อขอมีบัตรประจำตัวประชาชนจึงเป็นการแจ้งเท็จต่อเจ้าพนักงาน แม้จำเลยจะเคยมีบัตรประจำตัวประชาชนที่นายทะเบียนเคยออกให้มาก่อนเพราะหลงเชื่อว่าจำเลยมีสัญชาติไทยก็ตาม ก็หาใช่เป็นข้ออ้างที่จะนำมาใช้เพื่อขอให้มีการทำบัตรใหม่แทนฉบับเดิมที่หมดอายุซึ่งได้มาโดยไม่ถูกต้องและฝ่าฝืนกฎหมายนั้นไม่
การอ้างสัญชาติของจำเลยต่อนายทะเบียนในครั้งก่อน และครั้งหลังแม้จะเป็นการอ้างและนำหลักฐานแสดงความเป็นสัญชาติไทยอันเป็นเท็จ ในลักษณะเดียวกันก็ตาม แต่ก็เป็นการอ้างและนำหลักฐานแสดงเท็จต่อนายทะเบียนคนละเวลาต่างกรรมต่างวาระกัน เป็นการกระทำความผิดซ้ำขึ้นมาใหม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2330/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษคดีจำเลยกระทำผิดซ้ำภายในห้าปี แม้ความผิดก่อนหน้าตามกฎหมายเดิม ศาลฎีกาชี้ว่าเพิ่มโทษได้ตามกฎหมายยาเสพติด
แม้ว่าโทษที่จำเลยได้รับครั้งก่อนจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติกัญชาพุทธศักราช 2477 แต่พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 3 ได้บัญญัติให้ยกเลิกพระราชบัญญัติกัญชา พุทธศักราช 2477 ทั้งฉบับ โดยถือว่ากัญชาเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 และผู้มีกัญชาไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตาม มาตรา 26,76ดังนั้น การที่จำเลยต้องคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตในคดีก่อนจึงต้องถือเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษด้วยเมื่อจำเลยกระทำความผิดฐานมีเฮโรอีนอันเป็น ยาเสพติดให้โทษประเภท1 ไว้ในครอบครองภายในกำหนดเวลาห้าปี นับแต่วันพ้นโทษคดีก่อน จึงอยู่ในเกณฑ์ที่จะเพิ่มโทษจำเลยตามมาตรา 97 แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 647/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษจำเลยในความผิดซ้ำเกี่ยวกับยาเสพติด และการจำแนกประเภทของยาเสพติดให้โทษ
คำว่าพระราชบัญญัตินี้ (ตามมาตรา 97) ย่อมมีความหมายว่าหมายถึงพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ก่อนคดีนี้จำเลยเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดฐานมีและเสพยาเสพติดให้โทษโดยไม่รับอนุญาตและต่อมาจำเลยได้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้อีกในเวลา 5 ปี นับแต่วันพ้นโทษ การเพิ่มโทษจึงต้องเพิ่มอีกกึ่งหนึ่ของโทษที่ศาลกำหนดสำหรับความผิดครั้งหลังตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ซึ่งแม้จะได้ยกเลิกพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฉบับก่อน ๆ แล้วก็ตาม
เฮโรอีนหรือเกลือของเฮโรอีนตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 4 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2465 เป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ส่วนมาตรา 76 ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 นั้นใช้กับยาเสพติดให้โทษในประเภท 5

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2106/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดซ้ำเกี่ยวกับกัญชาหลัง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ มีผลเพิ่มโทษจำเลยได้
จำเลยถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุกฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตซ้ำกันถึง 2 ครั้ง ภายในเวลา 5 ปี นับแต่วันพ้นโทษคดีก่อนแม้ว่าโทษครั้งก่อนจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติกัญชาแต่พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ได้บัญญัติให้ยกเลิกพระราชบัญญัติกัญชาทั้งฉบับแล้วนำมาบัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษโดยให้ถือว่ากัญชาเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 และผู้ที่มีกัญชาไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตมีความผิดฉะนั้น การที่จำเลยต้องคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตทั้งในคดีก่อนและคดีหลังจึงต้องถือว่าเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษด้วยกันจึงอยู่ในเกณฑ์ที่จะเพิ่มโทษจำเลยตามมาตรา 97 แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ.2522 ได้
of 8