พบผลลัพธ์ทั้งหมด 33 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1533/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าจ้างทนาย: แม้ข้อตกลงไม่ชัดเจน ศาลกำหนดสินจ้างตามความเหมาะสมได้
โจทก์เป็นทนายว่าความให้จำเลย เมื่อพฤติการณ์ระหว่างโจทก์จำเลยเป็นที่แน่ว่าโจทก์ทำงานให้จำเลยโดยมีสินจ้างมิใช่ทำให้เปล่า แม้จะฟังไม่ได้ตามที่โจทก์จำเลยนำสืบจำนวนค่าจ้างมา ศาลก็กำหนดสินจ้างให้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1533/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าจ้างทนาย แม้ข้อตกลงไม่ชัดเจน ศาลกำหนดสินจ้างได้ตามพฤติการณ์
โจทก์เป็นทนายว่าความให้จำเลย เมื่อพฤติการณ์ระหว่างโจทก์จำเลยเป็นที่แน่ว่าโจทก์ทำงานให้จำเลยโดยมีสินจ้างมิใช่ทำให้เปล่า แม้จะฟังไม่ได้ตามที่โจทก์จำเลยนำสืบจำนวนค่าจ้างมา ศาลก็กำหนดสินจ้างให้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 455/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าจ้างทนายเมื่อเลิกสัญญาจ้าง การคิดค่าจ้างตามรูปคดี และความรับผิดของตัวการ
จำเลยจ้างโจทก์เป็นทนายฟ้องคดีและว่าความในศาลชั้นต้น ชั้นอุทธรณ์ และชั้นฎีกา ครั้นโจทก์ฟ้องคดีและว่าความในศาลชั้นต้นไปบ้างแล้ว จำเลยขอถอนโจทก์จากการเป็นทนาย โจทก์แถลงไม่คัดค้าน ศาลฟังว่าการเลิกสัญญาเกิดจากการตกลงกัน คู่สัญญายังมีสิทธิที่จะได้คืนสู่ฐานะที่เป็นอยู่เดิมโดยวิธีการในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 วรรค 2, 3, 4 โดยเฉพาะก็คือ วรรค 3 จำเลยต้องใช้เงินตามควรแก่ค่าแห่งการงานของโจทก์ และต้องคิดค่าจ้างตามรูปคดี หาใช่คิดแต่คำนวณค่าเสียหายที่เรียกร้องไม่
ตัวแทนจ้างโจทก์แทนตัวการ ตัวการต้องรับผิดต่อโจทก์แต่ผู้เดียว ตัวแทนหาต้องรับผิดด้วยไม่
ตัวแทนจ้างโจทก์แทนตัวการ ตัวการต้องรับผิดต่อโจทก์แต่ผู้เดียว ตัวแทนหาต้องรับผิดด้วยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 455/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าจ้างทนายเมื่อเลิกสัญญาจ้างว่าความ: การคิดค่าจ้างตามควรค่าของงานที่ทำไปแล้ว
จำเลยจ้างโจทก์เป็นทนายฟ้องคดีและว่าความในศาลชั้นต้นชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกา ครั้นโจทก์ฟ้องคดีและว่าความในศาลชั้นต้นไปบ้างแล้ว จำเลยขอถอนโจทก์จากการเป็นทนาย โจทก์แถลงไม่คัดค้านศาลฟังว่าการเลิกสัญญาเกิดจากการตกลงกัน คู่สัญญายังมีสิทธิที่จะได้คืนสู่ฐานะที่เป็นอยู่เดิมโดยวิธีการในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 391 วรรค 2,3,4 โดยเฉพาะก็คือ วรรค 3 จำเลยต้องใช้เงินตามควรค่าแห่งการงานของโจทก์ และต้องคิดค่าจ้างตามรูปคดี หาใช่คิดแต่จำนวนค่าเสียหายที่เรียกร้องไม่
ตัวแทนจ้างโจทก์แทนตัวการ. ตัวการต้องรับผิดต่อโจทก์แต่ผู้เดียวตัวแทนหาต้องรับผิดด้วยไม่
ตัวแทนจ้างโจทก์แทนตัวการ. ตัวการต้องรับผิดต่อโจทก์แต่ผู้เดียวตัวแทนหาต้องรับผิดด้วยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 428/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าจ้างทนายเมื่อจำเลยถอนฟ้อง: ค่าจ้างคำนวณจากผลสำเร็จที่เกิดขึ้น แม้ได้เงินไม่เต็มตามฟ้อง
จำเลยทำสัญญาจ้างโจทก์ให้ยื่นฟ้อง ฉ. ฐานผิดสัญญา ทุนทรัพย์ 1,037,500 บาท ตกลงค่าจ้างกันไว้ 100,000 บาท ในชั้นศาลชั้นต้น โดยไม่มีข้อกำหนดกันไว้ว่า ถ้าจำเลยได้เงินไม่เต็มตามคำฟ้องก็ให้ลดค่าจ้างลงตามส่วน โจทก์ได้ฟ้อง ฉ. แล้ว และยังได้ดำเนินการอายัดทรัพย์ของ ฉ. จนสำเร็จ แต่ต่อมาจำเลยได้ถอนฟ้องคดีเสียเอง โดยโจทก์มิได้เห็นชอบด้วย แม้จำเลยจะได้รับเงินจากฉ. เพียง 120,000 บาทนี้ เป็นผลสำเร็จแห่งการที่ทำเพื่อคำนวณค่าจ้างไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 428/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าจ้างทนาย: แม้จำเลยได้เงินจากคู่ความน้อยกว่าฟ้อง ก็ต้องจ่ายค่าจ้างทนายตามสัญญาเดิม
จำเลยทำสัญญาจ้างโจทก์ให้ยื่นฟ้อง ฉ. ฐานผิดสัญญาทุนทรัพย์ 1,037,500 บาท ตกลงค่าจ้างกันไว้ 100,000 บาท ในชั้นศาลชั้นต้น โดยไม่มีข้อกำหนดกันไว้ว่าถ้าจำเลยได้เงินไม่เต็มตามคำฟ้องก็ให้ลดค่าจ้างลงตามส่วนโจทก์ได้ฟ้อง ฉ. แล้ว และยังได้ดำเนินการอายัดทรัพย์ของ ฉ. จนสำเร็จ แต่ต่อมาจำเลยได้ถอนฟ้องคดีเสียเองโดยโจทก์มิได้เห็นชอบด้วย แม้จำเลยจะได้รับเงินจาก ฉ. เพียง 120,000 บาทก็จะลดค่าจ้างไม่ได้ จะถือเอาจำนวนเงิน 120,000 บาทนี้เป็นผลสำเร็จแห่งการที่ทำเพื่อคำนวณค่าจ้างไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 951/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าจ้างทนาย: ศาลกำหนดตามความเหมาะสม หากไม่มีข้อตกลง ชดใช้แทนกันได้ตามอัตราที่กฎหมายกำหนด
อัตราค่าทนายความท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เป็นอัตราสำหรับศาลจะพิพากษาให้คู่ความชดใช้แทนกันเท่านั้น ส่วนการกำหนดจำนวนค่าจ้างว่าความย่อมเป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ และในกรณีที่ไม่ปรากฎการตกลงค่าจ้างกันโดยชัดแจ้ง ศาลก็กำหนดให้ตามที่เห็นสมควร แล้วแต่งานที่ทำ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 694/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าจ้างทนาย: คดีจำหน่ายชั่วคราวและวิกลจริตของผู้ถูกกล่าวหา
โจทก์รับเป็นทนายแก้ต่างบุตรของจำเลยซึ่งถูกฟ้องในคดีอาญาโดยตกลงกันว่า ถ้าคดีนั้นจำเลยเป็นฝ่ายชนะยกฟ้องหรือจำหน่ายคดีด้วยประการใดใดจำเลยจะให้ค่าจ้าง 400 บาท ครั้นต่อมาศาลได้สั่งจำหน่ายคดีอาญานั้นเสียชั่วคราวโดยบุตรจำเลยเกิดวิกลจริต ดังนี้ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องเอาค่าจ้าง 400 บาทได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3660/2551
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าจ้างทนายเมื่อคดีถึงที่สุด: การชำระค่าจ้างตามผลสำเร็จของงาน
สัญญาจ้างว่าความเป็นสัญญาต่างตอบแทนคู่สัญญาอาจจะตกลงเงื่อนไข เงื่อนเวลา หรือขั้นตอนในการชำระหนี้กันอย่างไรก็ได้ เมื่อจำเลยทั้งสองไม่ได้ตกลงชำระค่าจ้างว่าความให้แก่โจทก์เมื่อใดจึงต้องชำระค่าจ้างว่าความให้แก่โจทก์เมื่อโจทก์ทำงานเสร็จกล่าวคือเมื่อคดีถึงที่สุด
โจทก์กับจำเลยทั้งสองตกลงเงื่อนไขการชำระเงินค่าจ้างว่าความไว้เป็นส่วนๆ ว่าโจทก์ทำการงานถึงขั้นตอนใดๆ จำเลยทั้งสองจะต้องชำระให้แก่โจทก์จำนวนเท่าใด หรือเมื่อคดีเสร็จเด็ดขาดในขั้นต้นใด จำเลยทั้งสองจะต้องชำระค่าจ้างว่าความแก่โจทก์เป็นจำนวนเท่าใด อันเป็นการตกลงให้ค่าจ้างตามผลแห่งการงานที่ทำ จึงต้องถือว่าโจทก์กับจำเลยทั้งสองตกลงจ้างว่าความกันโดยคำนึงถึงผลสำเร็จของการงานที่ทำเป็นประการสำคัญ โดยไม่คำนึงว่าการงานที่ให้ทำนั้นจะสำเร็จเมื่อใด ในขั้นตอนใด ดังนั้น เมื่อโจทก์ทำการงานโดยดำเนินคดีให้แก่จำเลยทั้งสองจนจำเลยทั้งสองทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับคู่กรณีได้ และศาลชั้นต้นได้พิพากษาตามยอมโดยไม่มีฝ่ายใดอุทธรณ์คดีถึงที่สุด ย่อมถือได้ว่าโจทก์ได้ทำการงานสำเร็จตามที่ตกลงว่าจ้างกันแล้ว
โจทก์กับจำเลยทั้งสองตกลงเงื่อนไขการชำระเงินค่าจ้างว่าความไว้เป็นส่วนๆ ว่าโจทก์ทำการงานถึงขั้นตอนใดๆ จำเลยทั้งสองจะต้องชำระให้แก่โจทก์จำนวนเท่าใด หรือเมื่อคดีเสร็จเด็ดขาดในขั้นต้นใด จำเลยทั้งสองจะต้องชำระค่าจ้างว่าความแก่โจทก์เป็นจำนวนเท่าใด อันเป็นการตกลงให้ค่าจ้างตามผลแห่งการงานที่ทำ จึงต้องถือว่าโจทก์กับจำเลยทั้งสองตกลงจ้างว่าความกันโดยคำนึงถึงผลสำเร็จของการงานที่ทำเป็นประการสำคัญ โดยไม่คำนึงว่าการงานที่ให้ทำนั้นจะสำเร็จเมื่อใด ในขั้นตอนใด ดังนั้น เมื่อโจทก์ทำการงานโดยดำเนินคดีให้แก่จำเลยทั้งสองจนจำเลยทั้งสองทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับคู่กรณีได้ และศาลชั้นต้นได้พิพากษาตามยอมโดยไม่มีฝ่ายใดอุทธรณ์คดีถึงที่สุด ย่อมถือได้ว่าโจทก์ได้ทำการงานสำเร็จตามที่ตกลงว่าจ้างกันแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3504/2551
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าจ้างทนาย: สัญญาไม่เป็นโมฆะ แต่ลดหย่อนได้ตามส่วนงานที่ทำจริง
สัญญาจ้างว่าความระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นโมฆะหรือไม่ แม้จำเลยจะมิได้ให้การต่อสู้ไว้ แต่เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลชั้นต้นมีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เองตาม ป.วิ.พ. มาตรา 142 (5) และคู่ความอุทธรณ์ฎีกาในปัญหานี้ต่อมาจึงชอบด้วยกฎหมาย
ตามคำฟ้องและคำให้การฟังได้ว่า โจทก์และจำเลยตกลงค่าจ้างว่าความกัน 250,000 บาท โดยมีเงื่อนไขว่าจำเลยจะจ่ายค่าจ้างว่าความให้โจทก์ต่อเมื่อจำเลยได้รับเงินจาก ส. ลูกหนี้แล้ว ไม่มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยว่า โจทก์กับจำเลยตกลงให้สินจ้างกันอีกร้อยละ 5 ของเงินที่จำเลยจะได้รับชำระจาก ส. ลูกหนี้ของจำเลยหรือไม่ ดังนั้น ที่จำเลยนำสืบว่าโจทก์เรียกค่าจ้างว่าความจากจำเลยเป็นเงิน 40,000 บาท และเรียกเพิ่มอีกร้อยละ 5 เมื่อจำเลยได้รับชำระหนี้ตามคำพิพากษาแล้ว จึงเป็นการนำสืบนอกประเด็นรับฟังไม่ได้ คดีจึงไม่มีปัญหาว่าสัญญาจ้างว่าความเป็นโมฆะหรือไม่
ตามคำฟ้องและคำให้การฟังได้ว่า โจทก์และจำเลยตกลงค่าจ้างว่าความกัน 250,000 บาท โดยมีเงื่อนไขว่าจำเลยจะจ่ายค่าจ้างว่าความให้โจทก์ต่อเมื่อจำเลยได้รับเงินจาก ส. ลูกหนี้แล้ว ไม่มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยว่า โจทก์กับจำเลยตกลงให้สินจ้างกันอีกร้อยละ 5 ของเงินที่จำเลยจะได้รับชำระจาก ส. ลูกหนี้ของจำเลยหรือไม่ ดังนั้น ที่จำเลยนำสืบว่าโจทก์เรียกค่าจ้างว่าความจากจำเลยเป็นเงิน 40,000 บาท และเรียกเพิ่มอีกร้อยละ 5 เมื่อจำเลยได้รับชำระหนี้ตามคำพิพากษาแล้ว จึงเป็นการนำสืบนอกประเด็นรับฟังไม่ได้ คดีจึงไม่มีปัญหาว่าสัญญาจ้างว่าความเป็นโมฆะหรือไม่