พบผลลัพธ์ทั้งหมด 25 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3562/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าครองชีพและค่าพาหนะเป็นส่วนหนึ่งของค่าจ้าง ต้องนำมาคำนวณค่าชดเชยและสินจ้างบอกกล่าวล่วงหน้า
เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า จำเลยจ่ายค่าครองชีพให้โจทก์เป็นประจำทุกเดือน มีจำนวนแน่นอนเช่นเดียวกับค่าจ้างหรือเงินเดือน ค่าครองชีพที่โจทก์ได้รับจึงถือเป็นส่วนหนึ่งของค่าจ้างที่จำเลยจ่ายให้เป็นการตอบแทนการทำงาน จึงเป็นค่าจ้างที่ต้องนำมาคำนวณค่าชดเชยด้วย
จำเลยจ่ายเงินค่าพาหนะให้โจทก์เนื่องจากตำแหน่งงานของโจทก์มีจำนวนแน่นอนในอัตราเดือนละ 1,200 บาท เงินจำนวนดังกล่าวถือว่าเป็นเงินที่ตอบแทนการทำงานในเวลาปกติของวันทำงานในตำแหน่งหน้าที่ของโจทก์ จึงเป็นค่าจ้างตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน ลงวันที่ 16 เมษายน 2515
สินจ้างโดยมิได้บอกกล่าวล่วงหน้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 582 นั้นรวมถึงค่าครองชีพและค่าพาหนะที่โจทก์ได้รับด้วย เพราะเป็นเงินที่จำเลยจ่ายให้โจทก์เพื่อตอบแทนการทำงานซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของค่าจ้าง
จำเลยจ่ายเงินค่าพาหนะให้โจทก์เนื่องจากตำแหน่งงานของโจทก์มีจำนวนแน่นอนในอัตราเดือนละ 1,200 บาท เงินจำนวนดังกล่าวถือว่าเป็นเงินที่ตอบแทนการทำงานในเวลาปกติของวันทำงานในตำแหน่งหน้าที่ของโจทก์ จึงเป็นค่าจ้างตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน ลงวันที่ 16 เมษายน 2515
สินจ้างโดยมิได้บอกกล่าวล่วงหน้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 582 นั้นรวมถึงค่าครองชีพและค่าพาหนะที่โจทก์ได้รับด้วย เพราะเป็นเงินที่จำเลยจ่ายให้โจทก์เพื่อตอบแทนการทำงานซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของค่าจ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3562/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าครองชีพและค่าพาหนะเป็นส่วนหนึ่งของค่าจ้าง ต้องนำมาคำนวณค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า
เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า จำเลยจ่ายค่าครองชีพให้โจทก์เป็นประจำทุกเดือน มีจำนวนแน่นอนเช่นเดียวกับค่าจ้างหรือเงินเดือน ค่าครองชีพที่โจทก์ได้รับจึงถือเป็นส่วนหนึ่งของค่าจ้างที่จำเลยจ่ายให้เป็นการตอบแทนการทำงาน จึงเป็นค่าจ้างที่ต้องนำมาคำนวณค่าชดเชยด้วย
จำเลยจ่ายเงินค่าพาหนะให้โจทก์เนื่องจากตำแหน่งงานของโจทก์มีจำนวนแน่นอนในอัตราเดือนละ 1,200 บาท เงินจำนวนดังกล่าวถือว่าเป็นเงินที่ตอบแทนการทำงานในเวลาปกติของวันทำงานในตำแหน่งหน้าที่ของโจทก์ จึงเป็นค่าจ้างตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ลงวันที่ 16เมษายน 2515
สินจ้างโดยมิได้บอกกล่าวล่วงหน้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 582 นั้นรวมถึงค่าครองชีพและค่าพาหนะที่โจทก์ได้รับด้วย เพราะเป็นเงินที่จำเลยจ่ายให้โจทก์เพื่อตอบแทนการทำงานซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของค่าจ้าง
จำเลยจ่ายเงินค่าพาหนะให้โจทก์เนื่องจากตำแหน่งงานของโจทก์มีจำนวนแน่นอนในอัตราเดือนละ 1,200 บาท เงินจำนวนดังกล่าวถือว่าเป็นเงินที่ตอบแทนการทำงานในเวลาปกติของวันทำงานในตำแหน่งหน้าที่ของโจทก์ จึงเป็นค่าจ้างตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ลงวันที่ 16เมษายน 2515
สินจ้างโดยมิได้บอกกล่าวล่วงหน้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 582 นั้นรวมถึงค่าครองชีพและค่าพาหนะที่โจทก์ได้รับด้วย เพราะเป็นเงินที่จำเลยจ่ายให้โจทก์เพื่อตอบแทนการทำงานซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของค่าจ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 172/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าพาหนะจ่ายให้ลูกจ้างออกนอกสถานที่ถือเป็นค่าจ้าง แต่ค่าเช่าบ้านไม่ถือเป็นค่าจ้างหากไม่ได้จ่ายเพื่อตอบแทนการทำงาน
ค่าพาหนะเหมาจ่ายเดือนละ 1,500 บาท โดยลูกจ้างต้องออกทำงานนอกสถานที่ ถือเป็นค่าจ้างตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง การคุ้มครองแรงงาน แต่ค่าเช่าบ้านไม่ใช่จ่ายเพื่อตอบแทนการทำงาน ตามสภาพไม่ถือเป็นค่าจ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 376/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานแจ้งความเท็จเกี่ยวกับการเบิกจ่ายค่าพาหนะเดินทางของข้าราชการ โดยข้าหลวงประจำจังหวัดมีอำนาจพิจารณาเบิกจ่าย
ข้าหลวงประจำจังหวัดเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จะพิจารณาและสั่งอนุญาตเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินค่าพาหนะเดินทางของข้าราชการเมื่อจำเลยทำใบสำคัญเท็จมาแสดง เพื่อขอเบิกเงินตามใบสำคัญนั้นก็อาจทำให้ข้าหลวงประจำจังหวัด หรือรัฐบาลเสียหายได้จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานแจ้งความเท็จตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 118
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 13895/2555
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าพาหนะเหมาจ่ายไม่ถือเป็นค่าจ้าง การจ่ายเงินรางวัลประจำปีและเงินสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
เดิมจำเลยจ่ายค่าพาหนะให้โจทก์เมื่อไปปฏิบัติงานนอกสถานที่เป็นรายครั้งตามค่าใช้จ่ายที่โจทก์เบิกจ่าย ต่อมาจำเลยมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงโดยให้โจทก์รับค่าพาหนะเป็นการเหมาจ่ายรายเดือน ตามคำสั่งดังกล่าวระบุว่าการอนุมัติค่าพาหนะให้แก่โจทก์ให้ถือว่าเป็นการให้เฉพาะตำแหน่งที่ดำรงอยู่ในขณะนั้นเท่านั้น หากมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งและลักษณะงานที่ไม่จำเป็นจะต้องได้รับค่าพาหนะ จำเลยมีสิทธิยกเลิกเงินได้ค่าพาหนะนั้น แปลความได้ว่าจำเลยตกลงให้ค่าพาหนะแก่โจทก์ต่อมาเมื่อโจทก์มีตำแหน่งและลักษณะงานที่ต้องเดินทาง มิได้ให้ค่าพาหนะเป็นการถาวรตลอดไปมีการเปลี่ยนแปลงได้ กรณีจึงเป็นการที่นายจ้างให้เงินเพิ่มแก่ลูกจ้างเป็นครั้งคราวตามลักษณะการทำงาน มิได้ให้เพื่อตอบแทนการทำงานโดยตรงไม่ถือเป็นค่าจ้าง