คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
คำแถลง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 28 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1470/2504

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการแก้ไขคำแถลงทนายความที่ทำไปโดยไม่ได้รับความยินยอมจากตัวความ
ถ้าคำแถลงของทนายความที่แถลงในศาลลับหลังตัวความนั้นยังไม่เกิดผลขึ้น ตัวความหรือผู้แทนขอเพิกถอนคำแถลงดังกล่าวนี้ ศาลมีอำนาจที่จะให้แก้ไขคำแถลงของทนายความเช่นว่านี้ได้เมื่อมีเหตุสมควร
ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 35/2504

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 943/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอ้างพยานเพิ่มเติมระหว่างสืบพยาน: ศาลชั้นต้นรับคำแถลงโดยไม่ต้องทำเป็นคำร้อง หากไม่มีการโต้แย้ง
ประเด็นตกหน้าที่จำเลยนำสืบก่อน คดีอยู่ระหว่างสืบพยานจำเลย โจทก์ยื่นคำแถลงระหว่างสืบพยานจำเลย โจทก์ยื่นคำแถลงขออ้างพยานเพิ่มเติม โดยไม่ได้ทำเป็นคำร้อง และศาลชั้นต้นยอมรับคำแถลง ไม่มีใครโต้ประเด็นเถียงข้อนี้ขึ้นมาก็ต้องถือว่าการอ้างพยานเพิ่มเติมของโจทก์ไม่ขัดต่อกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 399/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมแพ้คดีหลังแถลงยอมสาบาลต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ การเปลี่ยนแปลงคำแถลงภายหลังย่อมรับฟังไม่ได้
คู่ความได้แถลงต่อศาลโดยจำเลยแถลงว่า ถ้าโจทก์สาบาลต่อสิ่งศักดิสิทธิได้ว่าโจทก์ได้ให้จำเลยกู้เงินไปจริงตามฟ้อง จำเลยยอมแพ้คดี ถ้าโจทก์ไม่ยอมสาบาล โจทก์ยอมแพ้ ครั้งถึงกำหนดนัด โจทก์ไม่ยอมสาบาล ศาลชั้นต้นจดรายงานพิจารณาไว้ชัดเจนว่า ฝ่ายโจทก์ไม่ยอมสาบาลจึงเป็นอันว่าโจทก์ยอมแพ้คดีแก่จำเลย (ที่ 1) ในครั้งนั้นมิได้มีการกล่าวอ้างที่หลงเข้าใจผิดแต่ประการใด ต่อมาอีกหลายวัน โจทก์ยื่นคำร้องอ้างว่าเข้าใจผิดในคำสาบาล ดังนี้ ย่อมรับฟังไม่ได้
เมื่อลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดต่อเจ้าหนี้แล้ว ผู้ค้ำประกันก็หลุดพ้นจากความรับผิดไปด้วย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 834/2478

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาไม่รับวินิจฉัยหากข้อคัดค้านไม่ชัดเจนและคำแถลงด้วยวาจาไม่มีผลเป็นฎีกา
ฎีกาที่กล่าวข้อความลอย ๆ ว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาไม่ชอบด้วยกฎหมายและรูปคดีมิได้แสดงให้เห็นว่าไม่ชอบด้วยรูปคดีในข้อไหนเพียงใดให้ชัดเจน ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยถึงหากจะเป็นคดีที่จะฎีกาได้ทั้งข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงก็ตาม อ้างฎีกาที่ 337/2478 ที่ 343/2478
คำแถลงการณ์ด้วยวาจาของทนายเป็นเพียงคำอธิบายข้อฎีกาให้กระจ่างชัดเจนขึ้นเท่านั้นหามีผลเป็นข้อฎีกาไม่ อ้างฎีกาที่ 738 - 739/2475 ที่ 771/2475 และ ที่ +35/2476

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 328/2472

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้คดีแพ่ง: คำให้การชัดเจน vs. คำแถลงเพิ่มเติม และการพิสูจน์หนี้
ยื่นคำแถลงการณ์อธิบายคำให้การที่ไม่ชัดก่อนวันนัดพิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6958/2557

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่ลงลายมือชื่อในรายงานกระบวนพิจารณา ถือเป็นการไม่ยอมรับรายงานได้ ศาลใช้คำแถลงของจำเลยประกอบพยานหลักฐานได้
การไม่ยอมลงลายมือชื่อตาม ป.วิ.พ. มาตรา 50 (2) ไม่ได้มีข้อความว่าคู่ความฝ่ายใดที่จะต้องลงลายมือชื่อนั้น จะต้องอยู่รับรู้หรืออยู่ฟังการอ่านรายงานกระบวนพิจารณาของศาลแล้วไม่ยอมลงลายมือชื่อ การที่จำเลยทั้งสามแถลงต่อศาลแล้วออกจากห้องพิจารณาไปโดยไม่อยู่รอฟังการอ่านรายงานกระบวนพิจารณาของศาลและลงลายมือชื่อ ก็ถือว่าจำเลยทั้งสามไม่ยอมลงลายมือชื่อในรายงานกระบวนพิจารณาตามความหมายของ ป.วิ.พ. มาตรา 50 (2) เช่นกัน จำเลยทั้งสามจึงไม่อาจอ้างได้ว่ารายงานกระบวนพิจารณาในวันดังกล่าวไม่ชอบ เพราะจำเลยทั้งสามไม่อยู่ลงลายมือชื่อ เมื่อจำเลยทั้งสามแถลงให้ศาลจดรายงานกระบวนพิจารณาว่าจำเลยทั้งสามเป็นหนี้ตามฟ้องโจทก์และยังไม่ได้ชำระหนี้ให้แก่โจทก์ตามฟ้อง ศาลก็ย่อมรับฟังข้อเท็จจริงตามคำแถลงของจำเลยทั้งสามประกอบพยานหลักฐานอื่นที่โจทก์นำสืบในการพิจารณาและวินิจฉัยให้จำเลยทั้งสามชำระหนี้ตามฟ้องแก่โจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9320/2552

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์ไม่สามารถยื่นคำแถลงขอคืนค่าขึ้นศาลได้ แม้เห็นว่าคำสั่งไม่ถูกต้อง
ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาสำหรับคดีในเนื้อหาที่โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสี่ให้ร่วมกันรับผิดตามสัญญาบัญชีเดินสะพัด กู้เบิกเงินเกินบัญชี ตั๋วเงิน ค้ำประกัน และจำนองเสร็จสิ้นแล้วเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2547 เมื่อไม่มีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์โต้แย้งคำพิพากษา คดีย่อมถึงที่สุดตั้งแต่เมื่อสิ้นระยะเวลาอุทธรณ์คือ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2547 ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 147 วรรคสอง ดังนั้น เมื่อโจทก์เห็นว่าการที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้โจทก์ต้องชำระค่าขึ้นศาลเพิ่มอีกจำนวน 137,895 บาท ไม่ถูกต้องตามตาราง 1 (1) (ก) ท้าย ป.วิ.พ. โจทก์ก็ชอบที่จะใช้สิทธิอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวตาม ป.วิ.พ. มาตรา 168 แต่เมื่อโจทก์มิได้ใช้สิทธิอุทธรณ์และคดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์จึงหามีสิทธิยื่นคำแถลงให้ศาลชั้นต้นคืนค่าขึ้นศาลจำนวน 137,895 บาท ได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8577/2551

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนคำร้องทุกข์ของผู้เสียหายในคดีอาญา ส่งผลให้สิทธิฟ้องระงับ แม้มีการเปลี่ยนแปลงคำแถลงภายหลัง
ตามคำร้องของโจทก์ร่วม ระบุว่า โจทก์ร่วมได้รับการชดใช้ค่าเสียหายจากจำเลยแล้วเป็นเงินจำนวน 50,000 บาท โจทก์ร่วมในฐานะผู้เสียหายในคดีนี้จึงไม่ติดใจเอาความใดๆ กับจำเลยอีก และประสงค์จะขอถอนคำร้องทุกข์หรือขอให้ศาลลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษแก่จำเลย และท้ายคำร้องดังกล่าวจำเลยก็ได้ลงลายมือชื่อด้วย พอแปลความได้ว่าโจทก์ร่วมมีความประสงค์จะขอถอนคำร้องทุกข์แล้วหรือหากศาลไม่อนุญาตให้โจทก์ร่วมถอนคำร้องทุกข์ ก็ขอให้ศาลลงโทษจำเลยในสถานเบาเท่านั้น เมื่อคดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ป.อ. มาตรา 362, 365 ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานบุกรุกตาม ป.อ. มาตรา 362 อันเป็นความผิดต่อส่วนตัว ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษายืน ตราบใดที่ยังไม่มีคำพิพากษาของศาลสูงเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 9 ต้องถือว่าคดีนี้เป็นความผิดต่อส่วนตัว เมื่อคดียังไม่ถึงที่สุด โจทก์ร่วมจะถอนคำร้องทุกข์เสียเมื่อใดก็ได้ เมื่อโจทก์ร่วมยื่นคำร้องขอถอนคำร้องทุกข์ก่อนศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกา เมื่อจำเลยไม่คัดค้าน ศาลชั้นต้นย่อมมีอำนาจสั่งได้ แต่เมื่อคดีนี้ขึ้นมาสู่ศาลฎีกาแล้ว ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจสั่งได้เช่นกัน เมื่อโจทก์ร่วมถอนคำร้องทุกข์สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ย่อมระงับไปตาม ป.วิ.อ. มาตรา 39 (2) แม้ต่อมาโจทก์ร่วมยื่นคำแถลงว่ายังไม่ได้รับชดใช้เงินอีก 15,000 บาท ก็เป็นการขัดแย้งกับคำร้องขอถอนคำร้องทุกข์จึงไม่อาจทำให้คำร้องขอถอนคำร้องทุกข์ที่มีผลแล้วสิ้นผลไปได้
of 3