คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ค่าบำเหน็จ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 48 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2493/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำคดีแรงงาน: การเรียกร้องค่าบำเหน็จหลังศาลตัดสินให้จ่ายค่าชดเชยจากการเกษียณอายุ
คดีก่อนโจทก์ฟ้องเรียกค่าชดเชยจากจำเลยเนื่องจากจำเลยเลิกจ้างด้วยเหตุเกษียณอายุคดีถึงที่สุดแล้ว การเลิกจ้างโดยเหตุที่จำเลยเกษียณอายุนอกจากจะเป็นมูลฐานก่อให้เกิดสิทธิแก่โจทก์ที่จะฟ้องเรียกค่าชดเชยแล้วยังก่อให้เกิดสิทธิแก่โจทก์ที่จะเรียกเงินบำเหน็จตามระเบียบของจำเลยด้วยดังนั้น การฟ้องเรียกเงินบำเหน็จจากจำเลยตามระเบียบดังกล่าวโจทก์อาจฟ้องเรียกร้องรวมไปในคดีก่อนได้อยู่แล้วการที่โจทก์มาฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้เรียกเงินบำเหน็จอีกประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยในคดีทั้งสองเนื่องมาจากมูลฐานเดียวกัน จึงเป็นฟ้องซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 148 ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานฯ มาตรา 31

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 667/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าบำเหน็จตัวแทนกับการเป็นนายหน้า: การกระทำที่เป็นผลจากการเป็นตัวแทนย่อมไม่ใช่การเป็นนายหน้า
โจทก์เป็นตัวแทนในการให้เช่าซื้อที่ดินของจำเลย การที่โจทก์จัดให้มีการเช่าซื้อที่ดินเป็นผลสืบเนื่องมาจากการเป็นตัวแทนที่ดำเนินการปรับปรุงที่ดินให้แก่จำเลย หาใช่เป็นผลจากการเป็นนายหน้าไม่โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องบำเหน็จค่านายหน้าจากจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2791-2792/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของตัวแทน, หนังสือมอบอำนาจ, สัญญาซื้อขาย, การบอกเลิกสัญญา, ค่าบำเหน็จนายหน้า
นิติบุคคลที่จะเป็นตัวแทนฟ้องความแทนผู้อื่นตามที่ได้รับมอบอำนาจไม่จำต้องมีวัตถุประสงค์เป็นตัวแทนฟ้องความอีกต่างหากถ้าเรื่องที่เป็นความอยู่ในขอบเขตวัตถุประสงค์ของนิติบุคคลนั้น (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 263/2503)
หนังสือมอบอำนาจทำขึ้นในต่างประเทศ มีการรับรองโดยเจ้าหน้าที่ศาลแห่งเมืองนั้นโดยมีสถานกงสุลไทยรับรองมาอีกชั้นหนึ่งว่าตราที่ประทับในหนังสือมอบอำนาจเป็นตราที่ถูกต้องของศาลชั้นสูงใบมอบอำนาจนี้ถือว่าถูกต้องตามกฎหมายของประเทศนั้น จึงไม่อยู่ในบังคับที่จะต้องปิดอากรแสตมป์ตามประมวลรัษฎากร
โจทก์และจำเลยมีเจตนาจะให้วัตถุประสงค์แห่งสัญญาซื้อขายเป็นผลสำเร็จได้ก็แต่ด้วยการชำระหนี้ภายในเวลาที่กำหนดไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 388 เมื่อโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาจำเลยก็ชอบที่จะบอกเลิกสัญญาเสียได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวก่อนตามมาตรา 387 แต่เมื่อจำเลยมิได้บอกเลิกสัญญากลับขอให้โจทก์ปฏิบัติตามสัญญาต่อไปโดยไม่ถือว่าโจทก์ผิดสัญญาถือว่าจำเลยและโจทก์มิได้ถือเอากำหนดเวลาเป็นสาระสำคัญต่อไปต่อมาจำเลยจะบอกเลิกสัญญากับโจทก์ทันทีไม่ได้ต้องกำหนดระยะเวลาพอสมควรบอกกล่าวให้โจทก์ปฏิบัติตามสัญญาก่อนเมื่อโจทก์ไม่ปฏิบัติภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ จำเลยจึงบอกเลิกสัญญาได้
เมื่อโจทก์ที่ 2 ได้ชี้ช่องให้โจทก์ที่ 1 และจำเลยได้ทำสัญญากันเสร็จจำเลยก็ต้องรับผิดใช้ค่าบำเหน็จให้แก่โจทก์ที่ 2 ตามที่จำเลยกับโจทก์ที่ 2 ได้ตกลงกันไว้โดยไม่ต้องคำนึงว่าคู่สัญญาจะได้ปฏิบัติตามสัญญานั้นในเวลาต่อไปหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2791-2792/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของตัวแทน, หนังสือมอบอำนาจ, สัญญาซื้อขาย, การบอกเลิกสัญญา, ค่าบำเหน็จนายหน้า
นิติบุคคลที่จะเป็นตัวแทนฟ้องความแทนผู้อื่นตามที่ได้รับมอบอำนาจไม่จำต้องมีวัตถุประสงค์เป็นตัวแทนฟ้องความอีกต่างหากถ้าเรื่องที่เป็นความอยู่ในขอบเขตวัตถุประสงค์ของนิติบุคคลนั้น(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 263/2503)
หนังสือมอบอำนาจทำขึ้นในต่างประเทศ มีการรับรองโดยเจ้าหน้าที่ศาลแห่งเมืองนั้นโดยมีสถานกงสุลไทยรับรองมาอีกชั้นหนึ่งว่าตราที่ประทับในหนังสือมอบอำนาจเป็นตราที่ถูกต้องของศาลชั้นสูงใบมอบอำนาจนี้ถือว่าถูกต้องตามกฎหมายของประเทศนั้น จึงไม่อยู่ในบังคับที่จะต้องปิดอากรแสตมป์ตามประมวลรัษฎากร
โจทก์และจำเลยมีเจตนาจะให้วัตถุประสงค์แห่งสัญญาซื้อขายเป็นผลสำเร็จได้ก็แต่ด้วยการชำระหนี้ภายในเวลาที่กำหนดไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 388 เมื่อโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาจำเลยก็ชอบที่จะบอกเลิกสัญญาเสียได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวก่อนตามมาตรา 387 แต่เมื่อจำเลยมิได้บอกเลิกสัญญากลับขอให้โจทก์ปฏิบัติตามสัญญาต่อไปโดยไม่ถือว่าโจทก์ผิดสัญญา ถือว่าจำเลยและโจทก์มิได้ถือเอากำหนดเวลาเป็นสาระสำคัญต่อไป ต่อมาจำเลยจะบอกเลิกสัญญากับโจทก์ทันทีไม่ได้ต้องกำหนดระยะเวลาพอสมควรบอกกล่าวให้โจทก์ปฏิบัติตามสัญญาก่อน เมื่อโจทก์ไม่ปฏิบัติภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ จำเลยจึงบอกเลิกสัญญาได้
เมื่อโจทก์ที่ 2 ได้ชี้ช่องให้โจทก์ที่ 1 และจำเลยได้ทำสัญญากันเสร็จจำเลยก็ต้องรับผิดใช้ค่าบำเหน็จให้แก่โจทก์ที่ 2 ตามที่จำเลยกับโจทก์ที่ 2 ได้ตกลงกันไว้โดยไม่ต้องคำนึงว่าคู่สัญญาจะได้ปฏิบัติตามสัญญานั้นในเวลาต่อไปหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2610/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าบำเหน็จนายหน้า: การชี้ช่องซื้อขายสำเร็จ แม้ผู้ขายติดต่อเองภายหลัง ก็ยังมีสิทธิรับค่าบำเหน็จ
ครั้งแรกจำเลยให้โจทก์บอกขายที่ดินในราคาไร่ละ 80,000 บาท โจทก์เสนอขายต่อจำเลยร่วม จำเลยร่วมต่อรองราคาให้เหลือไร่ละ 70,000 บาท จำเลยไม่ยอม หลังจากนั้น 2-3 เดือน จำเลยร่วมตกลงจะซื้อและให้โจทก์ไปตกลงเงื่อนไขในการทำสัญญา โจทก์บอกให้จำเลยทราบ จำเลยขอผัดอ้างว่าติดทำบุญ ต่อมาจำเลยกลับบอกโจทก์ว่าจะขายในราคาไร่ละ 100,000 บาท โจทก์แจ้งให้จำเลยร่วมทราบ ครั้งจำเลยร่วมตกลงจะซื้อ จำเลยก็ขอขึ้นราคาที่ดินอีก จึงยังตกลงซื้อขายกันไม่ได้ ผลที่สุด ร. บุตรจำเลยติดต่อขายที่ดินทั้งสองโฉนดรวมเนื้อที่ 8 ไร่ ให้แก่จำเลยร่วมได้ในราคา 800,000 บาท แม้ ร. จะเป็นผู้ติดต่อขายที่ดินสำเร็จในภายหลัง แต่ก็คงขายให้แก่จำเลยร่วมซึ่งโจทก์ติดต่อไว้ก่อน ราคาที่ขายก็มิได้สูงกว่าที่จำเลยร่วมตกลงจะซื้อจากโจทก์ การที่ ร.ติดต่อขายที่ดินให้จำเลยร่วม พฤติการณ์แสดงว่าได้ทราบจากจำเลยแล้วว่าจำเลยร่วมเป็นผู้จะซื้อตามที่จำเลยทราบจากโจทก์ เป็นกรณีร่วมกันจำเลยถือเอาประโยชน์จากการที่โจทก์เป็นผู้ติดต่อบอกขายที่ดินให้จำเลยร่วมมาตั้งแต่ต้น ถือได้ว่าการซื้อขายที่ดินรายนี้ได้ทำสำเร็จเนื่องแต่ผลแห่งการที่โจทก์ได้ชี้ช่องจัดการแล้ว โจทก์จึงมีสิทธิได้รับค่าบำเหน็จนายหน้าตามข้อตกลง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2610/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่านายหน้าซื้อขายที่ดิน: การถือเอาประโยชน์จากผลการชี้ช่องของนายหน้าทำให้มีสิทธิได้รับค่าบำเหน็จ
จำเลยตกลงให้โจทก์เป็นนายหน้าขายที่ดิน ค่านายหน้าร้อยละ5 โจทก์เสนอขายให้ ส. ราคาตามที่จำเลยกำหนด จำเลยไม่ขาย บุตรของจำเลยติดต่อกับ ส. คราวนี้จำเลยขายในราคาเดียวกัน ดังนี้ เป็นการที่บุตรจำเลยกับจำเลยร่วมกันถือเอาประโยชน์จากการที่โจทก์ติดต่อกับ ส. ไว้ การซื้อขายสำเร็จเนื่องแต่การชี้ช่องของโจทก์ โจทก์มีสิทธิได้ค่านายหน้าจากจำเลยส่วน ส. ไม่มีสัญญานายหน้า ไม่มีนิติสัมพันธ์กับโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1254/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชี้ช่องให้ทำสัญญาซื้อขายที่ดินและการรับค่าบำเหน็จนายหน้า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๘๔๕
ว.สนใจอยากจะได้ที่ดิน ได้ไปหา พ. พ.ได้เขียนชื่อและตำบลที่อยู่ของจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินให้ ต่อมา ว. ได้ติดต่อกับจำเลยจนได้ทำสัญญาซื้อขายที่ดินกันสำเร็จ หลังจากนั้น ว. จึงทราบว่า พ.ว่า ชื่อและตำบลที่อยู่ของจำเลยที่ พ.จดให้นั้นได้มาจากโจทก์ โดยจำเลยเคยแจ้งให้โจทก์หาผู้ซื้อที่ดินหรือจัดหานายหน้า หวังจะให้โจทก์ได้รับประโยชน์ร่วมกับนายหน้า ฉะนั้น การที่ ว.สามารถติดต่อกับจำเลยได้โดยตรงก็เป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่โจทก์ได้บอกชื่อ และตำบลที่อยู่ของจำเลยไว้กับ พ. การกระทำของโจทก์จึงเป็นการชี้ช่อง หรือจัดการให้ทำสัญญาสำเร็จตามความหมายแพ่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 845 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 326-328/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นายหน้าขายที่ดิน: สิทธิได้รับค่าบำเหน็จเมื่อขายได้จริง แม้ไม่ใช่ผู้ซื้อตามสัญญาเดิม
จำเลยตกลงขายที่ดินของจำเลยให้แก่กระทรวงการคลังตามที่โจทก์ผู้เป็นนายหน้าของจำเลยติดต่อให้ มิได้ขายให้แก่ ค. ตามสัญญามัดจำจะซื้อขายที่ดินที่จำเลยทำไว้กับ ค.และไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้รับบำเหน็จจาก ค.หรือกระทำการโดยไม่สุจริตอย่างใด จะถือว่าโจทก์มิได้ปฏิบัติหน้าที่ให้สำเร็จและโจทก์ได้กระทำการให้บุคคลภายนอกอันไม่สมควรแก่หน้าที่ผู้กระทำ การโดยสุจริต เป็นการฝ่าฝืนต่อการที่ได้รับหน้าที่หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 326-328/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นายหน้าขายที่ดิน: การได้รับค่าบำเหน็จเมื่อขายได้ตามที่ชี้ช่อง แม้ไม่ใช่ผู้ซื้อตามสัญญาเดิม
จำเลยตกลงขายที่ดินของจำเลยให้แก่กระทรวงการคลังตามที่โจทก์ผู้เป็นนายหน้าของจำเลยติดต่อให้ มิได้ขายให้แก่ ค. ตามสัญญามัดจำจะซื้อขายที่ดินที่จำเลยทำไว้กับ ค. และไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้รับบำเหน็จจาก ค. หรือกระทำการโดยไม่สุจริตอย่างใดจะถือว่าโจทก์มิได้ปฏิบัติหน้าที่ให้สำเร็จและโจทก์ได้กระทำการให้บุคคลภายนอกอันไม่สมควรแก่หน้าที่ผู้กระทำการโดยสุจริต เป็นการฝ่าฝืนต่อการที่ได้รับหน้าที่หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1515/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าบำเหน็จนายหน้า: ผลสำเร็จจากการชี้ช่อง แม้มีการเปลี่ยนแปลงราคาสัญญาจำนอง
จำเลยทำสัญญาให้โจทก์เป็นนายหน้าจัดการให้จำเลยได้จำนองที่ดิน. โจทก์ติดต่อกับธนาคารจนธนาคารตกลงรับจำนองในราคาสองล้านหนึ่งแสนบาทแล้ว. จำเลยเปลี่ยนใจจะจำนองราคาสามล้านบาท. จำเลยจึงให้ผู้อื่นไปติดต่อกับธนาคารแห่งนั้นจนธนาคารยอมรับจำนองในราคาสามล้านบาท. ดังนี้ ถือว่าสัญญาจำนองสามล้านบาทที่จำเลยทำกับธนาคารนั้น เป็นผลสำเร็จของการที่โจทก์เป็นนายหน้าชี้ช่องให้จำเลย.
of 5